สวัสดีค่ะสาวๆ

Sistacafeเ

มื่อเปิดเทอมมาถึง สิ่งที่สาวๆ หลายคนต้องทำก็คือการจดเลคเชอร์หรือจดสิ่งที่อาจารย์สอนไว้ในสมุดนั่นเอง เนื่องจากว่าการจดเลคเชอร์เป็นเทคนิคเฉพาะตัวทำให้หลายๆ คนจดได้ดี บางคนจดแล้วกลับมาอ่านตอนจะสอบ ถึงกับงงในลายมือของตัวเอง

“ เอ๊ เราจดอะไรไปบ้างเนี่ย ทำไมอ่านไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ ”

วันนี้เราเลยเอาใจสาวๆ ที่อยากขยันเรียน

ถ้าเราดูแลความสวยของเราไปพร้อมๆ กับดูแลการเรียนของเรา แบบนี้เพอร์เฟ็คต์เกิร์ลชัดๆ เลย

มาเพิ่มเกรดของเราด้วยการจดเลคเชอร์เทคนิคขั้นเซียนกันค่ะ มีอะไรบ้าง ตามมาดูกัน

1. ย่อคำด้วย 'การโยงหรือแสดงสัญลักษณ์' แทนการใช้คำบรรยาย

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/41/d1/c8/41d1c8a12c466e50ad3d0748316eb6a9.jpg

เทคนิคจดเลคเชอร์ให้เร็วแถมเข้าใจง่าย คือการย่อสิ่งที่อาจารย์พูดด้วยลูกศรหรือสัญลักษณ์แทนการเขียนบรรยาย เพราะการเขียนบรรยายทุกคำพูด ถ้าไม่มีเวทมนตร์ก็ทำไม่ได้นะคะซิส แต่หากว่าเราเลือกที่จะใช้การโยงแทนการเขียนแล้วล่ะก็ รับรองว่ากลับมาอ่านกี่ทีก็รู้เรื่องค่ะ


2. ทำความเข้าใจก่อน แล้วค่อยจด

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/de/e3/20/dee32073105086c66d3a63178f5567bd.jpg

การจดเลคเชอร์ที่ดีไม่ใช่แค่การจดๆ ทุกอย่างที่อาจารย์บอกค่ะ แต่ความหมายของการจดเลคเชอร์ที่แท้จริงก็คือการที่เราฟังสิ่งที่อาจารย์สอนให้เข้าใจ จากนั้นจึงค่อยจดบรรยายไปตามความเข้าใจของเรา

ดีกว่าจะจดทุกตัวอักษรที่อาจารย์บอกแล้วตัวเราเองไม่ได้ทำความเข้าใจในเรื่องที่เรียน เวลามาอ่านอีกครั้งก็เลยงงนั่นเองค่ะ


3. มีรูปประกอบ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/d3/94/eb/d394eb34b5a84ebf21d37e9c67baca48.jpg

การมีรูปประกอบจะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ดี เพราะคำพูดไม่สามารถบรรยายทุกอย่างได้ การมีรูปประกอบในสมุดเลคเชอร์ไม่จำเป็นต้องวาดเองนะคะ แต่เราต้องมีการเตรียมความพร้อมนิดหนึ่ง เริ่มต้นด้วยการเตรียมอ่านหนังสือเนื้อหาที่อาจารย์จะสอนในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็จัดการหารูปเตรียมพร้อมไว้เลยค่ะ

สมมุติว่า พรุ่งนี้เราจะต้องเรียนวิชาชีววิทยาและอาจารย์จะสอนเรื่องระบบย่อยอาหาร เราก็ควรหารูประบบย่อยอาหารไว้ก่อน เตรียมการแปะไว้ในสมุด เวลาดูจะได้เข้าใจและเขียนคำอธิบายเพิ่มเติมได้รวดเร็ว การหารูปประกอบไม่ยากเลยนะคะ มีอินเตอร์เน็ตเสียอย่าง อะไรก็ทำได้  ลองหารูปเตรียมไว้ รับรองสมุดเล็คเชอร์ของเราจะสวย อ่านง่าย เข้าใจง่ายด้วย


4. มีการใช้ปากกาไฮไลท์สีๆ เน้นตัวอักษร

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/e6/8b/0c/e68b0c816779ab5b8347462220d42b5a.jpg

การจดไปเรื่อยๆ แบบไม่มีการเน้นเลย จะทำให้เลคเชอร์ของเราน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ แถมหากว่าเรากลับมาอ่านซ้ำอีกครั้ง ตัวอักษรจะลายตาจนบางทีเราก็งงไปเลยค่ะ

ดังนั้นใครที่อยากให้เลคเชอร์ของเราอ่านง่าย กลับมาอ่านกี่ครั้งก็เข้าใจ ลองหาปากกาเน้นตัวอักษรมาใช้ค่ะ ซึ่งปากกาจะเป็นสีอะไรก็ได้ เอาตามชอบเลย ขอแค่มีการเน้นหัวข้อหลัก หัวข้อย่อย แค่นี้ก็ทำให้การจดเลคเชอร์และกลับมาอ่านเลคเชอร์อีกครั้งเป็นเรื่องง่ายดายกว่าเดิม


5. เขียนให้อ่านง่ายๆ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/1c/8f/b8/1c8fb8722a1fa4b7e83bef1e61d86b96.jpg

ปัญหาของหลายๆ คนก็คือการที่เราจดเลคเชอร์ไว้แต่เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้งก็งงอ่านไม่เข้าใจ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าลายมือที่เราจดนั้นชุ่ยเกินไปค่ะ

วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือให้สาวๆ ตั้งใจจด ซึ่งเราคงต้องฝึกเขียนตัวบรรจงให้มากกว่าเดิม อาจจะเสียเวลาฝึกนิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ


6. อัดเสียงไว้ช่วยได้นะ

รูปภาพ:http://uconn-today.universityofconn.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2015/07/iStock_000025305709_web.png

ใครที่คิดว่าตัวเองจดไม่ทันจริงๆ ลองอัดเสียงแล้วกลับมาฟังซ้ำอีกครั้งดีไหมคะ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือก็อัดเสียงได้ เหมาะกับนักศึกษามหาวิทยาลัยมาก แต่หากเป็นนักเรียนมัธยมการอัดเสียงอาจจะทำได้ยากเพราะมีกฎระเบียบเรื่องการอัดเสียง

ลองแบ่งกันจดเลคเชอร์กับเพื่อน เช่น สลับจดเลคเชอร์กับเพื่อนทุก 5 นาที แล้วมาแลกกันอ่านในตอนหลังก็ช่วยได้เช่นกัน

คราวนี้รู้แล้วใช่ไหมว่า ทำไมจึงไม่อยากอ่านเลคเชอร์ที่ตัวเองจด แต่อยากอ่านเลคเชอร์ของเพื่อนที่มีรูป มีสีต่างๆ มีคำย่อมากกว่า ก็เพราะมันน่าสนใจกว่ายังไงล่ะ! เทคนิคพวกนี้เธอเองก็ทำได้ เพีบงแต่ต้องฝึกและใช้เวลาเตรียมบทเรียนมากกว่าคนทั่วไปหน่อย เพื่อให้ได้สรุปสั้นๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจครอบคลุมและรวดเร็วมากที่สุดค่ะใครเอาไปใช้ขอให้ได้เกรด 4 คว้าเกรด A มาครองเลยนะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบายค่ะ