สวัสดีเจ้า ชาว Sistacafe ขอทักทายเป็นภาษาเหนือซะหน่อย ให้เข้ากับธีมบทความในครั้งนี้

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเชียงใหม่จะเที่ยวให้ฟินเนี่ยต้องแค่ฤดูหนาวหรือไม่ก็ช่วงปีใหม่เท่านั่น ร้อนๆ แบบนี้นอนตากแอร์อยู่บ้านดีกว่า แต่เพื่อนๆ อย่าลืมนะคะว่าที่เชียงใหม่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ป่าไม้สีเขียวที่มองไปแล้วช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหัวใจ ครั้งนี้จึงขออาสาพาไปแอ่วเชียงใหม่ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงซัมเมอร์ก็กิน-เที่ยวแบบฟินๆ ได้

แต่ขอบอกก่อนว่าเน้นสายกิน หรือ สายคาเฟ่เป็นหลัก นะคะ พร้อมแล้วไปแอ่วเมืองเจียงใหม่กันเลยเจ้าสถานที่แรกจะพาไปกันเป็นคาเฟ่สำหรับคนที่ชื่นชอบชาเขียวที่กำลังมาแรงและพูดถึงกันในโซเชียล ร้านนั้นก็คือ

1. มีใจให้มัทฉะ - Matcha Green Tea Cafe

แค่เห็นชื่อร้านก็พอจะทราบได้ต้องขายชาเขียวแน่ๆ คงไม่ได้ขายเฉาก๊วยแน่นอน 555 ( แต่ชื่อร้านแอบน่ารักเนาะ ) จุดเด่นของร้านนี้ก็คือทุกเมนูต่างล้วนใช้ชาเขียวเกรดพรีเมี่ยมเป็นวัตถุดิบหลักโดยอิมพอร์ตจากเมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น ค่ะ

ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ชาเขียวก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วเนาะว่าต้นตำรับชาเขียวแท้ๆ ต้องมาจากเมืองเกียวโตเท่านั้น พูดได้ว่าอาจเป็นร้านเดียวในเชียงใหม่ที่เน้นขายเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่ทำมาจากชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่น ใครเป็นสายเจ สายยุ่น สายชาเขียว ก็ลองแวะมาทานกันได้เลยค่ะ เพราะว่าแต่ละเมนูทำได้ออกมาอร่อยจริงๆ คิดว่าน่าจะถูกใจ Matcha Lover ไม่มากก็น้อย

มาดูบรรยากาศโดยรวมของร้านกันก่อนค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

เริ่มจากบริเวณด้านนอก ---- คาเฟ่ชาเขียวแห่งนี้เป็นตึกแถวห้องเช่าค่ะ บริเวณทางเข้ามีป้ายแขวนชื่อร้านชัดเจน เห็นป้ายผ้าแบบนี้แปลว่ามาถูกร้านแล้วค่ะ ส่วนประตูร้านจะติดฟิล์มสีดำ ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นข้อเสียนิดนึง เพราะว่าดูมืดๆ มองจากข้างนอกจะมองไม่เห็นอะไร

รูปภาพ:

พอเปิดประตูเข้าไปในร้านก็จะเจอโต๊ะเก้าอี้เลย มีโต๊ะอยู่ประมานสามสี่โต๊ะ ทางร้านพยายามตกแต่งร้านให้ออกมาในสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ส่วนด้านในร้านติดแอร์ค่ะ รับรองว่าสามารถนั่งรีแลกซ์สบายๆ เม้ามอยคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างอารมณ์ดี คิดว่าถ้าทางร้านไม่ทำเป็นห้องแอร์ ลูกค้าอาจจะได้สำลักควันท่อไอเสียตายแทนได้เนื่องจากตัวร้านตั้งอยู่ติดริมถนนเลยค่ะ

รูปภาพ:

เมนูที่สั่งมาตามที่เห็นในรูปด้านบน จะเป็นชาเชียวที่เสิร์ฟมาในถ้วยสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ บอกได้เลยว่าเมนูนี้ตอนที่เราดื่มเข้าไปนั้นมันให้ฟีลเกียวโตทันที คือเป็นรสชาติขมๆ แบบสไตล์เกียวโตของแท้ อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ดื่มชาเขียวรสช่าติแบบออริจินัลเป็นอยู่แล้วนะจ๊ะ

รูปภาพ:

แต่ถ้ายังเป็นระดับ beginner ขอแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ ชาเขียวลาเต้ อันนี้จะมีรสชาติมันๆ ของนมเพิ่มเข้ามา แล้วก็มีหวานปนเข้ามาด้วย จึงทำให้ได้รสชาติที่นุ่มลิ้นกำลังพอดี ไม่หวานจนเกินไปและก็ไม่ขมจนไป ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ

