สวัสดีค่ะ วันนี้ปาล์มกลับมาพร้อมกับการแนะนำแป้งผสมรองพื้นทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน เจ้าแป้งผสมรองพื้นเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่สาวๆต้องมีกันไว้ติดตัว เพราะมันใช้งานได้สะดวกมากกกกก

สำหรับปาล์ม วันไหนเบื่อแต่งหน้าหลายขั้นตอน ไม่อยากลงรองพื้น ปาล์มก็จะปาดเจ้าแป้งผสมรองพื้นแทนไปเลยสำหรับแป้งผสมรองพื้นทั้ง 4 ยี่ห้อที่อยากแนะนำนั้น มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

รูปภาพ:

ก่อนที่จะไปดูการีวิวแป้ง มาดูรีวิวผิวของปาล์มก่อนนะคะ

ปาล์มมีผิวมันแค่ช่วง T-Zone และมีปัญหารอยเส้นเลือดกระจายทั่วแก้ม และใต้ตาดำจากการเป็นภูมิแพ้ค่ะ

รูปภาพ:

จากนี้ไปมาดูรีวิวแป้งกันได้เลยค่า

1. Maybelline Clear Smooth All in One SPF 30 PA++ No.03 เนื้ออ่อน ปริมาณ 9 กรัม / ราคา 199 บาท

รูปภาพ:

เนื้อแป้งจะค่อนข้างแห้งนะคะ ไม่มีผสมกลิตเตอร์ ทาแล้วจะได้สีออกอมชมพู หากใครสีผิว Undertone เหลือง ข้ามตัวนี้ไปเลยก็ได้ค่ะ เพราะเวลาสีดรอประหว่างวันแล้ว หน้ามันจะออกเทาๆ นิดนึงค่ะ

การปกปิดทำได้ในระดับปานกลางเท่านั้นนะคะ สามารถปิดรอยเส้นเลือด หรือรอยแดงได้ประมาณ 50% เท่านั้น

ในส่วนของการปดปิดรูขุมขนก็ทำได้ในระดับปานกลางค่ะ ใครรูขุมขนกว้างใช้แป้งตัวนี้ต้องระวังนะคะ เพราะมันแห้งและตกร่องได้ง่ายค่ะ

การกันน้ำทำได้ดีเลยค่ะ หลังโดนน้ำแป้งยังติดทนอยู่ ใช้มือถูๆ ก็ไม่หลุด

การคุมมันที่กล่องเคลมว่า 12 ชม. แต่สำหรับปาล์ม 5 ชม. ก็มันแล้วค่ะ แต่ข้อดีคือหลังซับมันแล้วแป้งไม่ค่อยหลุด และพอ touch up แป้งเพิ่มก็ไม่ค่อยเป็นคราบค่ะ

*** ตัวนี้ใส่น้ำหอมค่อนข้างเยอะนะคะ ใครแพ้น้ำหอมข้ามไปเลยค่ะ ***

2. Chao Nang Perfect Bright UV 2 Way Foundation Powder SPF20 PA+++ No.02 ปริมาณ 10 กรัม / ราคา 390 บาท

รูปภาพ:

เนื้อแป้งเนื้อนิ่มเนียนละเอียดผสมกลิตเตอร์ขนาดเล็ก ช่วยกระจายแสงได้ดี ทาออกมาแล้วขอบอกว่า สีมันเข้ากับผิวได้ดีมากๆ ค่ะ ระหว่างวันสีปรับลงมานิดหน่อย ไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำ อ้อเนื้อแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยค่ะ

การปกปิดต้องแยกเป็น 2 แบบนะคะ เพราะตัวนี้เขาใช้เป็นแบบ 2 way

- ใช้แบบพัฟแห้ง ปกปิดได้ดีค่ะ พวกรอยเส้นเลือด รอยแดงปิดได้ 80% ส่วนรูขุมขนก็ปิดได้ระดับดีค่ะ

- ใช้แบบพัฟเปียก ปกปิดดีมากค่ะ รอยเส้นเลือดและรอยแดงปิดได้ 100% เลย เวลาทาวิธีการทาที่ถูกต้อง คือ ต้องกดๆ เอานะคะ ถ้าใช้พัฟปาดแป้งจะมีโอกาสทำให้เป็นคราบนะคะ

การกันน้ำกันได้ดีค่ะ โดนน้ำโดนเหงื่อไม่มีลอก ใช้มือถูๆ ก็ไม่หลุดค่ะ

การคุมมันตัวนี้สำหรับปาล์มไม่ว่าจะทาแบบไหนก็คุมมันอยู่ได้ประมาณ 5-6 ชม. ค่ะ เวลา Touch up ก็ไม่เป็นคราบค่ะ

