เพิ่งรู้ความจริง! ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดด “SPF ยิ่งสูง ยิ่งดี”

เมื่อไม่นานมานี้ครีมกันแดดหมดแก และชั้นผู้ซึ่งขี้เบื่ออยู่ในตัวสูงนึกครึ้มอยากลองเปลี่ยนครีมกันแดด อะไหนๆก็จะเปลี่ยนละขอรื้อความรู้เกี่ยวกับกันแดดใหม่หน่อยละกัน ก็ได้ไปเสิร์ชหาข้อมูลว่าจริงๆแล้วเราควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF เท่าไหร่ถึงจะพอดีนะ บอกไว้ก่อนเลยว่าเราผิวขาวเหลือง และเป็นมนุษย์ออฟฟิศธรรมดาคนนึง ซึ่งแทบจะไม่โดนแดดใดๆ ยกเว้นช่วงพักเที่ยงในบางวันเท่านั้น เดินมาทำงานโดนแดดอ่อนๆยามเช้า อันนี้ดีเพราะแดดเช้ามีวิตามินดี ตอนเย็นเลิกงานไม่มีแดดเหลือแล้วจ้า อะมาเข้าเรื่องกันเลย ก่อนหน้านี้เราเข้าใจว่าครีมกันแดด SPF ยิ่งสูงยิ่งดี แต่หลังจากที่เราเสิร์ชหาข้อมูล SPF เท่าไหร่ถึงจะดีก็ได้พบความจริงว่า SPF สูงไม่ได้จำเป็นเสมอไป เลือกใช้โดยพิจารณาจากกิจวัตรประจำวันส่วนบุคคลจะดีกว่า และตามกิจวัตรของเรา SPF 30 ก็เพียงพอแล้ว อะแล้วมันพอยังไง จะรู้ได้ไงว่าพอแล้ว มาดูกันเลย!

การเลือกใช้ครีมกันแดดหลักๆที่ดูจะมีค่า SPF และ PA ที่เราให้ความสำคัญกัน เดี๋ยวไปดูทบทวนคร่าวๆกันก่อนดีกว่า

SPF ย่อมาจาก Sunburn Protection Factor ที่บอกว่าครีมกันแดดสามารถป้องกันการไหม้ของผิวที่เกิดจากรังสี UVB ได้นานเท่าไหร่ ค่า SPF1 ป้องกัน UVB ได้ = 20 นาที และ SPF30 ที่เราบอกว่าเพียงพอแล้วคิดจาก 30x20 = 600 นาที (10 ชม.) ซึ่งในแสงแดดมีเพียง UVB 5% (โอ้วว ! น้อยมาก)

ส่วน PA ย่อมาจาก Protection grade of UVA ช่วยป้องกันรังสี UVA ที่เป็นสาเหตุให้ผิวเกิดการเหี่ยวย่น รวมถึงมะเร็งผิวหนังบางชนิดอีกด้วย ซึ่งเจ้ารังสีชนิดนี้ก็มีแยกออกมาอีก คือ UVA1 มีในแสงแดดมากถึง 75%, UVA2 มีในแสงแดด 20% ยิ่ง PA ที่มีเครื่องหมาย + ตามหลังเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้นเลยค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเลือกครีมกันแดดที่ปกป้อง UVA1 ได้ด้วย (เพิ่งรู้ความจริง)

และเมื่อได้ข้อมูลมาเพียงพอในระดับหนึ่งแล้ว เราจึงได้ตัดสินเลือกครีมกันแดดตัวหนึ่งที่คิดว่าน่าจะตอบโจทย์ให้เราได้ จริงๆซุ่มใช้มาได้ประมาณครึ่งเดือนแล้วแหละ เป็นกันแดดจากสารสกัดธรรมชาติที่ผสมสารบำรุงผิว กันทั้งแดดบำรุงทั้งผิวไปด้วยในตัว นั่นก็คือกันแดดแบรนด์ THANN ที่เค้าดังเรื่องนี้อยู่แล้ว(และจากการคุยกับพนักงานหน้าร้านเค้าบอกว่าจริงๆแล้วยอดขายของแบรนด์ 50% มาจากสกินแคร์ ไม่ใช่อโรม่าอย่างที่เราเข้าใจ) เนื้อกันแดดบางเบา เกลี่ยง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมไว ไม่ทำให้หน้ามัน เพราะเป็นสูตร oil free และที่สำคัญเราใช้แล้วไม่แพ้ หน้ามันน้อยลง เมื่อเทียบกับตัวที่เคยใช้มา SPF30 PA+++ กันแดดที่เราลองใช้มาครึ่งเดือน

ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าเรียบเนียน สว่างขึ้นกว่าเดิมนิดนึง และ SPF30 เท่านี้เพียงพอแล้วจริงๆสำหรับมนุษย์ออฟฟิศแบบเรา เพราะยิ่ง SPF สูง ส่วนผสมของสารเคมีก็สูงตามไปด้วย ไม่มีถูกมีผิดเพียงแต่เลือกใช้ให้เหมาะกับกิจวัตรประจำวันของเราดีกว่า เอาเป็นว่ากันแดดแบรนด์นี้ผ่านค่ะ ใช้ต่อแน่นอน