รูปภาพ:

อีกเมนูที่อยากจะ recommend ให้เพื่อนๆ สั่งกัน นั่นก็คือไอติมรสนมฮอกไกโด ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสชาเขียวพอได้ทานคู่กันแล้ว คือแบบว่าอร่อยมว้ากกกก รสหวานๆ มันๆของนมฮอกไกโดช่วยมาตัดความขมชองซอสชาเขียว ถือว่าอร่อยลงตัวเลยค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ถ้าเพื่อนๆไม่เข้าใจว่าแต่ละเมนูไหนหน้าตาเป็นยังไร สามารถถามพนักงานในร้านได้เลยค่ะ ทางพนักงานที่นี้ยินดีตอบแถมยังอธิบายให้ได้ละเอียดด้วยค่ะ

สรุปคือที่นี้ให้ผ่านค่ะ ประทับใจทุกเมนูที่สั่งมา ^^

ที่ตั้ง :ตั้งอยู่บนถนนศรีดอนชัย ใกล้ไนท์บาซ่าติดกับภัตตาคารจีนเจี่ยท้งเฮง (ตั้งอยู่ในตัวเมือง ถือว่าตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากและสะดวกในการเดินทาง)

เวลาเปิด - ปิด :เสาร์-อาทิตย์ 9.30-17.00 น. / จันทร์ พฤหัส ศุกร์ เปิด 7.30-20.00 น. (ปิดวันอังคารและวันพุธ)

2. ผ่อนคลาย ณ ริมแม่น้ำปิง

หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว คราวนี้ก็ไปเดินย่อยกันซะหน่อย เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป ไปเดินเล่นชิลล์ๆ ถ่ายรูป และรับสายลมอันเย็นสบายกันที่ริมแม่น้ำปิงตรงบริเวณสะพานนครพิงค์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เลยค่ะ ไม่ต้องเดินทางออกไปนอกเมืองให้วุ่นวายกัน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

3. บ้านไม้พิซซ่า ภูแอน

ใครมาเชียงใหม่แล้วอยู่ดีๆ เกิดอาการอยากจะกินพิซซ่าขึ้นมา ต้องมาที่ร้านนี้เลยค่ะ ไม่ใช่ร้านพิซซ่าที่ขายตามห้างทั่วไปนะคะ แต่เป็นร้านพิซซ่าที่อยู่กลางหุบเขา ที่เด็ดคือเป็นพิซซ่าสไตล์โฮมเมด และอีกทีเด็ดก็คือเป็นร้านกระท่อมน่ารักๆ ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และป่าเขาอันเขียวขจี

นั่งทานพิซซ่าไป ชมวิวธรรมชาติไป รับรองว่าใครมาที่นี้จะได้บรรยากาศที่แตกต่างไปจากร้านพิซซ่าที่อื่นๆ แน่นอน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

สำหรับราคาพิซซ่าของบ้านไม้พิซซ่า ภูแอน จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ราคา คือ

1. Size M 89 บ. ( บาง ) 99 บ. ( หนา ) เลือก topping ได้ 3 อย่าง

2. Size L 139 บ. ( บาง ) 159 บ. ( หนา ) เลือก topping ได้ 4 อย่าง

* เพิ่มแป้ง 10 บ. / เพิ่มชีส Size M 99 บ. , Size L 149 บ.

เห็นราคาไหมคะท่านผู้ชม มันถูกมว้าก แบบนี้มันต้องโดน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ที่ตั้ง : หมู่บ้านสหกรณ์ 2 อ.แม่ออน ( ก่อนถึงน้ำพุร้อนสันกำแพง 1 กม. )

เวลาเปิด - ปิด : 10:00 - 18:00 น.

