สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ นี้เป็นบทความแรกของเราเลย รู้สึกตื่นเต้นมากที่ผิวดีขึ้นจริงๆ เลยอยากเก็บภาพความประทับใจไว้ว่าครั้งหนึ่ง “ จากหน้าพัง กลายเป็น ผิวใส ( กว่าเดิม ) ” วันนี้ลงเวรจากการทำงานเร็วค่ะ เลยตั้งใจมาเขียนบทความแบ่งปันทริคการดูแลผิวในแบบฉบับที่เราลองมากับตัวเองแล้วเห็นผลลัพธ์ดี ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แต่หนทางที่ผ่านมา กว่าจะผิวดีขึ้นแบบนี้ได้ ก็ถือว่าลองผิดลองถูกมาเยอะจริงๆ ค่ะ หมดเงินไปเกือบแสนก็ว่าได้ ที่คำนวณดูจากไอเทมที่ซื้อมากองเต็มหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และยังไม่รวมกับอีกหลายไอเทมที่โละทิ้งขยะไปแล้ว เยอะเกิ๊น เพราะอะไรที่ใครว่าดีก็มักจะไปตำมา 555++

ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า ปกติแล้วเราทำงานขึ้นเวร บางวันขึ้นเช้าลงดึก  บางวันขึ้นดึกลงเช้าสลับๆ กันไป ทีนี้เราก็พักผ่อนน้อย นอนไม่ค่อยเป็นเวลาค่ะ เลยทำให้สิวบุก สิวก็ชอบขึ้นบริเวณคาง ขึ้นทีก็เม็ดใหญ่ทั้งน้านน บางทีมือเผลอไปลูบหน้าน้ำตาแทบไหล เจ็บสิวสะท้านT--T  ด้วยความที่รำคาญตัวเองค่ะใช้อะไรๆ มาเยอะ แต่หน้าก็ยังไม่ดีขึ้น คือ ส่วนตัวเข้าใจค่ะว่าการพักผ่อนน้อย ทำให้การฟื้นผิวเป็นไปได้ช้ากว่าคนอื่นๆ ที่เค้านอนเป็นเวลาและนอนพักผ่อนเพียงพอ  แต่ว่าที่ผ่านมายังหาสกินแคร์ที่จะมาช่วยพลิกผิวหน้าให้ดีขึ้นยังไม่ได้เลยค่ะทีนี้อยู่มาวันนึงดันโชคร้ายผิวติดสเตียรอยด์จ้าเคยอ่านเจอในอินเตอร์เน็ตแต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเองตอนแรกเราก็ยังไม่รู้ว่าผิวเราติดสาร แต่พอช่วงนึงที่ครีมกระปุกนั้นหมด แล้วเราก็ไม่มีเวลาสั่งซื้อมาใช้ต่อ จู่ๆ สิวก็บุกขึ้นจากกรอบหน้า ลามมาแนวกราม หน้าผากก็มีอุดตันตรึม หน้าก็หมองคล้ำ คันยิบๆ ก็เลยคิดว่านี่คงไม่ใช่สิวขึ้นจากการพักผ่อนน้อยแล้วแหละ เพราะปกติสิวฮอร์โมน หรือสิวจากการที่เรานอนไม่พอจะขึ้นไม่เยอะขนาดนี้

จากตอนนั้นเมื่อรู้ตัวว่าผิวติดสาร ก็เลยพักหน้า หยุดครีมทุกชนิด แม้แต่ครีมกันแดดก็ไม่ทา ได้แต่ล้างหน้าแล้วพอกไข่ขาววันเว้นวัน เท่านั้น แต่สิวก็ยังผุดขึ้นมาทุกวี่ทุกวัน รอยดำก็เยอะมากเลย หน้าก็แดงง่าย ผดก็คัน ทีนี้ก็นึกท้ออยู่พักนึง แบบไม่อยากใช้อะไรล่ะ ลองพักหน้าดูสิ ปรากฏว่าอุดตันก็ไม่ลดลง แต่ไม่เพิ่มขึ้นไปกว่าเก่า

ทีนี้ก็เลยศึกษามาตลออด ดูรีวิวเยอะมากส่วนมากจะเน้นอ่านรีวิวดูพวกไอเทมที่ใช้ได้กับผิวแพ้ง่ายค่ะ เลยนึกฮึดขึ้นมาอีกซักตั้ง แต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งที่เราโชคดีที่สุด เพราะเรากำลังมาถูกทาง ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เราเลือกมาใช้ร่วมกัน ส่งผลให้ผิวเราดีขึ้นตามลำดับจริงๆ เรียกว่า ถอนสเตียรอยได้จริง รู้สึกเลยว่าผิวแข็งแรงขึ้น เดี๋ยวมาดูมหากาพย์นะคะว่าเราใช้อะไรจัดการเจ้าสิวๆ ให้หมดไปจากหน้าเรา ( ขอใช้คำว่ามหากาพย์ 555++ เพราะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์จากที่เราใช้จริงและยาวสุดๆ ในชีวิตก็ว่าได้ค่ะ )

