สวัสดีค่า

สาวๆ

Sis

ta

Ca

fe

ทุกคน (✿◠‿◠)

วันนี้มาอัปเดตความสวยความงามกันอีกแล้ววว ความสวยความงามกับ

ผู้หญิง

เป็นของคู่กันจริงๆ  ไม่ว่าใครๆ ก็อยากจะสวย ดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่เหมือนฟ้าลั่นสวรรค์แกล้ง (T_T) ที่ต้องมีเหตุทำให้สาวๆ อย่างเราๆ มีจุดด้อยบนร่างกาย อย่าง

รอยแผลเป็น

และ

รอยสิว

ที่เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ


โดยเฉพาะ

รอยสิวที่หลัง

ที่มาขัดตาทัพ อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ ตาม

แฟชั่น

เกาะอก โชว์หลัง เปิดไหล่ ไปทะเลก็อยากใส่บิกินี่สุดเซ็กซี แต่

รอยสิวที่หลัง

เหล่านี้ ก็ทำให้ไม่มั่นใจเอาซะเลย

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาบอกต่อ สำหรับสาวๆ ที่อยาก

รักษารอยสิวที่หลัง

ให้หายขาดแบบอยู่หมัด ด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ ซึ่งถ้าหากทำอย่างสม่ำเสมอ รับรองได้ว่า หายขาดชัวร์ๆ เลยค่ะ

เชอร์รี่

ฟันธงヽ(^o^)

1. ขัดผิว

รูปภาพ:http://www.dailywt.com/wp-content/uploads/2013/07/3-Easy-DIY-Body-Scrub-Recipes.jpg

ขั้นตอนแรก ที่สาวๆ ควรทำเลยก็คือการ

Scrub

หรือการ

ขัดผิว

นั่นเองค่ะ เพราะจะช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ให้หลุดออก ทำให้ผิวสะอาด เรียบเนียน และไม่เกิดสิวใหม่ได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยลดความมันที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอีกด้วยค่ะ

การ

ขัดผิว

ควรทำประมาณ

สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง


ไม่ควรทำทุกวัน

เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวมากกว่าการดูแล การขัดผิวบ่อยเกินไป จะทำให้ผิวบริเวณนั้นหยาบด้านและหนาขึ้น ซึ่งอาจจะพังกว่าเดิมได้นะคะสาวๆ

ก่อนสครับ อาจจะใช้

ใยบวบ

ขัดตัวก่อนก็จะช่วยให้เห็นผลดียิ่งขึ้นค่ะ

รูปภาพ:https://images.britcdn.com/wp-content/uploads/2014/03/2-Main-Banana.jpg

Scrub

หรือ

ครีมขัดผิว

มีอยู่หลายสูตร แต่ละสูตรจะมีสรรพคุณที่ต่างกันออกไป เช่น

มะขาม

จะมีกรดผลไม้ AHA ที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำและรอยแผลเป็น

เกลือทะเล


ช่วยผลัดเซลล์ผิวโดยเฉพาะบริเวณที่หยาบกร้าน เช่น


ข้อศอก เข่า ตาตุ่ม

กาแฟ


กากกาแฟมีข้อดีคือจะไม่บาดผิว ช่วยให้ผิวสะอาด เนียนนุ่ม ดูกระจ่างใส

การสครับ

ไม่ว่าจะเป็นสูตรใด ก็สามารถช่วยในเรื่องของการ

ลดรอยสิว

ได้เป็นอย่างดีค่ะ

โดยการเลือกสครับ ควรเลือกที่เป็นเนื้อละเอียด เม็ดสครับไม่หยาบมากจนเกินไป หากสาวๆ ใช้สครับขัดผิว ขัดบริเวณแผ่นหลังที่เป็นรอยสิว เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รอยสิวก็จะค่อยๆ จางหายไป จนเผยผิวเนียนสวยได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ สามารถขัดผิวบริเวณอื่นที่เป็น

