ปราสาทส่วนมากนั้นมักจะมีความโรแมนติก และเป็นความงดงามสำหรับผู้คนในยุคนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่อยากมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ งามๆ และมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสนุกในชีวิตของเราเอง ตามมาดูปราสาท 10 แห่งที่สวยราวกับว่ามีอยู่แค่ในเทพนิยาย แต่มีจริงค่ะ มีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย


1.Belem Tower (โปรตุเกส)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/BelemTowerBlueSky.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

Belem Tower ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Tagus ในกรุงลิสบอน โดดเด่นด้วยป้อมปราการและหอคอยสูงกว่า 100 ฟุตที่สร้างมาจากหินปูนในท้องถิ่น โดยภายในอาคารนี้มีลักษณะเป็นแนวโค้งซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม "Manueline" และสถาปัตยกรรมนี้ก็เป็นที่นิยมในโปรตุเกสช่วงศตวรรษที่ 16

หอคอยแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นประตูสู่กรุงลิสบอนและเป็นสัญลักษณ์ของนักสำรวจในตำนานเช่น Vasco de Gama ซึ่งมีส่วนทำให้โปรตุเกสเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในศตวรรษที่ 16 ใกล้กับ Jeronimos (Hieronymites) ซึ่งในบริเวณใกล้เคียงก็เป็นที่ระลึกถึงชาวเรือด้วยค่ะ สำหรับหอคอยนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ผู้เข้าชมก็จะต้องข้ามสะพานเล็ก ๆ เพื่อไปยังหอคอยที่อยู่กลางแม่น้ำอีกด้วย


2.Bobolice Castle (โปแลนด์)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/BoboliceCastleOnACloudDay.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาท Bobolice สร้างขึ้นในปี 1300 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชื่อดัง เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการของโปแลนด์ในศตวรรษที่ 14 ตัวอาคารเป็นทรงกระบอก รูปลักษณ์จึงเหมือนกับปราสาทในเทพนิยาย แต่เรื่องราวที่แท้จริงของ Bobolice น่าสนใจกว่านั้นอีกค่ะ

เพราะว่าปราสาทมีการเปลี่ยนมือหลายครั้ง แถมยังมีสมบัติถูกพบในห้องใต้ดินและอุโมงค์ใต้ปราสาทประวัติความเป็นมาของ Bobolice ได้สร้างแรงบันดาลใจและเกิดเรื่องเล่าเกี่ยวกับทองคำที่ซ่อนอยู่ ซึ่งมีข่าวลือว่าวิญญาณยังคงหลอกหลอนอยู่ในห้องโถงและหอคอยของปราสาทนี้อีกด้วย บรื๋อออ น่ากลัวจัง!!! สำหรับปราสาทแห่งนี้เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมด้วยนะคะ


3.Neuschwanstein Castle (เยอรมนี)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/NeuschwansteinCastleAutumnTrees.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 และเป็นแรงบันดาลใจของปราสาทในเทพนิยายมากเลยค่ะ ด้วยสไตล์ Romanesque Revival Neuschwanstein นั้นจัดได้ว่าเป็นต้นแบบปราสาทของเทพนิยายเจ้าหญิงนิทราของดิสนีย์

สำหรับประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของปราสาท Neuschwanstein Castle เกิดขึ้นจากกษัตริย์บาวาเรีย สร้างขึ้นเนื่องจากกษัตริย์ผู้นี้หวังจะใช้ชีวิตเป็นส่วนตัวๆ จากสาธารณชน  ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นที่นิยมมาก หากใครไปเยอรมันแล้วไม่ได้ไปที่นี่ก็ถือว่าพลาดมากเลยค่ะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคนเดินทางไปที่หุบเขา Hohenschwangau Valley ในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้นั่นเอง


4.Burg Eltz (เยอรมนี)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/BurgEltzGreenTreesHillSlope.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 12  โดยที่ได้รับการบูรณะอยู่ตลอด ซึ่งปัจจุบันเจ้าของปราสาทเองก็ยังคงอาศับอยู่ในปราสาทแห่งนี้เช่นกันค่ะ   โดยบางส่วนของปราสาทเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม  ตัวปราสาทอยู่บนหุบเขา Moselle River Valley ซึ่งปราสาทแห่งนี้ก็มีหอคอยขนาด 100 ฟุต สวยงามจนใครๆ ก็ชอบทีเดียว  ส่วนการตกแต่งภายในเองก็ยังคงความงดงามแบบเก่าๆ เพราะมีการจัดแสดงสิ่งของในช่วงเวลา 800 ปีที่ผ่านมา โอ้โห อยากเห็นจังเลยค่ะ


5.St. Michael's Mount (อังกฤษ)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/StMichaelsMountSunsetHilltop.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ภูเขาเซนต์ไมเคิลเป็นเกาะซึ่งอยู่ที่คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่โดยทางหลวงที่ทำจากหินแกรนิต แต่หากเป็นช่วงน้ำขึ้นถนนนี้จะใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้มีผู้เข้าชมบางคนเดินทางโดยเรือไปเพื่อชมความงดงามของปราสาท อาคารที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1100 ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตาของปราสาท และตัวเกาะนี้มีตำนานหลายเรื่อง ทำให้มีคนสนใจเกาะและปราสาทนี้กัน อย่างลูกเรือบางคนก็ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนางเงือกที่มักล่อหลอกให้ลูกเรือเดินทางไปที่เกาะ บางคนก็เล่าว่าได้เห็นการปรากฏตัวของนักบุญไมเคิล (นักบุญอุปถัมภ์ของชาวประมง) บางตำนานก็บอกว่าเกาะนี้เป็นที่อยู่ของยักษ์ในเทพนิยายคอร์นิชเลยเชียวค่ะ


