คอนเทนต์รีวิวหนังสือกลับมาแล้วค่า หลังจากห่างหายไปนาน ครั้งนี้เรากลับมากับการรีวิวหนังสือที่ชื่อว่า 'เป็นมนุษย์แฮปปี้ในโลกที่มีแต่เรื่องบ้า' (A Toolkit for Modern Life) เขียนโดย คุณเอ็มมา เฮ็ปเบิร์น และ แปลโดย คุณสุวิชชา จันทร สำหรับหนังสือเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ดังไม่แพ้เล่มอื่นๆเลยค่ะ ติดTop Sellerของร้านหนังสือหลายร้านเลยทีเดียว ทางเราเองก็ตัดสินใจซื้อมาเพราะเห็นปกเล่มนี้ผ่านตามาจากสื่อต่างๆเหมือนกันค่ะ เกริ่นชื่อเสียงมาก็พอตัวแล้ว งั้นเรามาเริ่มเนื้อหาส่วนของการรีวิวกันเลยดีกว่า
จากชื่อหนังสือ ใครๆก็คงจะรู้ว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาและการควบคุมอารมณ์ค่ะ การเรียบเรียงเนื้อหาจะเป็นสไตล์ bullet point(เป็นข้อๆ) สลับกับเนื้อหาภาคบรรยาย คั่นด้วยภาพประกอบเป็นจังหวะๆค่ะ โดยผู้เขียนจะเริ่มเกริ่นจากปัญหาทางอารมณ์นั้นๆแล้วจึงตามด้วยวิธ๊การแก้ไข ในทุกปัญหาจะมีแบบฝึกหัดทางอารมณ์ให้เราได้คิดตาม ทำตาม หรือแม้กระทั่งเขียนตามด้วย จากภาพประกอบที่เราแนบมาจะเป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ อันนี้ผู้เขียนตั้งใจใส่มาเพื่อให้เราได้ลองเขียนตามแบบฝึกหัดในหนังสือค่ะ จะมีแบบนี้เกือบทุกบทเลย เข่น เรื่องสัญญาณอารมณ์ ก็จะมีกล่องสีเขียว เหลือง แดง ให้เราได้เขียนอารมณ์ของเราจริงๆ ช่วยแก้ปัญหาที่เป็นของเราจริงๆได้ค่ะ
สำหรับเนื้อหาโดยรวมด้านในจะเป็นวิธีการจัดการอารมณ์จากสถานการณ์ต่างๆ หรือการฝึกให้เรารู้ทันอารมณ์ของเราค่ะ การที่โลกเราพัฒนาไปมากขนาดนี้ บางครั้งก็ทำให้ชีวิตของเรามันวุ่นวายแล้วก็ดำเนินไปเร็วจนเราไม่ทันได้ตามทันอารมณ์ของตัวเองกันเลย ในหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างรวบรวมไว้ได้ครอบคลุมมาก ตั้งแต่เรื่องการรู้จักอารมณ์ การยอมรับอารมณ์ด้านลบ การจัดการกับอารมณ์ด้านลบ การสร้างความรู้สึกด้านบวก หรือแม้กระทั่งการจัดการกับอารมณ์ของเราเมื่อคนรอบข้างมีแต่พลังงานลบ เรียกได้ว่าสมกับคำว่า Toolkit ที่ชื่อหนังสือจริงๆค่ะ เหมือนเป็นกล่องเครื่องมือทางอารมณ์กล่องหนึ่งเลย
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร
-คนที่ไม่ชอบอ่านบทความยาวๆ เป็นพรืด เพราะผู้เขียนแบ่งมาเป็นย่อหน้าสั้นๆ
-คนที่ชอบลองทำตามหนังสือ หมายถึงอ่านแล้วอยากลองทำแบบฝึกหัดตามเลย เพราะมีหน้าเว้นให้เราได้เขียนเยอะ
-คนที่รู้ปัญหาของตัวเองหรือมีเป้าหมายในการอ่านจะอ่านได้ประสิทธิภาพมากกว่า เพราะผู้เขียนแบ่งวิธีมาเป็นบทๆ ถ้าเรากะมาอ่านเพลินๆอาจจะได้อะไรกลับไปน้อยมากเพราะจำเนื้อหาไม่ได้ค่ะ
จากใจผู้อ่านจริงอย่างเราก็มีข้อติอยู่เล็กน้อย ตรงที่การแปลในบางจุดยังสร้างความสับสนให้กับผู้อ่านค่ะ เราไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือแปลอังกฤษมาเยอะแต่ก็มีหลายจุดที่เรา เอ๊ะ? หรืออ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจอยู่ แต่ก็เข้าใจในส่วนที่ควรจะแปลให้ตรงกับเนื้อหาในภาษาอังกฤษนะคะ และเราที่ไม่ค่อยถนัดอ่านหนังสือแบบbulletแบบนี้ก็…ต้องใช้เวลาพอสมควรในการอ่านเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ คิดเห็นยังไงคอมเมนต์กันไว้ได้นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามากันน้า :)