อันนี้เป็นตอนที่หน้าเราติดสาร ดู๊ ดู ความเยินระดับ 10 พังหนักขนาดไหนคงไม่ต้องถามใจเธอดู 555++  ทุกสิวมาครบองค์จ้า ทั้งสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ แสบคันหมดเลย  หน้าก็หมองด้วย

รูปภาพ:

และเมื่อได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างจริงจัง ผิวดีขึ้นแบบนี้ค่ะ ( ดีขึ้นพอสมควรเลย ) ช่วงที่หน้าพังหนัก ถือว่าเป็นจุดพีคเลยนะ เพราะเราเองรู้สึกเศร้ามาก เพราะคนอื่นๆ จะชอบทักว่า หน้าไปทำอะไรมา เราก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองค่ะ กำลังใจจากตัวเองสำคัญสุดล่ะ ( จริงๆ นะ เรารู้สึกแบบนั้น ) อันนี้เป็นภาพที่เราใช้มาครบ 5 เดือนต็ม มาถึงจุดๆนี้ได้ก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ

รูปภาพ:

เกริ่นกันมาซะยาวเลย เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะว่าที่เราใช้ฟื้นผิวครั้งนี้มีอะไรบ้าง

ขอแบ่งเป็น 3 หมวดตามนี้ค่ะ >>>  เพื่อนๆ จะได้ไม่งงเนอะ

1. ผลิตภัณฑ์เช็ด / ทำความสะอาดผิว

2. สกินแคร์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

3. อาหารเสริม

1. ผลิตภัณฑ์เช็ด / ทำความสะอาดผิว

ไอเทมนี้เพื่อนๆ หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่สำหรับเราที่เรารักษาสิวมาเยอะ เราสังเกตได้ว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย สำคัญมากๆ เลย หลายคนโฟกัสที่สกินแคร์อย่างเดียว คือที่ไม่ระคายเคืองผิว อันนั้นก็สำคัญ แต่ผลิตภัณฑ์เช็ด / ทำความสะอาดผิวนั้นสำคัญมากๆ เลย เราเลยลองเอามาปรับใช้ ก็ได้ผลดีค่ะ อย่างเช่น สำลีแผ่น ทิชชูเปียกที่ใช้ระหว่างวัน เราเคยอ่านรีวิวพวกของใช้แม่และเด็ก เค้าแนะนำสำลีที่ให้เด็กแรกเกิดใช้ คือ แบรนด์ BABY MOBY เราก็เลยเลือกซื้อมาเช็ดหน้าบ้างเพราะตัวเองผิวแพ้ง่ายสุดๆ เลยต้องเกาะกระแสพวกไอเทมแม่และเด็ก ( เบบี้ใช้ได้  วัยทำงานแบบเราก็ใช้ได้สบ๊าย ) เลยสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต เราชอบใช้รุ่นสำลีแผ่นใหญ่ เพราะว่า เช็ดสิ่งสกปรกได้จุใจ ถือแล้วเต็มไม้เต็มมือ  เวลาเช็ดเราแบ่ง 4 ส่วน เช็ดได้สะอาดภายในแผ่นเดียวเลย ( พลิกหน้าหลัง ไม่เปลือง ) ที่ชอบแบรนด์นี้เพราะใช้แล้วไม่เป็นขุยติดหน้า  เพราะบางอันที่เราเคยใช้จะเป็นขุยๆ ติดตามสิว  แต่ของ BABY MOBY ไม่เป็นขุย แล้วเค้าใช้เทคโนโลยี Water Jet เป็นการใช้แรงดันน้ำสูง แทนการใช้กาวหรือสารยึดให้สำลีผนึกเป็นแผ่นเดียวกัน แล้วเวลาใช้คู่กับ Lotion Cleanser ขอ งWELPANO  ก็ทำให้ไม่เปลืองเนื้อโลชั่น  ประหยัดค่ะ 

รูปภาพ:

แล้วเราก็ใช้น้ำเกลือ KLEAN & KAREเช็ดหน้ารอบสุดท้าย ( ใช้แทนโทนเนอร์ ) หลังล้างหน้าเสร็จ คือ เทน้ำเกลือลงบนสำลีแผ่น BABY MOBY เราก็ชอบตรงที่ไม่เปลืองน้ำเกลือ เพราะเทนิดเดียวก็ชุ่มแผ่นค่ะ ชอบน้ำเกลือเพราะเป็นเช็ดแล้วสบายผิว ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ เช็ดแล้วสบายผิวดีค่ะ 