3. Cute press Evory Snow SPF30PA++ No. N2 ปริมาณ 12 กรัม / ราคา 319 บาท

รูปภาพ:

เนื้อแป้งเนื้อเนียนละเอียดและนุ่ม เกลี่ยแล้วเนียนไปกับผิวเลยค่ะ แถมยังมีเจ้า Snow mica เป็นกลิตเตอร์เนื้อละเอียด แต่ขนาดใหญ่แบบมองเห็นชัดนิดนึงกระจายอยู่ทั่วเนื้อแป้งด้วยค่ะ ตัวนี้ไม่ใส่น้ำหอมนะคะใครที่แพ้น้ำหอมลองใช้ตัวนี้ได้ค่ะ

ส่วนเฉดสีเข้ากับผิวได้ดีค่ะ ระหว่างวันมีสีดรอปมากแต่ไม่มาก ไม่เทา ตัวนี้จะมีข้อดีตรงที่ ทำเฉดสีแยกมาเลยระหว่างผิว Undertone เหลือง และผิว Undertone ชมพู

การปกปิดปกปิดได้ดีมากค่ะ ปาดทีเดียวปิดรอยแดง รอยเส้นเลือดได้เลย ส่วนรูขุมขนก็ปิดได้ดีค่ะ อาจจะมีตกร่องบ้างเล็กน้อย เพราะเนื้อแป้งจะค่อนข้างหนา

การกันน้ำกันน้ำได้ดี โดนน้ำโดนเหงื่อไม่มีลอก ใช้มือถูๆ ก็ไม่หลุดค่ะ

การคุมมันตัวนี้คุมมันได้ประมาณ 5-6 ชม.ค่ะ แต่มีข้อเสียนิดนึงคือ เวลาซับมันออก แล้วจะ Touch up ต้องระวังดีๆ เพราะแป้งตัวนี้เนื้อค่อนข้างหนา จะทำให้เป็นคราบ หรือตกร่องได้ค่ะ

4. Mistine Wing Extra Cover SPF25 PA++ No.02 ปริมาณ 10 กรัม / ราคา 180 บาท

รูปภาพ:

เนื้อแป้งเนื้อแป้งเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ผสมกลิตเตอร์เล็กๆ ช่วยกระจายแสง สำหรับแป้งรุ่นนี้เขาจะทำสีออกมาค่อนข้างขาวค่ะ เบอร์ 02 ไม่ค่อยต่างจากเบอร์ 01 เลย ระหว่างวันสีดรอปเล็กน้อย ไม่เทาค่ะ

การปกปิดปกปิดได้ปานกลาง แต่เรื่องปกปิดรูขุมขนถือว่าทำได้ดีค่ะ

การกันน้ำกันน้ำได้ดี โดนน้ำโดนเหงื่อไม่มีลอก ใช้มือถูๆ ก็ไม่หลุดค่ะ

การคุมมันถือเป็นข้อดีที่สุดของแป้งตัวนี้เลย เพราะว่ามันคุมมันได้ประมาณ 6-7 ชม. ค่ะ ซับมันแล้วแป้งหลุดติดมาน้อยมาก หลังซับมันแล้วหน้าจะยังใสอยู่เหมือนเดิม ไม่ต้องเติมแป้งเพิ่มก็ได้ค่ะ

หลังจากดูรีวิวเป็นรายตัวแล้วมาดูสรุปกันนะคะ

เทียบสีของแป้ง

รูปภาพ:

จะเห็นว่าของ Maybelline สีจะอมแดง Mistine จะออกขาว เหมาะกับการเป็นเบอร์ 01 มากกว่า ส่วนเจ้านาง สีจะกลืนกับผิวค่อนข้างดี( ปาล์มใช้เป็นสีเบอร์ 02 ของทุกยี่ห้อมาค่ะ ยกเว้น Maybelline ใช้เบอร์ 03 )

การปกปิด

จะเรียงลำดับได้ตามนี้ค่ะ (เรียงจากปกปิดมากไปปกปิดน้อย)

เจ้านาง แบบพัฟเปียก = Cute press > Mistine = เจ้านางแบบพัฟแห้ง > Maybelline

หากใครอยากดูการทดสอบแบบ VDO จิ้มเลย

ก็จบแล้วนะคะสำหรับการรีวิวแป้งผสมรองพื้นทั้ง 4 แบรนด์ที่เรานำมาเทียบสี เทียบหน้าให้เห็นกันจะๆ หวังว่าสาวๆ คนไหนที่หาแป้งผสมรองพื้นราคาเบาๆอยู่คงได้ข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ค่า บ๊ายบาย

บทความที่เกี่ยวข้อง