4. ร้านกาแฟบนต้นไม้ The Giant

มาที่ต่อไปกันค่ะ แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในป่าเขาเส้นสันกำแพง-แม่กำปอง ขออัญเชิญเพื่อนๆไปนั่งดับร้อนและสงบจิตสงบใจพร้อมดื่มกาแฟท่ามกลางธรรมชาติกันที่ The Giant ร้านกาแฟบนต้นไม้เจ้าดัง ณ เมืองเชียงใหม่ที่ใครต่างพากันมาเช็คอิน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

สะพานที่ข้ามไปยังอีกฝั่งซึ่งเป็นโซนที่นั่งนั่นชวนน่าหวาดเสียวทีเดียว

* ทางร้านกำหนดให้เดินไปทีละสองคนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เมนูที่อยากให้เพื่อนๆ ได้มาลองโดนกัน คือ เครปเค้กสีรุ้ง หน้าตาดีไม่พอ รสชาติยังอร่อย มึความ creamy แถมไม่หวานเลี่ยนอีกด้วย

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

มี่ตั้ง : หมู่บ้านบ้านป๊อก ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

เวลาเปิด - ปิด : 08.30 - 17.00 น. ( ปิดทุกวันจันทร์ / ปิดรับออเดอร์อาหาร 16.00 น. )

5. Grand Canyon Chiangmai

ถ้าอากาศจะร้อนประดุจว่าพระอาทิตย์เล่นมาจ่ออยู่ตรงหน้าเลย งั้นไปกระโดดเล่นว่ายน้ำกันที่

Grand Canyon

ณ อำเภอหางดง กันเถอะค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

สำหรับGrand Canyon ของที่นี้ไม่ได้เกิดจากทางธรรมชาตินะคะ แต่เกิดจากฝีมือการกระทำของมนุษย์เรื่องมันมีอยู่ว่า ตัวเจ้าของได้ขุดหน้าดินไปขายเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว พอกาลเวลาล่วงเลยผ่านไปก็กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่และมีหน้าผาที่ลักษณะเหมือน Grand Canyon ในอเมริกา จนในปัจจุบันก็ได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับเมืองเชียงใหม่จ้าว

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ค่าเข้าชม 50 บาท / ค่าสวนน้ำ 300 บาท ( ถ้าไม่เข้าสวนน้ำก็ไม่ต้องจ่าย )

ที่ตั้ง : 202 หมู่ 3 ถนนเลียบคลองชลประทาน น้ำแพร่ อ.หางดง ( ใช้ถนนเลียบคลองชลประทาน ทางเดียวกับไปพืชสวนโลกและไนท์ซาฟารีเชียงใหม่ )

เวลาเปิด - ปิด : 08:30 - 18:00 น. ( เปิดให้บริการทุกวัน )

6. Phufinn Doi

ยังคงอยู่ที่ route เส้นอำเภอหางดงอยู่ค่ะ หลังจากเพลิดเพลินสำราญใจกันที่ Grand Canyon แล้ว คราวนี้ไปหาของอร่อยๆ เพิ่มความฟินให้กับตัวเองกันที่Phufinn Doiซึ่งเป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนเนินเขา

และนอกจากนี้ยังเป็นอีกร้านหนึ่งที่ติดอันดับเบอร์ต้นๆสำหรับสถานที่เช็คอินยอดนิยม ณ เมืองเชียงใหม่ เหตุผลนั่นก็เพราะว่า

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เพียงแค่นั่งทอดกายจิบกาแฟชิลล์ๆ ละสายตาจากโซเชียลซักพัก ทอดสายตาไปยาวๆ เพื่อชมวิวธรรมชาติที่ไม่ว่าจะมองหันไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีเขียวรายล้อมรอบตัวเรา พร้อมสูดลมหายใจลึกๆ รับลมธรรมชาติ อย่างนี้สิที่เค้าเรียกว่าดีต่อใจ มันเป็นแบบนี้นี้เอง

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ที่ตั่ง : ใกล้กับแกรนด์แคนยอน ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่

เวลาเปิด - ปิด : 08:30 - 18:00 น. ( เปิดให้บริการทุกวัน )

7. Cheevit Cheeva Fine Desserts ( สาขา ศิริมังคลาจารย์ ซอย 7 )

สำหรับใครที่มาเชียงใหม่แค่ไม่กี่วัน และไม่มีเวลามากพอที่จะไปปีนป่ายขึ้นป่าเขาลงห้วยเพื่อเสาะแสวงหาของกินอร่อยๆ นั้น ขออาสาไปชิมร้านขนมอร่อยๆ ที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง


นั่นก็คือ ร้านCheevit Cheevaซึ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกล่าวถึงความอร่อยของบิงซูที่ติดอันดับต้นๆ ของเมืองเชียงใหม่ แถมยังได้รับการการันตีด้วยรางวัลwongnai users’ choice 2017อีกด้วยนะจ๊ะ บอกเลยไม่มาไม่ได้แล้วคร่า

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

คราวนี้เราจะมาพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวความความอร่อยด้วยเมนู signature ของทางร้าน นั้นก็คือบิงซูนั่นเองค่ะ เมนูบิงซูของที่นี้มีหลายแบบให้เลือก แต่แบบที่เราสั่งมาจะมีชื่อว่าChocolate lava Bingsu

