เห็นแล้วรักเลย! "Bunny Sweet Home" คาเฟ่กระต่ายสำหรับคนรักกระต่ายที่แท้จริง!

หลายครั้งหลายคราเราก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตะลึงในทักษะการตามไปรีวิวคาเฟ่ของเราเหล่าสาวๆ

SistaCafe

นะคะ เรียกว่าแต่ละคนนี่มีเซ้นส์ของการสืบเสาะตามหาร้านดีร้านเด็ดทั่วราชอาณาจักรระดับยอดนักสืบจิ๋วโคนันยังต้องยอมแพ้เลยทีเดียวเชียว

และวันนี้อีกเช่นกัน เพิร์ลขอรับหน้าที่พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวคาเฟ่กระต่ายที่เพิร์ลแอบไปได้ยินมาว่าที่นี่เค้าเปิดสำหรับคนรักกระต่ายตัวจริงเท่านั้น! ในฐานะที่เพิร์ลก็มีเจ้ากระต่ายน้อยที่บ้านเหมือนกัน ( คิดว่าระดับความรักกระต่ายของเราน่าจะผ่านนะ อิอิ ) เลยต้องขอไปเยือนซะหน่อย ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ ขอให้เป็นน้องกระต่ายน้อย เพิร์ลสู้ตายค่ะ!!

ร่วมรีวิวคาเฟ่โดยยยย~~

Model by : Pearl's worldhttps://www.facebook.com/pearlnichapa/?fref=ts

Photograph by : Toobtub Foto https://www.facebook.com/ToobTubFoto/?fref=ts

Location : Bunny Sweet Home Cafehttps://www.facebook.com/bunnysweethome/

การเดินทางไปคาเฟ่กระต่าย Bunny Sweet Home

การเดินทางไปร้าน

Bunny sweet home

ไม่ยากเลยค่ะสาวๆ พิกัดอยู่ที่หมู่บ้านสัมมากร ซอยรามคำแหง 112 เหยียบคันเร่งตรงเข้าไปในหมู่บ้านเล้ยยย ไม่นานเราก็จะเจอทางแยก ที่ด้านขวามือเป็นศูนย์อาหารแยกสัมมากร หมุนล้อเลี้ยวขวาอย่างไวและขับรถตรงไปเรื่อยๆ นะคะ จะมองเห็นสโมสรหมู่บ้านสัมมากรอยู่ด้านซ้ายมือ สบายใจละมาถูกทาง ตรงไปจนถึงทางแยกที่มีร้านอาหารม่านเมืองอยู่ตรงหัวมุม ให้เลือกขับรถตรงไปในเส้นทางหลัก ไม่ต้องเลี้ยวทางไหนเลยน้า ให้สังเกตว่าทางขวามือจะมีทะเลสาปที่แรก ปล่อยล้อฟรีตรงไปก็จะเจอทะเลสาปที่ 2 ตรงไปตามเส้นทางหลักเรื่อยๆ ชะเง้อมองทางขวามือไว้นะคะ ถึงซอย 42 เมื่อไหร่ก็ บิงโก! เจอแล้วค่าาา ร้าน Bunny sweet home

หรือใครจะตาม Google Map ก็ได้น้า คลิกดูเลย :

https://goo.gl/maps/8me4GhhH3WQ2

บรรยากาศน่ารักๆ ภายในคาเฟ่

เรามาถึงร้านตั้งแต่ 11.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเปิดร้านพอดีเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะได้เล่นกับเด็กๆ ให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลย ( น้องขนฟูววว~ พี่มาแล้ววว~ ) ด้านหน้าถ้าไม่สังเกตดีๆ จะเหมือนเป็นบ้านน่ารักๆ หลังนึงนี่แหละ พอดีเหลือบไปเห็นป้ายร้านซะก่อนเลยจอดทัน

ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยก้อนหินกรวดสีขาวสะอาดตา พวกเราจัดแจงเปลี่ยนไปใส่รองเท้าที่ทางร้านจัดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าจากนั้นก็เข้าไปในร้าน เราได้พบกับคุณซาโตะซึ่งเป็นเจ้าของคาเฟ่กระต่าย Bunny Sweet Home นั่นเอง ( คุณซาโตะเป็นคนไทยนี่ล่ะค่ะ อย่าตกใจไป ไม่ใช่คนญี่ปุ่นเน่อ ) วันนี้จึงถือว่าเป็นวันที่พิเศษสำหรับเพิร์ลมากๆ เพราะจะได้มีเจ้าของร้านมาแนะนำวิธีการเลี้ยงกระต่ายที่ถูกต้องและได้เล่นกับน้องกระต่ายไปพร้อมๆ กัน ดีใจสุดๆ เลยล่ะ

แหม.. แต่เอาจริงๆ ว่าตอนแรกที่เดินเข้าร้านไปก็แอบงงๆ ปนตกใจเหมือนกันนะ เพราะปกติแล้วเวลาไปคาเฟ่กระต่ายหรือสัตว์อื่นๆ เนี่ยเราก็จะเห็นน้องๆ เค้าเดินไปมาในร้านเป็นธรรมดา แต่ว่าตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน ยังไม่เห็นกระต่ายเป็นๆ ซักตัวเลย! เห้ย!! นี่มันคาเฟ่กระต่ายอะไรเนี่ย ไม่มีกระต่ายให้เล่นหรอคะพี่ซาโตะ!!

กลายเป็นว่าเพิร์ลโก๊ะไปเองค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะโซนด้านขวาพี่เค้าจัดเป็นทั้งที่นั่ง และส่วนของโซนขายของของกระต่าย ไม่ว่าจะเป็นชุดน่ารักๆ อาหาร ของเล่น รวมไปถึงอุปกรณ์การเลี้ยงต่างๆ แต่น้องๆ กระต่ายน่ะจะอยู่ในห้องด้านซ้ายมือซึ่งจัดเป็นโซนเป็นสัดส่วนสำหรับการเล่นกับกระต่ายโดยเฉพาะนั่นเอง เดี๋ยวเพิร์ลพาเพื่อนๆ ไปดูน้องกระต่ายกันเลยดีกว่า

พี่ซาโตะบอกว่าปกติแล้วช่วง 11.00-14.00 น. จะเป็นช่วงของ

Training Session

สำหรับคนที่เลี้ยงกระต่ายแล้วมีปัญหา หรือเป็น

ช่วงให้คำปรึกษาสำหรับคนที่อยากเริ่มเลี้ยงแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนนั่นเอง

ส่วนใหญ่ก็จะติดต่อกันเข้ามาล่วงหน้าแล้วนัดเป็นกลุ่มมานั่งคุยนั่งปรึกษาหารือกัน ช่วยกันให้คำแนะนำถึงวิธีที่ถูกต้อง

และเมื่อเสร็จช่วงนี้แล้วก็จะเริ่มรับลูกค้าตั้งแต่ช่วงบ่ายสองเป็นต้นไปค่ะ

ซึ่งจากการพูดคุยกัน พี่ซาโตะบอกว่า

ที่นี่จะเน้นสอนในเรื่องของความรู้สึกและการเลี้ยงกระต่ายโดยให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาร การออกแบบพื้นที่เลี้ยง หรือแม้กระทั่งทำไมถึงต้องให้น้องๆ อยู่ในกรงตลอดเวลาแบบนี้! ทำไมล่ะคะ ทำไมไม่ปล่อย น้องๆ ออกมาวิ่งเล่น! ไม่กลัวน้องๆ เบื่อหรือคับแคบหรอ? ไม่กลัวเค้าอึดอัดหรอ?? ( สารพัดคำถามเกิดขึ้นในหัวเพิร์ลเลยล่ะค่ะ งานนี้ต้องถามให้เป็นความรู้ซะแล้ว! )

อยากเลี้ยงกระต่าย เลี้ยงไม่ยาก แค่ต้องรู้นิสัยของเค้าก่อน!

