สวัสดีจ้าสาวๆSistaCafe

ไหนๆ มีใครเป็นแแบบเก๊าบ้าง ที่แค่เห็นชาเขียวก็ โอ๊ย..........อดใจไม่อยู่จริงๆ กับเมนูของเหล่าชาเขียวพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไอติมชาเขียว ชาเขียวปั่น เครปชาเขียว....ที่สาวๆ หลายคนต่างชื่นชอบในความหอมของกลิ่นชาเขียวและความหวาน ยิ่งช่วงอากาศร้อนๆ ถ้าได้ชาเขียวมากระแทกปากสัก 2-3 คำจะเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลย

วันนี้เลยขอเอาใจสาวๆ ที่ชื่นชอบชาเขียวด้วย5 เมนูชาเขียว หอมหวานน่ากินถ้าได้กินแล้วจะหลงรักอยากรู้แล้วล่ะสิว่าจะมีเมนูอะไรกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย>//<

1. ชาเขียวเย็น

รูปภาพ:https://veggiechick.com/wp-content/uploads/2016/03/Turmeric_GreenTea_Smoothie7.jpg

ชาเขียวเย็น อากาศร้อน ๆแบบนี้ ร่างกายต้องการความเย็นเรียกความสดชื่นกลับมาอย่างด่วน วันนี้เรามาทำชาเขียวเย็นกันดีกว่า

ส่วนผสม

1.ผงชาเขียว2.นมสด3.น้ำเชื่อมหรือนมข้นหวาน4.น้ำแข็งหลอดเล็กกลม

วิธีทำ1.เตรียมผงชาเขียว3-4 กรัม2. เตรียมนมสด 150 ml3. เอาผงชาเขียวและนมสดใส่กระป๋องเช็ดเกอร์แล้วเขย่าให้เข้ากัน4. ใส่น้ำเชื่อมหรือนมข้นหวาน 150 ml5. เทน้ำชาเขียวลงในแก้วที่มีน้ำแข็งเต็มแก้ว ( แนะนำใช้น้ำแข็งเป็นหลอดเล็กกลม ) พร้อมเสิร์ฟ


2. คุกกี้ชาเขียว อัลมอนด์

รูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/5ewoSIL_SwU/maxresdefault.jpg

คุกกี้ชาเขียวที่ทั้งหอมกลิ่นชาเขียวและให้รสชาติชาเขียวแบบเข้มข้น ออกขมนิดหน่อย เนื้อคุกกี้ ทั้งหอม กรอบ แน่น กัดเพลินแบบลืมหน้าตาของขนมกันไปเลย เพิ่มความมันส์ในการเคี้ยวด้วยอัลมอนด์ เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันค่ะ

ส่วนผสม1. แป้งอเนกประสงค์ 400 กรัม2. ผงฟู 4 ช้อนชา3. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา4. นมผงสำหรับทำขนม 30 กรัม5. ผงชาเขียว 20 กรัม6. น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม7. ไขไก่ 1 ฟอง8. กลิ่นชาเขียว 3 ช้อนชา

9. นมสด 240 กรัม

วิธีทำ

1. เทแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา นมผง ผงชาเขียว รวมกันในตะแกรง ร่อนไปสัก 3 รอบค่ะเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี เสร็จแล้วพักไว้ก่อนค่ะ2. ตีเนยสดพออ่อนตัวด้วยความเร็วกลาง รอให้เนยนิ่มสักหน่อยค่ะ แล้วใช้ไม้พายสับ ๆ เนยให้เละก่อนตีนะคะ3. ใส่น้ำตาลทรายป่นลงในโถตี ใช้ไม้พายคลุกน้ำตาลให้เข้ากับเนยก่อนตีเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลฟุ้งกระจาย ตีด้วยความเร็วกลางประมาณ 1 นาทีแล้วต่อด้วยความเร็วสูงสุด 4 นาที หรือจนส่วนผสมฟูและเป็นครีมขาว4. เติมไข่ไก่และกลิ่นชาเขียวแล้วตีให้เข้ากัน5. แบ่งแป้ง 1/3 ส่วนลงในโถผสม ใช้ไม้พายคนอย่างเบามือพอให้เข้ากัน อย่าเพิ่งคนเยอะนะคะเนื้อขนมจะได้ไม่แน่นเกินไป แล้วแบ่งแป้งอีกสองส่วนทีเหลือลงไปคนทีล่ะส่วน6. เทอัลมอนด์ลงในส่วนผสมคนพอเข้ากันกับเนื้อแป้ง7. รองถาดอบด้วยกระดาษรองอบ แล้วตักส่วนผสมด้วยที่ตักไอกรีมหรือช้อนกาแฟก็ได้ค่ะ อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาที แซะออกมาวางพักบนตะแกรงตอนที่เพิ่งเอาออกจากเตาก้นของคุกกี้ยังนิ่มอยู่นิดหน่อยไม่ต้องตกใจค่ะ พอเย็นแล้วคุกกี้จะแข็งเอง นำเก็บใส่กล่องหรือขวดโหลปิดฝาให้สนิทเก็บไว้ทานได้นาน