รูปภาพ:

พอตักเข้าปากปุ๊บ เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้รับรางวัลจาก wongnai ตัวไฮไลท์ที่ต้องทำให้ร้องว้าว นั้นก็คือ

เกล็ดน้ำแข็งที่ถูกบดละเอียดนุ่มฟูราวกับหิมะละลายในปาก

อีกทีเด็ดก็คือทางร้านได้โป๊ะวิปครีมเข้าไปอีก

โอ้โห งานนี้ขอยอมใจจริงๆ คือเจ้าตัววิปครีมมันนุ่มอร่อยละลายในปากมากกก บวกกับซอสช็อกโกแลตที่ถูกราดลงไปนั้นมีรสชาติที่ไม่หวานเกินไปและก็ไม่ขมเกินไป พอตักทุกอย่างรวมกันเข้าปาก สัมผัสได้ว่าทุกอย่างออกมาลงตัวจริงๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ที่ตั้ง : ถนนศิริมังคลาจารย์ ซอย 7 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เวลาเปิด - ปิด : 09:00 – 22:00 น. ( เปิดให้บริการทุกวัน )

8. ชมดอกไม้ที่ร้านอาหารกาแล

ที่สุดท้ายที่จะพามากัน ขอปิดท้ายด้วยการพามาชมดอกไม้สวยๆ ที่สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปีกันที่ร้านอาหารกาแลค่ะ

ถึงจะเห็นว่าเป็นห้องอาหารก็ตาม แต่คราวนี้ไม่ได้จะพามาชิมนะจ๊ะ เพราะกินกันมามากมายก่ายกองแล้ว 555 แต่คราวนี้จะพาไปชมดอกไม้งามๆ ต่างหาก บอกก่อนเลยว่าที่นี้ เข้าฟรี ไม่เสียตังค์ซักแดงเดียว ทางร้านอาหารที่นี่ใจดีมากๆ ก่อนอื่นต้องขอบคุณกันก่อนค่ะ

รูปภาพ:

จุดที่สามารถชมดอกไม้ได้ฟรี คือบริเวณทางเข้าของร้านค่ะ ถึงจะฟรีแต่ไม่ใช่สวนเล็กๆกะโหลกกะลานะจ๊ะ จะพบว่ามีแต่ดอกไม้สีสันสวยงามเต็มไปหมด

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ส่วนใหญ่ที่นี่จะเน้นดอกไฮเดรนเยียมากกว่าดอกอื่นๆ เป็นดอกไม้ที่มีสีสันพาสเทลน่ารักมากเลยค่ะ มีทั้งชมพูแล้วก็ม่วง สนุกถ่ายรูปกันสุดๆ แนะนำว่าให้ถ่ายรูปไปเยอะๆ อีกเช่นกันค่ะเพราะคิดว่าคงไม่ได้มากันบ่อยๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:

อีกอย่างที่จะแนะนำก็คือ ถ้ามาในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ให้มาประมาณช่วงเย็นๆ จะดีกว่าค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องเจอแดดร้อนๆ แถมอากาศกำลังเย็นสบาย จะได้ไม่ต้องชมดอกไม้ไปเช็ดเหงื่อไป

รูปภาพ:รูปภาพ:

ใครชมดอกไม้เสร็จเกิดอาการหิวก็แวะไปทานอาหารของร้านนี้ได้เลยค่ะ ส่วนโซนที่นั่งทานอาหารจะอยู่ด้านบริเวณล่างติดริมอ่างเกษตร มช.

รูปภาพ:

ที่อยู่ :ตั้งอยู่ภายในบริเวณสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ภาคเหนือ ( อ่างเกษตร มช. ) ให้ใช้เส้นทางถนนสุเทพ ( ถนนหลัง มช. ) โดยร้านอาหารกาแลอยู่ห่างจากถนนนิมมานเพียง 2 กิโลเมตร เท่านั้น

เวลาเปิด - ปิด :จันทร์ - พฤหัสบดี : 10:00 - 21:00 น. / ศุกร์ - อาทิตย์ : 10:00 - 22:00 น.

เป็นยังไงกันบ้างเอ๋ย สำหรับ 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองเชียงใหม่ที่ได้แนะนำไป ซัมเมอร์นี้เพื่อนๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปที่เชียงใหม่กันดูค่ะ แล้วจะสัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ที่สามารถฟินได้ทุกฤดูไม่ว่าจะหนาวหรือร้อนก็ตาม แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ ^^