สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ครั้งนี้เรามีรีวิวแบบคู่ๆ มาฝากค่ะ จากการใช้ของตัวเอง ชอบจับนู่น จับนี่มาลอง มั่วไปหมด ผลออกมาคือ เป๊ะ แต่ไม่เล๊ะ นาาจาา ^^ เริ่มเลยนะ เรามีผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ 4 คู่ด้วยกัน ใช้ประจำและทดลองใช้ด้วยตัวเอง จับคู่ ใช้คู่กันแล้ว นางดีงามมมมจ้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยน๊า เจ้าของกระทู้ผิวแห้งค่ะ

รูปภาพ:

คู่นี้เป็นแบรนด์เดียวกันเลยค่ะ เขาก็จับคู่มาถูกกันมาก เราชอบใช้มาสคาร่าตัวนี้ หัวแปรงเป็นแบบหวี ทำให้เวลาปัดไม่เป็นก้อน เรียงตัวสวยงาม เพิ่มความหนาพอสมควรและความยาวได้ค่ะ

ด้วยความที่นางเป็นWaterProofจะล้างออกยาก ก็ต้องใช้ รีมูฟเวอร์Maybellineรุ่นนี้ เป็นโลชั่นสูตรน้ำมันกึ่งน้ำ ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีเลยทีเดียว ตัวนี้จะมีความมันพอสมควรค่ะ แต่เป็นมิตรกับผิวบริเวณรอบดวงตามากค่ะ เวลาเช็ดแนะนำใช้สำลีแผ่นชุบโลชั่นให้ชุ่ม เช็ดไปในแนวเดียวกันจากบริเวณหัวตาไปยังหางตา อย่าถูกไปมา เด็ดขาด! เพราะจะทำให้ดวงตาเป็นริ้วรอยได้ง่ายค่ะ

รูปภาพ:

คู่นี้เป็นแบรนด์เดียวกันเช่นกันค่ะ รู้จักจากที่เราใช้มาสก์สิว BKmask มานานแล้ว และเขาออกผลิตภัณฑ์มาใหม่ เราได้สั่งมาลองอีกเช่นเคย ตัวแรกเป็นสครับผิว แปลกใจมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ นางเป็นสครับที่น่ากิน ^0^ เพราะเป็นเนื้อสครับจากธรรมชาติ 100% เนื้อนุ่มๆ สครับเป็นวงกลมเล็กๆ ทั่วหน้า ไม่แสบผิว ไม่บาดดีค่ะ

สครับประมาณ 10-15 นาที จะผสมกับโฟมที่ใช้อยู่ก็ได้นะคะ แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

แนะนำว่า เวลาเช็ดหน้าควรซับๆ ไม่ควรถูๆๆ จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเร็วค่ะ สครับเสร็จก็ต้องบำรุง ถูกมะ

ก็ใช้มาสก์หลอดแดงต่อค่ะเป็นมาสก์เนื้อเจลลี่แบบล้างออก แต่เรามาสก์นอนค่ะ คิคิ ตื่นมาหน้านุ่ม ชุ่มผิวดีแฮะ ให้ความไบร์ทขึ้นมาแบบไม่เวอร์  เราใช้แทนครีมบำรุงไปเลยค่ะ เพราะตอนมาสก์ให้สัมผัสที่เย็นสบายยย หอมกลิ่นฟรุตตี้ มีส่วนผสมของมะเขือเทศด้วยค่ะ กำลังฮิตเลย

รูปภาพ:รูปภาพ:

คู่นี้ต่างแบรนด์แต่มีความ Together we can ค่ะ 555+  ตัวแรกคอลซิลเลอร์ของ Revlon รุ่นนี้เราใช้ประจำชอบตรงที่เกลี่ยง่าย และเซ็ทตัวเร็วค่ะ ปกปิดได้ดี ไม่ตกร่อง เนื้อค่อนข้างหนักพอสมควร แต่มันเข้ากับสีผิว และติดทนดีค่ะ (เราใช้เบอร์ 04) ใช้ปิดรอยคล้ำใต้ตา กลบหมีแพนด้าได้ดีมาก ชุ่มชื่นไม่แห้งเป็นขุย แต่ถ้าเป็นสิวเราจะใช้อีกตัวค่ะ

ลงคอลซิลเลอร์เสร็จก็คูชชั่นค่ะ อยากให้ผิวฉ่ำ ก็จัดตัวนี้เลย มีความฮอต Cathy Doll AA ขอเกาะกระแสตามบ้างนะ (เราใช้เบอร์ 24 Medium Beige) ปัญหาผิวเราคือมีรอยสิวเยอะ ก็โป๊ะลงไปค่ะ  เจ้าตัวนี้ปกปิดโอเคมาก ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสยาวนาน เพราะมี Titanium Dioxide ปรับผิวเนียนสวยเป็นธรรมชาติ รอยดำรอยแดงหายหมดเลย ตรงไหนรอยเข้มหน่อยใช้วิธีการแท็ปๆ ลงบนหน้าจะทำให้เนื้อแป้งเนียนมากขึ้น แต่ระวังเทานะคะ 555  สัมผัสของแป้งเวลาทาลงบนหน้าคือแมทค่ะ ยังมีความฉ่ำอยู่ เวลาทาจะเย็นๆ กลิ่นมิ้นๆ หอมสดชื่นผิวดีค่ะ ทิ้งให้คูชชั่นเซ็ทตัวสักครู่ และลงแป้งฝุ่นเบาๆ บางๆ ตามนะคะ  แล้วค่อยแต่งหน้า

รูปภาพ:รูปภาพ:

คู่สุดท้ายเป็นการเซ็ทผิว เพิ่มความพร้อมก่อนออกไปเที่ยวละกัน ^^ หลังจากแต่งหน้าเรียบร้อย สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การล็อคผิว ล็อคเมคอัพให้ติดทน เราใช้น้ำแร่ของ Avene เพราะยี่ห้อนี้มีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ชอบม๊ากกกก คือองศาการกระจายเข้าหน้าแบบละอองละเอียด เย็นสบายฝุดๆ ล็อคเมคอัพเหมือนแต่งหน้ามาใหม่ๆ งานสบายผิวก็มาค่ะ ก่อนจากบ้านจะฉีดให้ชุ่ม ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้กระดาษเช็ดหน้า Kleenex สูตรผสมสารสกัดจากแตงกวาค่ะ ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ธรรมชาติ 100% มันอ่อนโยนต่อผิวหน้าดี ซับเบาๆนะคะ คือดีงาม สองตัวนี้ใช้คู่กันบอกเลยว่า ผิวเราชุ่มชื่นขึ้นค่ะ

รูปภาพ:

สรุปคือคู่ที่ชอบที่สุดคือ คู่ที่ 2 และคู่ที่ 4 ค่ะ เพราะชอบบำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้น อะไรก็ได้ที่ทำให้ผิวเราผ่อนคลาย 555+ และชอบสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากกว่าค่ะ


และจากทีรีวิวมา เราซื้อเอง ใช้เอง รีวิวจากการใช้จริงแล้วเห็นผลนะคะ



จบแล้วสำหรับรีวิวในครั้งนี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ


สวัสดีค่าาา จุ๊บๆ