สวัสดีชาว SistCafe ทุกคนค่า =^^=

" เธอบ้าหรอ ซื้อหวีอะไรราคาเท่านี้ หวี 5 บาท 10 บาท ก็หวีผมได้เหมือนกัน ทำไมต้องซื้อหวีอะไรแพงขนาดนี้ " ( หลายคนทำหน้าระอากับพฤติกรรมการใช้เงินของเรา)

ผิงขอ Confirm ว่าไม่เหมือนคะ ( ถ้าแฟนคุณ หรือคนรอบตัวคุณไม่เข้าใจ เปิดรีวิวให้ดูเลยคะ 5555 )

เพราะหวีพวกนี้ จะไม่กินผม สังกะตังแค่ไหนก็เอาออกได้โดยผมไม่เสีย เกิดไฟฟ้าสถิตน้อยกว่าลดการชี้ฟู บางตัวช่วยนวดหนังศรีษะทำความสะอาดหนังศรีษะไปด้วยในตัว

หวีที่ผิงเคยเห็นแพงสุดๆๆๆๆ อยู่ที่ประมาณ 6000 บาท

แต่ในวันนี้ผิงเอาสองตัวนี้มา Battle กันคะ

รูปภาพ:

มุมแดง -------> Tangle Teezer



ตัวนี้เพื่อนแนะนำให้ลอง ตอนแรกผิงก็คิดเหมือนทุกคนคะ บ้าหวีอะไรราคาเต็มตั้ง 950 บาท

ดูแล้วก็เป็นพลาสติก ธรรมดา แต่ตอนนั้นมี Sephora ลด 20% เลย มา!!! จัดมาสักอันสิ พอแกะมาลองหวี มันให้ความรู้สึกที่พิเศษมาก เวลาใช้ไม่เคยรู้สึกดึงหัวเลย แม้ผมพันกัน พอลองหวีสักครั้ง คุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงแพง ( ตอนที่ผิงซื้อมาใหม่ๆ เคยทำรีวิวไว้ เดี๋ยวจะแปะคลิปไว้ท้ายกระทู้นะคะ )

รูปภาพ:รูปภาพ:

ผิงจะแบ่งผมเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายของผิงจะหวีตัว

มุมน้ำเงิน Air Motion

ด้านขวาของผิงจะหวีด้วย

Tangle Teezer

งานแรก ยีผมเป็นนางโชว์ แล้วดูว่าตัวไหนเอาสังกะตังออกได้ดีกว่ากัน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

งานนี้ผิงขอบอกว่า Tangle Teezer ชนะใสๆ เลยคะ เอาออกได้ดีกว่า ผมกลับมาเงางาเหมือนเดิม ไม่ดึงหนังศรีษะ



สิ่งที่สอง -----> ถ้าจะเอาหวีนวดหนังศรีษะ ใช้ Air Motion จะ Work กว่า เพราะเวลา Tangle Teezer โดนหนังศรีษะจะเจ็บๆ นิดนึง



สิ่งที่สาม ------> ไฟฟ้าสถิต Tangle Teezer ก็ชนะไป เกิดไฟฟ้าสถิตน้อยกว่า Air Motion เยอะ

มาดูซี่หวีกันบ้าง

รูปภาพ:

หวี Tangle Teezer จะมีซี่หวีที่เล็กกว่าหวี Air Motion

แล้วแต่ใครชอบตัวไหนมากกว่ากัน ส่วนตัวผิงชอบ Tangle Teezer มากกว่า เพราะเอาผมที่พันกันออกได้ดี รุ่นในมือเป็นรุ่นพกพาด้วยมีที่ครอบป้องกันซี่หวีพังเวลาพกพา แถมสวยมาก สีเงาๆ ดี

ถ้าใครอยากดูแบบคลิปผิงก็มีให้ดูนะคะ

และที่สัญญาไว้ด้านบน คลิปรีวิว Tangle Teezer คะ


วันนี้ผิงไปก่อนนะคะ ขอบคุณค่า


บทความที่เกี่ยวข้อง