สิ่งลี้ลับ อำนาจแห่งไสยศาสตร์ พลังเหนือคุณไสย

😮“ไสยศาสตร์” หมายถึง สิ่งที่เรียกว่าลัทธิเกี่ยวกับคาถา เวทมนตร์ มาจากศาสนาพราหมณ์ คัมภีร์อถรรพเวท การทำสมาธิ ลงเลขยันต์ ด้วยมนตร์คาถาเชื่อว่ามาจากทางอินเดีย อีกชื่อเรียกว่า วิทยาศาสตร์ทางใจ เพื่อสร้างจิตใจที่กำลังอ่อนแอให้เกิดอำนาจ ความเชื่อมั่น เกิดเป็นเครื่องรางของขลัง เพื่อเติมเต็มคำอธิบายแบบเถรวาท ที่สามารถจับต้องความสุขเชิงโลกียะได้🤔🤔

ไสยศาสตร์สามารถแบ่งออกได้ 2 สาย คือ สายขาว ที่เน้นด้านพุทธคุณ ความดี เสริมผู้ครอบครอง ส่วนสายดำ เน้นมุ่งร้าย ทำลาย ตามตำนานที่ถูกกล่าวขานกันมา ในวันโกนจะเป็นวันปล่อยของ เหล่านักไสยศาสตร์ มนต์ดำ หรือที่เรียกว่ “ลมเพลมพัด” ซึ่งจะเป็นของไม่ดี ยิ่งใครที่กำลังดวงตก หากโดนของพวกนี้จะยิ่งแย่ อาจถึงแก่ชีวิตได้ ทำให้ในสมัยก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน จะไม่มีใครกล้าออกไปไหน 😮ทั้งสัตว์ดุร้ายมีพิษ โจร ภูตผีปีศาจอาจทำร้ายได้ จึงหาวิธีป้องกัน ทั้งคาถา อาคมไสยเวทย์ มนต์ดำต่างๆ แต่ก็มีเรื่องที่เชื่อกันว่า คนที่เล่นของมนต์ดำ หากปฏิบัติไม่ดี หรือมีของในตัวมากเกินไป สิ่งเหล่านั้นอาจเข้าตัวจนเป็นบ้าได้ หรือที่เรียกกันว่า “ของเข้าตัว”

เกิดการทำเบี้ยแก้ขึ้น🐌 ในช่วงสมัยที่ใช้เงินตราด้วยหอยเบี้ย พร้อมลงคาถาอาคมด้วยอักขระยันต์โดยพระสงฆ์ ขณะเดียวกัน เป็นช่วงที่กลุ่มลาว ไทย จีน มอญและเขมร เข้ามาตั้งรกรากในลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี เกิดการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งไทยได้รับอิทธิพลด้านพิธีกรรมแบบพราหมณ์มาจากทางเขมร ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิญญาณภูตผีปีศาจ

ตำนานความเชื่อของ “เบี้ยแก้” มีอิทธิคุณด้านป้องกันสัตว์ร้าย งูเงี้ยวเขี้ยวขอ กันคุณไสย ภูตผีปีศาจ คนสมัยก่อนเวลาเข้าป่าจะพกติดตัวทุกครั้ง เด็กเล็กมักจะมีห้อยคอติดตัวป้องกันผีวิญญาณ เบี้ยแก้จึงกลายเป็นเครื่องรางที่คนสมัยนั้น นิยมพกติดตัวตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ลักษณะของเบี้ยแก้ จะมีการใส่ปรอทที่ถูกล้างพิษออกหมดแล้วภายในหอยเบี้ย ใช้ชันโรงลักษณะคล้ายขี้ผึ้งปิดที่ปากหอย เพื่อไม่ให้ปรอทที่ถูกเก็บไว้ภายในหนีออกจากตะกั่ว ส่วนน้ำรักสีดำนำมาทาวัสดุที่มีความเหนียว ที่ใช้หุ้มเบี้ยแก้ไว้เพื่อเสริมพลัง อำนาจด้านเมตตามหานิยม. 😊

CR.จักรพรรดิเทวาลัย

https://www.facebook.com/jakkapat.dhevalai

หยดน้ำ