ที่คาเฟ่ Bunny Sweet Home แห่งนี้เค้าเปิดมากว่า 4 ปีแล้วค่ะ แต่จุดตั้งต้นของการทำคาเฟ่ก็ไม่ได้เหมือนใครที่ไหน เพราะพี่ซาโตะเค้าไม่ได้ตั้งใจทำธุรกิจตั้งแต่แรกนั่นเอง! พี่ซาโตะบอกเราว่าถ้าไม่มีลูกค้าก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นก็คือเวลาที่เราจะได้ใช้เวลากับเด็กๆ คอยฝึกฝนเค้าแทนยังไงล่ะ อื้อหือ.. ไม่รักจริงทำไม่ได้นะคะเนี่ย

โดยนิสัยของกระต่ายแล้วเพื่อนๆ ต้องรู้ไว้ก่อนเลยนะคะว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อเป็นอาหาร ดังนั้นตามธรรมชาติแล้วเค้าจะอาศัยอยู่ในโพรง โดยจะออกมาหาอาหารในเวลากลางคืนเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของนักล่าต่างๆ นั่นเอง และแม้ว่าสำหรับกระต่ายที่เราเลี้ยงกันอยู่นี้จะมีการดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ แต่พื้นฐานนิสัยก็ยังเหมือนเดิม ดังนั้นเค้าจึงไม่ได้ต้องการพื้นที่กว้างๆ ไว้วิ่งเล่นเหมือนอย่างหมาแมว

ยิ่งพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นของน้องๆ กว้างใหญ่ก็จะยิ่งทำให้เค้าระวังตัวมากขึ้น ส่งผลต่อการนอนคือนอนน้อยลง เกิดอาการเครียดและกลายเป็นสาเหตุทำให้เค้าก้าวร้าว สาเหตุนี้นี่เองเราจึงเห็นบ้านของน้องๆ กระต่ายเป็นกรงขนาดไม่ใหญ่นัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เค้ารู้สึกปลอดภัยนั่นเองค่ะ

ขยับมาในส่วนของสนามเด็กเล่นของน้องๆ กระต่ายกันบ้าง อย่างที่เราบอกไปว่าเรามักเห็นหลายๆ ร้านปล่อยให้เด็กๆ วิ่งเล่นกับลูกค้าไปทั่วร้าน แต่ที่นี่เค้าจะให้ลูกค้ามาเล่นกับน้องๆ แค่ในห้องนี้เท่านั้นเพื่อทั้งเป็นการฝึกให้เค้าอยู่เป็นสัดส่วน และอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยของพวกเค้าเองด้วย

อ้อๆ ขออวดอีกนิดนึงว่าทั้งในส่วนของร้านนี้และส่วนที่เป็น playground หรือสนามเด็กเล่นของน้องๆ กระต่ายเนี่ยพี่ซาโตะเค้าออกแบบเองเลยนะ แล้วไม่ได้คำนึงถึงแค่ความสวยงามเท่านั้นนะจ๊ะ แต่มีการคำนวณอัตราส่วนไว้ตามขนาดตัวของกระต่ายด้วย

ส่วนของอาหาร หลายคนมักคิดว่ากระต่ายต้องกินแครอท! กระต่ายต้องกินผักบุ้งสด! ซึ่ง... ผิด ผิด ผิด นะคะคุณ!! ไม่เอาค่ะ มาทำความเข้าใจใหม่ สิ่งที่กระต่ายกินได้นอกจากอาหารเฉพาะของเค้าแล้วก็คือหญ้าแห้งหรือแครอทอบแห้งนั่นเอง นอกจากการระวังอาหารแล้วก็จะสักแต่ให้ไม่ได้นะคะ เพราะต้องคำนวณถึงปริมาณในการให้ด้วย เพราะอาหารทุกอย่างก็มีปริมาณพลังงานไม่เท่ากันเนาะ มากไปน้อยไปก็ดีทั้งนั้น ท้องเสีย อึเหม็น แย่เลย - -" ถ้ารักเค้าก็ต้องให้ความสำคัญในรายละเอียดส่วนนี้ด้วยนะคะ

♥ ฝากไว้ให้ครุ่นคิสส~ นะจ๊ะ สำหรับคนที่เลี้ยงกระต่าย!! ♥

1. ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ห้ า ม !!! GOOGLE  เ ด็ ด ข า ด !!!