3. ไอศกรีมชาเขียว

รูปภาพ:http://wppullzone1.epicmatcha.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2016/09/matcha-green-tea-ice-cream.jpg

ไอศกรีมชาเขียวจะอร่อยและกลิ่นหอมนั้นขึ้นกับคุณภาพของชาเขียวเป็นสำคัญ ยิ่งหอมและสีสวยนำมาทำไอศกรีมแล้วจะช่วยทำให้ไอศกรีมน่าทานมากยิ่งขึ้นวันนี้เรามาทำไอศกรีมชาเขียวกันดีกว่า

ส่วนผสม

1. ไข่แดง 4 ฟอง

2. น้ำตาลทราย 70 กรัม

3. นมสด 200 มล.

4. วิปครีม 200 มล.

5. ผงชาเขียว 12 กรัม

วิธีทำ

1. นำนมสดและผงชาเขียวใส่หม้อ คนและตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน พยายามตีให้ผงชาเขียวกระจายตัวไม่เป็นก้อน แต่ผงชาเขียวจะยังละลายไม่หมด ไม่เป็นไรค่ะ

2. นำหม้อขึ้นตั้งไฟกลางมาทางอ่อน ใช้ตะกร้อมือตีและคนไปด้วยให้ผงชาเขียวละลายให้หมด ให้นมร้อนแต่ไม่ต้องเดือด ปิดเตา พักส่วนนี้ไว้

3. ในชามผสมใบกลางตีไข่แดงให้แตก ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย ใช้ตะกร้อมือตีไปด้วยให้ไข่ฟูขึ้นเล็กน้อย

4. เทส่วนของนมชาเขียวที่ต้มไว้ลงในไข่แดง มือซ้ายค่อยๆ เทนม มือขวาใช้ตะกร้อมือคนไปด้วยให้ส่วนผสมเข้ากัน

5. เทส่วนผสมกลับลงหม้อต้มนมใบเดิม นำขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ คนด้วยตะกร้อมือตลอดเวลาจนได้คัสตาร์ดชาเขียวข้นๆ เคลือบหลังช้อนได้

6. กรองด้วยกระชอน ผงชาเขียวมีตะก่อนค่อนข้างมาก การกรองจะช่วยให้เนื้อไอศกรีมเนียนขึ้น ลดอุณหภูมิของคัสตาร์ดลงโดยการนำภาชนะที่ใส่คัสตาร์ดไปหล่อน้ำแข็งหรือนำแช่ตู้เย็นแล้วเอาออกมาคนเป็นระยะ

7. บ่มคัสตาร์ดชาเขียวไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา 1 ชั่วโมง

8. ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟูเป็นครีม ค่อยๆ แบ่งวิปปิ้งครีมผสมกับคัสตาร์ดชาเขียวให้เข้ากัน ผสมด้วยความเบามือ พักส่วนผสมไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

9. นำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีมที่มีอยู่ ปั่นไอศกรีมจนฟูดีแล้วตักใส่กล่องแช่ช่องฟรีซค่ะ


4. บิงชูชาเขียว

รูปภาพ:https://scontent-ams3-1.cdninstagram.com/t51.2885-15/e35/17662357_1436828399721561_7704031264315015168_n.jpg

อากาศเริ่มร้อน หาอะไรหวาน ๆ เย็นๆ มาทานกันดีกว่า อย่างบิงซู ( Bingsu )น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะสไตล์เกาหลีที่ฮิตกันในช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ กินแล้วมันรู้สึกดี อร่อย สดชื่น หวานฉ่ำ เรามาลองทำทานกันดู

ส่วนผสม

1. นมสด 400 มล.