รูปภาพ:

วันที่เราหยุดงาน หรือหลังลงเวร 3 วันต่อสัปดาห์ เราจะแบ่งเวลาออกกำลังกาย  ส่วนเวลาที่เราเหงื่อออกตอนหลังจากออกกำลังกายในแต่ละครั้ง เราจะใช้ทิชชู่เปียกสูตรน้ำ ซับหน้าทันที เราไม่ปล่อยให้เหงื่อแห้งเอง เพราะเคยปรึกษาคุณหมอผิวหนัง เค้าเคยอธิบายให้ฟังว่าเหงื่อก็เป็นตัวการของการเกิดสิวและผดผื่นด้วย  เราก็ใช้ทิชชูเปียกของแบรนด์ BABY MOBY เป็นแบรนด์เดียวกับสำลีแผ่น  ที่เลือกอันนี้เพราะไม่ผสมน้ำหอม ไม่มี Alcohol สารเรืองแสง และสารกันเสียพาราเบน เพราะลองดูแล้วยี่ห้ออื่นๆ ส่วนมากกลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียว แล้วเราก็มักจะแพ้ 555++ เราคิดว่าอันนี้เป็นไอเทมที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย แล้วชอบที่แผ่นผ้านุ่มมาก สัมผัสผิวแล้วไม่ระคายเคือง แผ่นผ้าชุ่มน้ำ เช็ดแล้วสบายผิวมาก  ควรติดกระเป๋าไว้เวลาไปยิมเลยแหละ เพราะที่สังเกตก็ช่วยลดต้นเหตุของการเกิดสิวได้ดีค่ะ

รูปภาพ:

2. สกินแคร์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ( แบบเรา )

หลักๆ เราใช้ของแบรนด์ WELPANO และ SMOOTH E แล้วก็มีเจลแต้มสิวของ TOMEI ค่ะ

สำหรับขั้นตอน ก่อนล้างหน้า เราใช้ WELPANO EXTRA SENSITIVE LOTION CLEANSER อันนี้เทคเจอร์เค้าจะเป็นโลชั่นสีขาวขุ่นๆ เราชอบตรงที่หลังจากเช็ดจะรู้สึกหน้านุ่มมาก ไม่แห้งตึงและไม่ทำให้ผิวมันมากกว่าเดิม รู้สึกแปลกดีค่ะเพราะที่ผ่านๆ มาจะคุ้นชินกับคลินซิ่งชนิดวอเตอร์ แต่อันนี้เป็นประเภทโลชั่น ตอนแรกก็กังวลว่าจะอุดตันมั้ยน้า แต่ใช้ไปใช้มาสักขวดที่ 2 สังเกตดูเวลาเช็ดมีสิวอุดตันหลุดติดสำลีมา ไม่อุดตันแบบที่เราคิดกังวลตอนแรกแฮะ อ่านฉลากข้างขวดระบุว่าสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

รูปภาพ:

หลังจากนั้น จะล้างหน้าด้วย SMOOTH E BABYFACE GEL ( เช้า - เย็น ) ตอนแรกก็ตามหาไอเทมสำหรับล้างหน้าที่ใช้แล้วไม่แพ้ ซึ่งหายากมากเลยนะคะ กว่าจะหาอันที่ลงตัวกับผิวแพ้ง่ายมากๆ แบบเราก็ตามมานานเหมือนกัน

อันนี้เป็นเจลใสๆ ผสมน้ำนิดนึง แล้วถูจะมีฟองเล็กน้อย เป็นสูตรอ่อนโยนค่ะ

เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เราใช้อันนี้มาหลายหลอดแล้วไม่มีอาการแพ้ เลยใช้ยาวๆ ไปเลยค่ะ เพราะขั้นตอน การล้างหน้าก็สำคัญ ถ้าแพ้มาจะมีผื่นแดงคันทั่วหน้าเลย

รูปภาพ:

จากนั้นหลังล้างหน้า จะทา WELPANO  CREAM - GEL เราทาทั่วหน้า ใช้แทนครีมบำรุงเลย เพราะเราเป็นคนมีสิวอุดตันง่าย เลยพยายามใช้อะไรที่เป็นเจลใสๆ ที่เน้นซึมสู่ผิวไว ไม่เหนอะผิว ไม่แห้งไม่มันจนเกินไปค่ะ ชอบตรงที่ช่วยลดรอยสิวและฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสด้วยค่ะ ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย แล้วก็ทารอบดวงตาได้ด้วย เลยบำรุงในหลอดเดียวกันนี้ ทาเช้า - เย็น  ตอนเช้าเวลาทากันแดดและทาแป้งฝุ่นทับแล้วไม่เป็นคราบ 