สิ่งที่มีอยู่ในกูเกิ้ลคือการบอกปากต่อปากกันมา เราบอกไม่ได้หรอกนะว่าใครรู้จริง รู้ไม่จริง ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงเอาความรู้ที่ไม่แน่นอนมาใช้กับเด็กๆ ของเราเลยนะคะ

2. อย่าคิดแทนน้องๆ เ ด็ ด ข า ด !!!

อย่าคิดแทนยังไง? เช่น อยากให้เค้ามีที่กว้างๆ จะได้วิ่งได้อย่างอิสระเหมือนเราวิ่งในทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์ หรือต้องกินเยอะๆ จะได้อิ่มๆ หรือต้องอาบน้ำจะได้สะอาดๆ เหล่านี้คือสิ่งที่เราคิดแทนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่กระต่ายไม่ควรอยู่ในพื้นที่กว้างไม่งั้นจะเครียด หรือต้องกินพอดีๆ พลังงานพอดีกับตัว จะได้ไม่มีปัญหาในท้อง หรือไม่ต้องอาบน้ำกระต่ายเพราะเค้าไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนเรา จึงไม่สกปรกตราบใดที่ให้เค้าอยู่พื้นที่ที่สะอาดค่ะ

3. ศึกษาข้อมูลจากสัตวแพทย์โดยตรงจะดีที่สุดนะจ๊ะ

สิ่งที่พี่ซาโตะแนะนำมาคือนำปัญหาของเราไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยตรงเลยคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คนเลี้ยงกระต่ายควรทำ เพราะหมอเค้าเรียนมา เค้าจะสามารถบอกสิ่งที่ถูกต้องให้กับเราได้แน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลี้ยงกระต่ายที่ดี ผู้เลี้ยงควรต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะนิสัยของน้องๆ ให้ดีก่อนเลี้ยงจะเป็นการดีที่สุดค่ะ เพื่อให้เค้าอยู่กับเราไปนานๆ นั่นเอง!

นอกจากความรู้ที่ได้แล้ว ที่นี่มีอะไรให้ทานบ้าง มาดูค่ะ!!

โอ๊ยยย~ เป็นอีกหนึ่งวันดีๆ ที่เพิร์ลประทับใจสุดๆ เลยล่ะค่ะ นอกจากจะได้เล่นกับน้องกระต่ายน่ารักๆ ขนฟูๆ นุ่มๆ แล้ว อาหารและขนมก็อร่อย แถมยังได้ความรู้เกี่ยวกับกระต่ายไปเลี้ยงเจ้าตัวน้อยที่บ้านอีกมากมายเลย บางอย่างเพิร์ลก็ยอมรับเลยว่าเราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ดีใจจริงๆ ที่ได้มาวันนี้

นอกจากประสบการณ์ดีๆ แล้ว ก็ยังได้เห็นความรักที่เจ้าของมีต่อสัตว์เลี้ยงชนิดที่เรียกว่ารักสุดใจเลยล่ะค่ะ พี่ซาโตะสอนให้เพิร์ลรู้ว่า การจะเลี้ยงสัตว์ซักตัว แค่รักไม่พอ แต่ต้องเอาใจใส่และศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเค้าให้รู้ลึกรู้จริงด้วย เพราะยิ่งเราดูแลเอาใจใส่เค้า เค้าก็จะได้อยู่กับเราไปนานๆ นั่นเอง

และเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจกำลังหาข้อมูลเพื่อไปเลี้ยงกระต่าย หรือมีปัญหาในการเลี้ยงก็ติดต่อไปทางร้านได้เลยนะคะ หรือจะไปนั่งเล่นนอนเล่นกับน้องๆ อันนี้ก็ไม่ว่ากัน Bunny Sweet Home ยินดีต้อนรับทุกคนแน่นอน!