2. นมข้นหวาน 4 ช้อนพูน

3. ไอศกรีม 1 ถ้วย

4. ชาเขียว

5. ถุงซิบล็อค

วิธีทำ

1. เทนมสดผสมกับนมข้นหวาน คนให้เข้ากัน

2. ใส่ชาเขียวแล้วคนให้เข้าอีกครั้งจากนั้นเทใส่ถุงซิบล็อค

3. นำไปแช่ในช่องฟรีซไว้นาน 2-3 ชั่วโมง

4. ครบ 3 ชั่วโมงแล้วนำออกมาทุบเบาๆ ให้ละเอียด แล้วตักใส่ถ้วย

5. นำไอศกรีมวางในถ้วย

6. วางท็อปปิ้งหลายๆ อย่าง ตบแต่งไว้ด้านบน พร้อมเสริฟ


5. โทสต์สังขยาชาเขียว

รูปภาพ:http://cfcdn2.azsg.opensnap.com/azsg/snapphoto/photo/LB/GUMK/3BTSJX27837BACF7A1BC9Fmx.jpg

โทสต์สังขยาชาเขียว แค่ขนมปิ้งกรอบๆ ราดด้วยสังขยาชาเขียว ก็อร่อยจนลืมไม่ลงมาลองทำกันเลย

ส่วนผสม

1. ขนมปังหัวกะโหลก 1 ปอนด์

2. เนยสดรสจืด สำหรับทาขนมปัง

3. กะทิ 2 ถ้วยตวง

4. ไข่แดง 3 ฟอง

5. ผงชาเขียว

6. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง

7. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำน้ำตาล ไข่แดงใส่ลงในชามผสม คนให้น้ำตาลละลาย ตามด้วยแป้งข้าวโพด ผงชาเขียวและน้ำกะทิ คนให้เข้ากัน

2. นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มากรองด้วยกระชอนตาถี่หรือผ้าขาวบาง ใช้หม้อที่ขนาดใหญ่กว่าชาม ใส่น้ำให้สูงกว่าระดับของสังขยาที่อยู่ในชาม เปิดไฟระดับกลาง

3. จากนั้นนำผ้าขนหนูใส่ไว้ก้นหม้อ รอน้ำเดือดก่อน แล้วค่อยนำชามสังขยาขึ้นตั้งบนหม้อเพื่อตุ๋น เมื่อสังขยาข้นได้ที่แล้ว ยกลงจากหม้อแล้วพักไว้


4. นำขนมปังหัวกะโหลกมาหั่นเป็นชิ้นให้มีความหนาขนาด 3 นิ้ว หั่นตามแนวขวางของขนมปัง

5.จากนั้นนำไม้มาเสียบขนมปัง แล้วนำมาทาเนยสดให้ทั่ว ก่อนนำขนมปังขึ้นไปจี่บนกระทะ

6.เมื่อเนยละลายและได้สีเหลืองทอง ยกขนมปังออกมาใส่จานไว้เพื่อจัดเสิร์ฟ

7. นำสังขยาชาเขียวที่พักไว้ ใส่ลงไปในหัวบีบ แล้วบีบลงบนโทสต์ที่เราเตรียมไว้ จัดเสิร์ฟได้เลย

เป็นอย่างไรบ้างคะ 5 เมนูกับชาเขียว ที่สาวๆ ก็สามารถทำเองได้ เพียงแค่มีชาเขียวตัวเดียว สาวๆ ก็สามารถมาผสมผสานปรุงแต่ง เป็นอาหารว่างทานเล่นๆ กันในครอบครัวได้อีกด้วย ลองทำกันดูนะคะ รับรองฟินกับความหวานเย็นของเจ้าเครื่องดื่มสามัญประจำบ้านของคนญี่ปุ่นอย่างเต็มๆ คำแน่นอนวันนี้ขอตัวลาไปอร่อยกับชาเขียวก่อนน้า แล้วเจอกันคราวหน้านะคะ บ๊ายบาย