รูปภาพ:

จากนั้นจะใช้เจลแต้มสิวของ TOMEI เป็นเจลใสๆ ทาตรงบริเวณที่่มีหัวสิวแดงๆ ช่วยฆ่าเชื้อสิวได้ดีทีเดียวค่ะ ทาเช้า - เย็น ค่ะ ใช้มาหลายหลอดแล้วปลื้มมากๆ แต่มาพักหลังสิวอักเสบยุบแล้วก็หยุดใช้ เพราะไม่มีสิวจะให้แต้มล่ะ

รูปภาพ:

หลังจากที่ผิวติดสารมา สังเกตว่าช่วงเข้าหน้าหนาว หรือช่วงที่ลมหนาวมา หน้าเราจะแห้งมากถึงขั้นลอกเป็นขุยๆ ก็จะหาครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นมาช่วย เราใช้ SMOOTH E CREAM

สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวได้ดีมากๆ เลยค่ะ

ทาก่อนนอนเวลาเดียวเพราะกลางคืนนอนห้องแอร์ผิวแห้ง แต่ตอนกลางวันผิวไม่แห้งเท่าไหร่ค่ะเลยไม่ทา เราทาต่อจาก TOMEI แต่ช่วงไหนที่หน้าไม่แห้งมากก็ไม่ได้ทาค่ะ เพราะถ้าผิวหน้ามีความมันเกินไปกังวลว่าจะเกิดสิวง่าย

รูปภาพ:

อันดับสุดท้ายสำหรับสกินแคร์ที่ใช้ในตอนเช้า คือ ครีมกันแดด เราว่าครีมกันแดดสำคัญมากเลยนะ เพราะเมื่อก่อนเคยฝังใจว่าทาครีมกันแดดแล้วอุดตัน แต่พอไม่ทาก็กังวลว่าจะเป็นฝ้า เพราะแค่สิวก็เครียดแล้ว เลยค่อยๆ ตามหาครีมกันแดดที่เข้ากับผิวเราได้จริงๆ ลองใช้มาเยอะก็มาเจออันนี้ เป็นครีมกันแดดของ WELPANO

ชอบตรงที่ทาแล้วซึมสู่ผิวทันที ตอนเหงื่อออกไม่เป็นคราบ

เราก็เรียกไม่ถูกว่าเป็นเนื้ออะไร เพราะไม่ใช่เนื้อครีมเหนอะๆ ไม่ใช่เนื้อมูส และไม่ใช่สูตรน้ำ สูตรเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่ผสมน้ำหอม เนื้อสีขาว

รูปภาพ:

3. อาหารเสริม

เราทานอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะอ่านฉลากข้างกระปุกแล้วมีวิตามินสำหรับบำรุงผิวและลดสิวครบเลยค่ะ เช่น Co-Q10, Zinc, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, เปลือกสน และมีคอลลาเจน  เราไม่ค่อยได้ทานข้าวเช้า เพราะช่วงเช้าจะทานพวกโอวัลติน เราเลยทาน 1 เม็ดหลังอาหารกลางวัน เม็ดใหญ่นิดนึงแต่ดีที่ลักษณะแคปซูลนิ่มๆ ลื่นๆ กลืนง่ายอยู่ค่ะ  ทานแล้วรู้สึกผิวดูอิ่มน้ำ เวลาลูบผิวรู้สึกว่าผิวละเอียด

รูปภาพ:

และแล้วก็จบไอเทมที่เราใช้ทั้งหมดแล้วจ้า และนี่ก็เป็นภาพพัฒนาการดูแลผิวตั้งแต่ที่หน้าพังหนัก แล้วเริ่มดี จนกระทั่งดีสุด ( รูปปัจจุบันอยู่ล่างสุด )ตลอดระยะเวลา 5 เดือนเต็ม ผลลัพธ์ดีขึ้นชัดค่ะ เลยอยากเขียนบทความแบ่งปันเพื่อนๆ ค่ะ เป็นกระทู้แรกของเราเลย เพราะนานๆ ทีจะมีเวลาว่าง เลยรีบพิมพ์รัวๆ 555++  บ๊ายบายค่ะ เดี๋ยวขอตัวไปเตรียมตัวทำงานต่อแล้วค่ะ หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะคะ สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังดูแลผิว / รักษาสิวด้วยตัวเอง เพื่อนๆ คนไหนมีไอเดียดูแลผิวดีๆ อย่าลืมเขียนมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ เราชอบอ่านๆ สนุกมากค่ะ  บะบายค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ: