เกลือหิมาลายัน กันแดดคุมมัน สาวหวานหรือซ่าสไตล์ไหนก็ไม่กลัวแดด!

เข้าสู่ช่วงของเดือนเมษายนแบบนี้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการก้าวขาเข้าสู่ฤดูร้อน

อย่างเป็นทางการก็ว่าได้ และถึงแม้อากาศในบ้านเราจะยังคงมีความผันผวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสาวๆ ทุกคน ทุกช่วงวัยก็ยังคงต้องดูแลรักษาผิวกันในทุกวัน

ด้วยการเลือกซื้อครีมกันแดดที่มีคุณภาพมาใช้ปกป้องผิวในทุกวัน

แต่เนื่องจากปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดต่างๆ นั้นมีอยู่มากมาย หลายคนอาจจะลองใช้

มาแล้วหลากหลายแบรนด์ แต่ไม่พบว่ามีกันแดดแบรนด์ใดถูกใจอยากใช้ซ้ำเสียที

วันนี้เราจึงจะมาแนะนำกันแดดเกลือเนื้อสีออกครีมๆ คล้ายรองพื้นเลยก็ว่าได้ แลดูเป็นมิตร

น่าใช้งานจากแบรนด์นิสิตกันแดดที่เราเองพึ่งจะลองใช้ด้วยตัวเอง แล้วถูกอกถูกใจให้ทุกคนได้รู้จักกัน

เริ่มต้นเรารู้จักแบรนด์นี้จากที่เพื่อนแนะนำ เราจึงสั่งมาทดลองใช้

โดยสั่งจากช่องทาง Instagram: nisitofficialth แล้วพอใช้ดี เรามาค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม

แล้วพึ่งเจออีกว่าทางแบรนด์นิสิตกันแดด เขายังจัดจำหน่ายสินค้า

ทั้งทาง Facebook: NISIT และทางเว็บไซต์ของทางแบรนด์เอง https://nisiofficial.com อีกด้วย

มาเข้าเรื่องของกันแดดหัวใจหลักที่เราจะเม้าท์มอยบอกต่อกัน!

ในช่วงเริ่มต้นที่เราใช้นิสิตกันแดด ต้องบอกก่อนเลยว่าตามประสาสาววัยรุ่นแกะใช้เลย

แบบว่องไวหลังได้รับผลิตภัณฑ์ แต่ที่รู้สึกได้ว่ากันแดดแบรนด์นี้แตกต่างจากแบรนด์อื่นคือ...

น้องเขาไม่เหนียว เหนอะหนะ ใช้แล้วรู้สึกเบา ไม่หนักผิว เกลี่ยง่าย ไม่รู้สึกมัน

และไม่ทำให้ได้กลิ่นฉุนน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ แล้วที่สำคัญหลังใช้ หน้าเรายังฉ่ำวาว

แลดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ด้วยความที่ใช้แล้วรู้สึกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ ที่เราเคยใช้มาก่อน

ว่าแล้วก็หยิบข้างกล่องขึ้นมาอ่านเสียหน่อย!!

นิสิตกันแดดตัวนี้ น้องเขาเป็นกันแดด เนื้อลิควิค ผสม BB Cream (Beaty Balme)

เป็นเมคอัพเบสในตัวจึงทำให้แต่งหน้าติดง่าย และมีคุณสมบัติในเรื่องของการช่วยควบคุมความมัน

ลดสิว ข้อดีคือสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยเป็นคราบให้เสียความมั่นใจ

อีกทั้งยังเป็นกันแดดที่สามารถป้องกันผิวได้ทั้งจาก UV-A และ UV-B

โดยปกป้องผิวได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง

สำหรับวิธีใช้นั้นสามารถใช้ได้แค่เพียงในปริมาณเล็กน้อย โดยอาจทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า

แบบเราที่ใช้แทนรองพื้นเลยก็สามารถทำได้ วิธีเก็บรักษาก็ไม่ยาก เพราะน้องเขาสามารถอยู่ได้

ในอุณหภูมิห้อง ที่ทำให้เราไว้วางใจใช้แล้วอยากจะใช้ซ้ำอีก เป็นเพราะนิสิตกันแดด หรือ nisit suscreen

ตัวนี้ ใช้แล้วไม่ทำให้รู้สึกระคายระเคืองผิว เพราะปราศจากกน้ำหอม แอลกอฮอล์ น้ำมัน สารปรอท

สารหนู สารไฮโดรควิโนน สีสังเคราะห์ รวมไปถึงสารอันตรายใดๆ เจือปน

ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนๆ จะมีสภาพผิวแบบใดก็สามารถเลือกซื้อหามาใช้กันได้

สมกับสโกแกนสไตล์ไหนก็ไม่กลัวแดดที่ทางแบรนด์เลือกใช้ เพราะไม่ว่าจะชอบแต่งหน้าหรือไม่

หรือไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบใดก็สามารถใช้งานนิสิตกันแดดได้

นอกจากนี้ เรายังพบข้อมูลจากที่ได้ไปค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสิตกันแดดตัวนี้

มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อินไปกับเราอีกด้วย เพราะน้องเขามีสารสกัดที่สำคัญ 6 โมเลกุล

จากผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่

- เกลือหิมาลายัน (Himalayan) Salt หรือเกลือชมพู ที่เป็นเกลือบริสุทธิ์

ซึ่งมีแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด ลดปัญหาสิว ผดต่างๆ ช่วยทำให้ผิวอมชมพู

- ลาเวนเดอร์ ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น การอักเสบ รอยแดง

- สารสกัดใบบัวบก มีส่วนช่วยฟื้นฟูรอยหลุมสิวทำให้แลดูตื้นขึ้น

ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย ไม่ทำให้หย่อนคล้อย รวมถึงลดรอยแตกของผิว

- สารสกัดสาหร่ายสีรุ้ง ช่วยลดผิวหมองคล้ำ ยั้บยั้งเอนไซม์ในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน

- Biosacchaide Gum-4 เป็น ploymer ธรรมชาติ

ช่วยเป็นเกราะป้องกันผิวจากสภาะต่างๆ เช่น ฝุ่น

- Hyaluronic Acid 4 โมเลกุล ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง

เรียกได้ว่าแค่ครีมกันแดด สูตรน้ำ นิสิตกันแดด เกลือหิมาลายัน

สโลแกนสไตล์ไหนก็ไม่กลัวแดดตัวเดียว ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยดูแลผิวได้อย่างครบทุกด้าน

โดยเฉพาะการดึงองค์ประกอบที่โดดเด่นของเกลือหิมาลายัน เกลือสีชมพูที่จัดเป็นเกลือบริสุทธิ์

เข้ามาไว้ในนิสิตกันแดด โดยก่อนหน้านี้เราไปเจอมาว่าทางแบรนด์เขามีเซรั่มตัวนึงออกมาแล้ว

ซึ่งใช้เกลือหิมาลายันเป็นสารสกัดหลักๆ อยู่แล้วด้วย รอบนี้ทางแบรนด์เขาก็ยังคงใช้เป็นองค์ประกอบ

ในกันแดด ซึ่งแอบรู้สึกว่าเออมันดูมีความว้าวเหมือนกันนะ เพราะจากข้อมูลมีความเชื่อกันว่า

เกลือหิมาลายันนั้นเกิดจากการระเหย รวมถึงการตกผลึกของน้ำทะเลยุคโบราณ

เมื่อนานหลายปีมาแล้ว ผ่านการสกัดด้วยมือและไม่แต่งสารเคมีใดๆ

จึงทำให้มีแร่ธาตุมากกว่าเกลือประเภทอื่น ประสานกับองค์ประกอบอื่นๆ

แล้วจึงอยากจะแนะนำสำหรับเพื่อนๆ คนไหน หรือใครที่ยังหากันแดดคู่ใจ

ไว้ใช้ในช่วงซัมเมอร์นี้ไม่ได้ อยากให้มาลองนิสิตกันแดด เกลือหิมาลายันตัวนี้กันเยอะๆ

ด้วยปริมาณ 15 มิลลิลิตร กับราคาขาย 390 บาท เชื่อว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล

คุ้มค่ากับประสิทธิภาพและการดูแลปกป้องผิวจากรังสียูต่างๆ ที่ได้อย่างแน่นอน!!