6 ความจริงที่จะบอกว่า มันไม่ง่ายเลยที่มีแฟนเป็น 'ผู้หญิง' ด้วยกัน

การมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกัน โดยเฉพาะ" เลสเบี้ยน "หรือให้พูดแบบรื่นหูหน่อยก็" หญิงรักหญิง "จริงๆ หลายคนอาจจะคิดว่า" ก็ดีแล้วนี่! เพศเดียวกันย่อมเข้าใจกันดี "แต่... มันก็เป็นความจริงแค่ด้านหนึ่ง ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแหละ เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่ขึ้นชื่อว่าเรื่องเยอะอยู่แล้ว การมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกัน ในอีกมุมนั้นจึง" ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย "

#1 ใครก็คิดว่าเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน ( ในกรณีที่ยังไม่เปิดเผยมาก )

เลสเบี้ยนเป็นเพศทางเลือกที่สแกนเรดาร์ได้ยากมาก แม้แต่คนที่ออกตัวเป็นเลสเบี้ยนเอง บางทียังมองไม่ออกเลยว่าบางคนเขาเป็นเลสเบี้ยนจริงๆ โดยเฉพาะในเคสที่มีความสัมพันธ์แบบยังไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ให้รู้กันมาก อาจจะรู้กันแค่สองคน หรือรู้กันแค่กลุ่มคนสนิทเท่านั้น การวางตัวกับคนที่ไม่ได้สนิทอะไรมาก หรือวางตัวในที่สาธารณะในบางครั้งจึงลำบาก และยิ่งลำบากมากๆ เมื่อมีคนมาเกาะแกะแฟนเรา! แต่เราไม่กล้าพอจะพูดไปตรงๆ ว่า" ฉันคือแฟนตัวจริง เลิกยุ่งซะ! "ใครที่คบกันแบบไม่เปิดเผย พี่อาร์ตก็ขอให้กำลังใจนะคะว่าให้ชัดเจนในความรู้สึกกันและกันหน่อยเนอะ ตอนนี้อาจมีปัจจัยหลายอย่างไม่สะดวกจะให้ใครรับรู้ แต่ก็อย่าทำเหมือนว่าแฟนเราเป็นแฟนเก็บนะ ในขณะที่เพื่อนสนิทหรือคนที่เป็นพี่สาว/น้องสาว/ญาติ ของคนที่เป็นเลสเบี้ยนแต่มีความสัมพันธ์ในแบบนี้อยู่ ควรจะให้กำลังใจพวกเขานะคะ เพื่อให้สักวันชัดเจนกับความรักมากขึ้น กล้าที่จะทำสิ่งดีๆ โดยมีความรักดีๆ ผลักดันต่อไป

#2 มีแฟนที่อารมณ์แรงคูณสอง

การเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ก็จริงอยู่ที่ว่าทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการปรับความเข้าใจ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอช้อปปิ้งเยอะ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเป็นเมนส์แล้วหงุดหงิด ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมอ่อนไหวง่าย ฯลฯ อะไรประมาณนี้

แต่... ในอีกมุมหนึ่งนั้น ขอบอกเลยว่ามันทำให้กลายเป็นคนอารมณ์แรงคูณสองกับแฟนโดยไม่รู้ตัว เช่น

- บทจะหึง บางทีก็เข้าใจไปว่า ใช่ซี้... เธอมันใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน อ่อยไปทั่ว เช็คเรทติ้งไปทั่ว แล้วจะฟึดฟัด งอนนั่นนี่ไปเรื่อย ปากจัด สรรหาคำมาจิกกัดเรื่อยๆ

- บางทีฝ่ายคนโดนงอน ก็ทำเป็นเล่นแง่ ไม่ยอมง้อก่อน เพราะเข้าใจว่า " มันธรรมชาติของผู้หญิง มันก็แค่เรียกร้องความสนใจ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย ฉันรู้ ฉันเคยเป็น "

- บทโรแมนติก 18+ ก็ถึงอกถึงใจ เพราะรู้แก่ใจกันว่า ยังไงก็" ไม่ท้อง "

ใครที่มีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใดที่จะต้องมาปรับทั้งอารมณ์ตัวเองและอารมณ์ของแฟน หาจุดกึ่งกลางที่สบายตัวและสบายใจกันได้ลงตัว แม้จะเข้าใจกันดีในฐานะเพศเดียวกัน ก็อย่าลืมว่าพื้นฐานของเพศหญิงเป็นเพศที่จุกจิก และความจริงบนโลกนี้ก็คือ" แต่ละคนเกิดมาจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกับเรา เป็นไปได้ไม่ได้หรอกที่จะคิดอะไรตรงใจเราหมด "

#3 วันไหนที่ ปจด. มาพร้อมกัน วันนั้นคือหายนะคูณสอง

ผู้หญิงเรารู้ดีว่าช่วงเป็นเมนส์นั้นร่างกายและจิตใจแปรปรวนมากแค่ไหน ดังนั้น ไม่ต้องจินตนาการเลยว่า ถ้าคนเป็นแฟนกันต้องเป็นเมนส์พร้อมกันจะวุ่นวายมากเท่าไร เดี๋ยวเธอพูดไม่เข้าหู เดี๋ยวฉันคิดมากไปเอง เดี๋ยวก็รู้สึกรำคาญไม่อยากแตะเนื้อต้องตัวกัน ต้องอาศัยความอดทนอย่างมากกว่าจะผ่านวันแดงเดือดไปพร้อมกันได้