รอยแผลเป็น

หรือบริเวณผิวที่ดำด้าน อย่าง

ข้อศอก เข่า ตาตุ่ม

ก็ช่วยให้ผิวเนียน กระจ่างใส ลดรอยดำด้านได้เช่นกันค่ะ


2. พอกผิว

รูปภาพ:http://coszi.com/media/wysiwyg/blog/all-natural-whitening-mask-1.jpg

การพอกผิว

เป็นการปรนนิบัติผิวอย่างหนึ่งค่ะ คล้ายๆ กับการทำสปา

ครีมพอกผิว

จะมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม

ลดรอยดำและรอยแผลเป็นจากสิว

อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง

ขาวกระจ่างใส

สามารถทำได้บ่อย

3-4 ครั้งต่อสัปดาห์


หรือถ้าหากมีเวลา อาจจะทำมากกว่านั้นก็ได้นะคะ โดยการ

พอกผิว

ให้พอกครีมให้ทั่วบริเวณที่เป็นรอยสิวและรอยแผลเป็น หรือจะพอกทั้งตัวเลยก็ได้เหมือนกันค่ะ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/0c/a7/a1/0ca7a155aad7c975efe767dd968580d9.jpg

ครีมที่ใช้สำหรับ

พอกผิว

มีหลากหลายสูตรเช่นเดียวกับสครับค่ะ จะใช้เป็นครีมพอกผิวสำเร็จรูปหรือนำส่วนผสมมา DIY ทำเป็นครีมพอกผิวก็ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนผสมที่มีประโยชน์สำหรับการพอกผิวก็มีอยู่หลายชนิด อย่างสมุนไพรไทยก็ช่วยได้มากในเรื่องของการบำรุงผิว เช่น

ผงขมิ้นช่วยให้ผิวขาว กระชับรูขุมขน ลดรอยดำจากสิวและรอยแผลเป็นต่างๆ

ดินสอพองช่วยดูดซับความมัน ขจัดสิวเสี้ยน ทำให้ผิวเนียนนุ่ม

มะนาวช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ

เวลาพอกผิว อาจจะใช้เป็น

ผงขมิ้น

หรือ

ดินสอพอง

ผสมกับ

น้ำมะนาว

นมสดหรือน้ำเปล่า ก็ได้ค่ะ แล้วนำมาพอกผิว หรือจะใช้เป็น

มะนาว

ผ่าซีกมาถูบริเวณที่เป็น

รอยสิวและรอยแผลเป็น

รวมถึง

รักแร้ ข้อศอก เข่า ตาตุ่ม

แต่ถ้าใช้

มะนาว

แนะนำว่าให้ทำเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ เพราะมะนาวมีกรดผลไม้ หากใช้บ่อยเกินไปจะเป็นการทำร้ายผิว ทำให้ผิวบางลงได้ง่ายค่ะ


3. ฟอกผิว

รูปภาพ:http://www.bright-skincare.com/wp-content/uploads/2016/08/r6.jpg

ฟอกผิว

คือการใช้สบู่อาบน้ำฟอกผิวนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการทำความสะอาดผิว เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

การเลือกสบู่

ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะสบู่บางชนิด อย่างเช่น

สบู่เหลว

อาจจะไม่เหมาะนักสำหรับคนที่เป็นสิวที่หลังหรือคนที่ผิวมัน เพราะสบู่เหลวจะทำให้ผิวอุดตันง่าย หากล้างไม่สะอาดก็ทำให้เป็นสิวได้เช่นกันค่ะ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/51/3f/85/513f855e95bb2ee01370ba913e68cf19.jpg

สบู่

สำหรับคนที่เป็น

สิวที่หลัง

หรือมี

ผิวมัน

ควรเลือกใช้เป็น

สบู่ก้อน

ค่ะ โดยเฉพาะสบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องของการลดรอยดำจากสิวและไม่ทำให้เกิดสิวใหม่ อย่างเช่น

สบู่มะขาม สบู่ทานาคา สบู่เมล็ดเจีย

สบู่ก้อนจะให้ความรู้สึกที่สะอาดหมดจดมากกว่าและทำให้ผิวมันน้อยลงด้วยค่ะ


4. ทาครีมบำรุงผิว

รูปภาพ:https://3.bp.blogspot.com/-Po6Aeb_14aw/V2dHSxmv3II/AAAAAAAABuA/l-oD29aocYM3azb7OjQb_It1d3mRVDmQQCLcB/s1600/3.jpg

การใช้สบู่ก้อน อาจจะมีข้อเสียอย่างหนึ่ง ตรงที่ทำให้ผิวแห้ง ซึ่งต้องมาเน้น

การบำรุงผิว

ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ควร

หลีกเลี่ยง

ครีมบำรุงผิวชนิด

ครีมเข้มข้น

หรือที่เป็น

เนื้อโลชั่นสีขาว

เพราะจะทำให้

ผิวอุดตันและเป็นสิวง่าย

ซึ่งไม่เหมาะสำหรับคนผิวมันและคนที่เป็นสิวที่หลังด้วยค่ะ

ควรเลือกใช้เป็นโลชั่นแบบเจล เนื้อใส อย่างเช่น

เจลว่านหางจระเข้ที่ช่วยในเรื่องลดการเกิดสิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น และลดรอยดำจากสิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใสได้อีกด้วยนะคะ

รูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/5ehqT0eqsBY/maxresdefault.jpg

นอกจากทา

ครีมบำรุงผิว

เพื่อสุขภาพผิวที่ดีแล้ว สาวๆ ต้องไม่ลืมที่จะปกป้องผิวด้วยการ

ทาครีมกันแดด

กันด้วยนะคะ เพราะต่อให้ดูแลผิวดียังไง แต่โดนแสงแดดทำร้ายบ่อยๆ ผิวก็เสียได้เหมือนกันค่ะ

ครีมกันแดด

เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรทาเป็นประจำทุกวัน

ก่อนออกแดด 20 นาที

และ

ทาซ้ำ  ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง

ด้วยนะคะ เพื่อการปกป้องผิวตลอดทั้งวัน

โดยต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF  30-50 ถ้าหากอยู่ในร่ม ไม่ได้เจอแดดตรงๆ ก็อาจจะใช้ครีมกันแดดที่ SPF ไม่ต้องสูงมาก แต่ถ้าหากทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็ควรใช้ครีมกันแดดที่ SPF สูงหน่อย เพื่อการปกป้องผิวที่มีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ


5. ทานวิตามินบำรุงผิว

รูปภาพ:http://europasia.net/wp-content/uploads/2016/03/vitc2.jpg

การบำรุง

ปรนนิบัติผิวภายนอกว่าสำคัญแล้ว การบำรุงจากภายในก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาผิวหนักๆ อาจจะเลือก

ทานวิตามินเสริม

ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว อย่างเช่น

วิตามินซีและวิตามินอี

ที่มีส่วนช่วยกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ


รักษาและสมานแผล ทำให้

รอยแผลดูจางลง

ซึ่งจะทำให้ผิวเรียบเนียน ดูมีน้ำมีนวลและสุขภาพผิวดีค่ะ

ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในเรื่องของการทานวิตามินด้วยนะคะ เพื่อให้ส่งผลดีต่อร่างกายและผิวโดยตรง

รูปภาพ:http://www.healthmee.com/images/forum/255704/car_26181411.jpg

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือ เรื่องของการรับประทานอาหาร สาวๆ ควรเลือก

ทานอาหารที่มีประโยชน์

โดยทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ เน้น

ทานผักผลไม้


หมั่นออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอดื่มน้ำสะอาดมากๆ

สาวๆ หลายคนมักจะชอบนอนดึก ซึ่งการนอนดึก นอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่กระปรี้กระเปร่าแล้วยังเป็นการทำร้ายผิวอีกด้วย สังเกตง่ายๆ เวลาที่เรานอนดึกหน้าจะโทรม ขอบตาคล้ำ ผิวกายจะแห้งกร้าน ดูไม่สดใสเปล่งปลั่ง นั่นเองค่ะ

รู้แบบนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นดูแลตัวเอง สวยแล้วต้องมีสุขภาพดีกันด้วยนะคะ เมื่อสุขภาพร่างกายดีแล้วสุขภาพผิวดีจะหนีไปไหน จริงมั้ยคะสาวๆ

ทั้งหมดนี้ ก็เป็น

5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการรักษารอยสิวที่หลัง

ให้หายขาดค่ะ แต่ละขั้นตอน อาจจะต้องใช้

ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว

ซึ่งตรงนี้จะเลือกเป็นยี่ห้ออะไรก็ได้นะคะ

โดยดูจาก

ส่วนผสม สรรพคุณและการรับรองจาก อย. รวมถึงซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้

จะได้สวยอย่างปลอดภัยกันถ้วนหน้า หรืออย่างสครับกับครีมพอกผิว สาวๆ อาจจะดูสูตรจากอินเตอร์เน็ต แล้ว

DIY

ทำไว้ใช้เองก็ได้เหมือนกันนะคะ

รอยสิว

เป็นอะไรที่รักษายากมากกก สิ่งสำคัญคือต้องอาศัย

ระยะเวลา


ความสม่ำเสมอ

และ

การมีวินัย

โดยหมั่นทำทั้ง

5 ขั้นตอน " ขัด พอก ฟอก ทา ทาน "

เป็นประจำ หลังเนียนสวยไร้รอยสิว แถมด้วยผิวสุขภาพดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ (〃‿〃✿)


บทความที่เกี่ยวข้อง