6.Alcázar of Segovia (สเปน)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/AlcazarDeSegoviaAtNight.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

Alcazar เป็นป้อมปราการและพระราชวังที่สร้างขึ้นในระหว่างการปกครอง Moorish บนคาบสมุทรไอบีเรีย ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นจุดเด่นในยุค 60 อีกด้วย เชื่อไหมคะว่าดิสนีย์ได้แรงบันดาลใจจากปราสาทแห่งนี้ไปออกแบบปราสาทในเทพนิยายเรื่อง Cinderella

Alcázar ตั้งอยู่บนเหนือหุบเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับโบว์ของเรือ ตัวอาคารรูปวงกลมของปราสาททำให้ดูเหมือนที่อยู่แสนสบาย สมเด็จพระราชินี Isabella เองก็เคยอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ในที่สุดย้ายไปอยู่ที่มาดริดค่ะ  สุดท้าย Alcázarถูกดัดแปลงเป็นคุก และสองศตวรรษต่อมาในปี ค.ศ. 1762 ที่นี่ได้กลายเป็นสถาบันการทหาร ส่วนปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม


7.Château de Chenonceau (ฝรั่งเศส)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/ChateauDeChenonceauOverTheRiverCher.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

Chateau de Chenonceau ไม่ใช่ปราสาทที่มีโครงสร้างสูงตระหง่านเหมือนกับปราสาทในเทพนิยายทั่วไป แต่ความสวยงามน่าทึ่งของที่นี่ได้แก่ตัวปราสาทที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ Cher และยังมีการสร้างซุ้มสำหรับให้น้ำไหลผ่านใต้ตัวปราสาทได้อีกด้วย สถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้เป็นส่วนผสมของสถาปัตยกรรมโกธิกและสถาปัตยกรรมต้นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทั้งยังมีสวนที่สวยงามด้านนอกปราสาทว่ากันว่ามีคนชื่นชมสวนของที่นี่มากกว่าสวนที่พระราชวังแวร์ซายส์อีกด้วยนะคะ


8.Doune Castle (สก็อตแลนด์)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/DouneCastleGreenHillsSunset.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 15 โดยสร้างแทนที่อาคารเก่าเมื่อหลายร้อยปีก่อน ภายนอกของ Doune ค่อนข้างเก่าแต่ห้องโถงภายในมีสภาพดีมาก โดยปราสาทแห่งนี้ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Monty Python and the Holy Grail" ส่วนต่าง ๆ ของสถานที่ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ปราสาทได้มี  "Game of Thrones" มาถ่ายทำด้วยนะคะ อาจจะกล่าวได้ว่าปราสาท Doune เป็นตัวแทนของปราสาทในยุคกลางเลยก็ว่าได้


9.Matsumoto Castle (ญี่ปุ่น)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/MatsumotoCastleMoatCherryBlossoms.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาทมัตสึโมโตะถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 อยู่ในจังหวัดนางาโนะ เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ปราสาทแห่งนี้สร้างบนที่ราบธรรมดาแทนที่จะเป็นสร้างในพื้นที่ซึ่งมีภูเขาล้อมรอบ โดยรอบปราสาทมีคูที่ถูกขุดขึ้นใหม่ และมีประตูที่สูงตระหง่านเพื่อป้องกันศัตรู การออกแบบนี้ช่วยสร้างภูมิทัศน์ที่น่าสนใจและแปลกตาให้ตัวปราสาท และทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นที่นิยมชมชอบมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

มัตสึโมโตะโดดเด่นมากกว่าที่อื่นเพราะทำจากไม้ และปัจจุบันไม้ที่ทำปราสาทก็ยังคงสมบูรณ์ด้วยการดูแลอย่างดี ผู้เข้าชมสามารถชมได้ถึงชั้น 6 ของตัวปราสาท  ที่สามารถมองเห็นวิวและสวนด้านนอกปราสาทที่มีมีดอกซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ และบริเวณนี้ยังเป็นที่จัดงาน Torchlight "Takigi Noh" และงานเทศกาลกลองไทโกะแบบดั้งเดิมอีกด้วยนะคะ


10.Swallow's Nest (ยูเครน)

รูปภาพ:https://media.mnn.com/assets/images/2017/05/SwallowsNestCastleCliffSunset.jpg.1000x0_q80_crop-smart.jpg

ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมด้วยรูปลักษณ์แบบปราสาทในเทพนิยาย ทั้งยังมีการตกแต่งแบบนีโอโกธิค ที่น่าอัศจรรย์คือตัวปราสาทตั้งอยู่บนหน้าผาที่มีความลึก 130 ฟุตในเมืองตากอากาศใกล้คาบสมุทรไครเมียของประเทศยูเครน ตัวปราสาทสูงเพียง 33 ฟุต และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการทุกวัน ทั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนอีกด้วยค่ะ


และนี่ก็เป็นปราสาททั้ง 10 แห่งที่สวยสดงดงาม และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน สาวๆ คนไหนที่ชอบชมความงดงามของปราสาท จดลิสต์ไว้เลยนะคะ มีเวลาก็หาโอกาสไปเยือนให้ได้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน บ๊ายบายค่ะ