#4 เปลืองเงินคูณสอง

ผู้หญิงส่วนใหญ่มักมีนิสัยอยากได้ อยากซื้อนั่นนี่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะของจุ๊กจิ๊กอะไรก็ตามที่เห็นว่าน่ารัก แม้จะไร้สาระ ซื้อมาแล้วไม่ใช่ก็ช่างมัน, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า, เครื่องประดับ ฯลฯ ดังนั้น ถ้าเลสเบี้ยนคู่ไหนก็ตามที่บังเอิ๊ญ... บังเอิญ... มีนิสัยแบบนี้ด้วยกันทั้งคู่ เตรียมเก็บเงินไว้เยอะๆ เลย เพราะเดี๋ยวได้มีชวนกันซื้อ ชวนกันช้อป ซื้อให้ตัวเองบ้าง ซื้อเปย์แฟนบ้าง ไม่มีใครห้ามใครกันเลย

#5 คนภายนอกมักตัดสินบทบาทบนเตียงจากสไตล์การแต่งตัว

เป็นเรื่องที่ทั้งน่าขำและน่ารำคาญ เมื่อคนภายนอกมักตัดสินจากสไตล์การแต่งตัวว่า" ใครเป็นฝ่ายหญิง ใครเป็นฝ่ายชาย "หรือ" ใครเป็นรุก ใครเป็นรับ "เพราะการแต่งตัวมันไม่ได้สัมพันธ์กับบทบาทส่วนตัวเสมอไป ความชอบในการแต่งตัว กับบทบาทที่แสดงต่อคนรัก มันคนละเรื่องกัน! อยู่ที่ว่าคนสองคนจะตกลงกันอย่างไรก็เท่านั้น!

#6 เข้ากันได้ดี แต่มีคิดหนัก หากจะใช้ชีวิตร่วมกันแบบ " คู่สมรส "

นอกจากเรื่องของเรดาร์ที่มองออกยากที่สุด ในบรรดาเพศทางเลือกทั้งหมด ความจริงจังร่วมกันแบบ" คู่สมรส "ก็เป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อยเช่นกัน เพราะคู่เกย์ หรือคู่ทอม - ดี้ ผู้ใหญ่ยังพอจะมองออกบ้างว่า เดี๋ยวนี้ในสังคมก็มีเพื่อนๆ เยอะแล้ว อีกทั้งยังเชื่อมั่นใน" ความเป็นชาย "( ของผู้ชายที่เป็นเกย์ หรือทอม ) ที่แข็งแกร่งพอที่จะพากันทำมาหากินเลี้ยงชีพไปด้วยกันรอด ปกป้องคุ้มครองภัยกันได้

แต่สำหรับ" เลสเบี้ยน "ในสังคมบ้านเราที่มีเป็นข่าวก็เป็นแค่เพียงคู่จิ้นกันซะมากกว่า ยังไม่มีใครออกมาให้สัมภาษณ์กันมากขึ้นถึงการเป็นคู่สมรสกัน ใช้ชีวิตร่วมกันแบบครอบครัวเดียวกัน ( หรืออาจจะมีจริง แต่ไม่ต้องการออกสื่อก็เป็นไปได้ พี่อาร์ตเชื่ออย่างนั้น เพราะแม้แต่ต่างประเทศยังมีกันโครมๆ เป็นไปไม่ได้หรอกเนาะที่จะเว้นที่ประเทศไทยที่เดียว ) คนในสังคมส่วนใหญ่ รวมถึงญาติผู้ใหญ่จึงไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร ( และบางทีก็ค่อนข้าง " เหยียด " ) หากลูกหลานของตนเองเป็นเลสเบี้ยน ตัดสินใจที่อยากจะใช้ชีวิตแบบ" คู่สมรส "อยู่กิน มีบ้าน มีทรัพย์สินร่วมกันกับแฟนตัวเอง

แต่... กระนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นข้อที่ทำให้ชีวิตสูญสิ้นหมด กอดกันแน่นๆ เชื่อมั่นในความรักเข้าไว้ ขยันทำงาน ขยันทำเงินเยอะๆ ยิ่งดีค่ะ เพราะข่าวดีก็คือ แม้ประเทศไทยจะไม่มีกฎหมายอนุมัติให้เพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ( ทะเบียนสมรส = ใบเบิกทางสำหรับทำธุรกรรมต่างๆ ร่วมกันของคู่รัก เช่น เซ็นผ่าตัดให้กันได้, มีสิทธิในทรัพย์สินร่วมกันได้ง่ายในฐานะสินสมรส ) แต่ธนาคารหลายแห่งก็ให้สิทธิคู่รัก" กู้ร่วม "เพื่อมีทรัพย์สินร่วมกันได้ค่ะ เช่น ซื้อบ้านร่วมกัน, มีบริษัทร่วมกัน ( ลองศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตหรือสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารได้เลย ) จึงไม่ต้องกังวลใจเลยว่าเป็นไปได้รึเปล่าหากจะคบกับแฟนเลสเบี้ยนในระยะยาวไปจนตาย ค่อยๆ ศึกษาข้อมูลในเน็ตได้ค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะธนาคารหรือการตลาดอะไรก็ตาม เขาเปิดกว้างเยอะแล้ว :) )

อ่านมาขนาดนี้แล้ว คงพอจะเข้าใจกันบ้างนะคะว่า"ไม่มีรักไหน ที่ไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน "แม้จะต่างคนต่างมีนิสัยที่แย่ๆ เท่าไร หรือต้องเจออุปสรรคมากขนาดไหน สำคัญสุดคือ" กำลังใจ "และ" ความชัดเจนต่อกัน "ค่ะ เชื่อมั่นในความรักดีๆ ที่มีต่อกัน กอดกันให้แน่นพอเมื่อพบเจอกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ แล้วจะพบว่ารักที่ยืนยาวเราก็ทำได้ไม่ยากเลยนะ :))