สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว

SistaCafe

วันนี้เรามีเวชสำอางที่ช่วย

ลดริ้วรอย


และ

บำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่นกระจ่างใส

ซึ่งเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหา

สิว มารีวิวเล่าสู่กันฟังค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่ไม่กล้าใช้เครื่องสำอางสุ่มสี่สุ่มห้าเลย

เพราะหน้าค่อนข้างแพ้ง่ายมากๆ ใช้อะไรนิดอะไรหน่อย สิวจะเห่อเร็วมาก ต้องใช้เวลารักษานานเป็นเดือนหรือเป็นปีเลยทีเดียว ทำให้ไม่กล้าลองใช้อะไรที่ไม่มั่นใจ

จนกระทั่งได้มาเจอกับ


GRACEO

ก่อนหน้าที่จะลองใช้ก็หาข้อมูลพอสมควรค่ะ ด้วยความที่เป็นเวชสำอางที่คุณหมอแนะนำ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมีกันเสียและปราศจากสารเคมีหน้าขาวปรอท สเตียรอยด์

ทำให้กล้าลองใช้และนำมารีวิวบอกต่อกันค่ะ

ซึ่งหลักๆ ที่ลองใช้มี 2 ตัวที่ใช้คู่กันแล้วเห็นผลชัดเจน ใช้แล้วเสริมผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน คือ 2 ชิ้นนี้ค่ะ


1. Acne Spot - เจลบำรุงผิวหน้าและแต้มสิวอักเสบ/รอยดำจากสิว

2. Acne White Treatment  - เจลบำรุงผิวแอคเน่ไวท์ทรีทเมนต์

รูปภาพ:

รูปภาพ:

1-3 วันแรก ที่ลองใช้ :

เราเริ่มจากแต้ม

Acne

Spot( ซ้ายมือ )

แล้วตามด้วยเกลี่ยเจล

AcneWhiteTreatment

(ขวามือ)



เช้า-เย็น วันละ 2 ครั้ง แต่บางครั้งเราจะแต้มตัว

Acne

Spot


บ่อยหน่อย แต้มวันละ 3-4 ครั้ง ตรงจุดที่เป็นสิวอักเสบและตรงสิวผด


ซึ่งตัวของสีเขียวข้น มีกลิ่นเหมือนสมุนไพรโดยใน 1-3 วันแรกเราจะแต้มเป็นจุดๆ ไปที่สิวอักเสบ

และ

สิวอุดตันที่เป็นไตแข็งๆ ก่อน

บอกก่อนว่าเราไม่ค่อยมีสิวอักเสบ แต่เราจะมีพวกสิวอุดตันค่อนข้างเยอะ และมีรอยดำจากสิวเป็นส่วนใหญ่

ปรากฎว่าใช้ไปคืนแรก

สิวที่อุดตันหลุดเป็นหัวๆ เลยค่ะ เรียกได้ว่าหน้าเนียนขึนเลย

ส่วนสิวอักเสบที่พอมีอยู่บ้าง ยุบลงไปประมาณ 2 วันค่ะ เหมือนกับที่ข้างกล่องเขียนไว้เลย

รูปภาพ:

ส่วน

Acne White Treatment

จะเป็นเจลใสๆ สะอาดๆ เนื้อเหลวบาง

ใช้คืนแรกก็รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่น รู้สึกได้ว่าหน้าไม่หมอง ค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น  อาทิตย์แรกก็รู้สึกได้เลยว่าหน้าใส พอมาเจอน้องชายที่ไม่ได้เจอกันเป็นเดือน น้องชายบอกว่าหน้าใสขึ้นค่ะ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ เราว่าเจล 2 ตัวเนี่ย ต้องใช้คู่กัน เพราะตัวนึงจะช่วยเรื่องสิวและริ้วรอย ส่วนอีกตัวจะช่วยในเรื่องของความกระจ่างใส และควบคุมความมัน เพิ่มความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวหน้าแห้งตึงเกินไป

ซึ่

งบอกเลยว่าเป็นเวชสำอางที่เราใช้แล้วไม่แสบหน้าเหมือนเวชสำอางบางตัว

และ

ตอนที่ทดลองใช้ผ่านไปประมาณ 1-2 ชั่วโมง หน้าก็ยังดูชุ่มชื่น ผ่านไปหลังจาก 1-2 ชั่วโมงสิวหัวแข็งๆ เริ่มหลุด พอใช้ไปเรื่อยๆ หน้าก็เริ่มเรียบเนียนไม่ขรุขระ ซึ่งมันทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย

รูปภาพ:

3 วันถัดมา

เราไม่มีสิวที่เป็นสิวอักเสบแล้ว จะเหลือแค่สิวอุดตันตรงหน้าผากเล็กน้อย นอกนั้นก็จะเป็นรอยดำจากสิวตรงข้างแก้มล้วนๆเลย

ตั้งแต่วันที่ 3 เราก็เปลี่ยนวิธีใช้ เป็นการทา Acne Spot บางๆ ทั่วบริเวณที่เป็นรอยดำจากสิวเลยค่ะ

แล้วเกลี่ยทาเจลใส Acne White Treatment ทั่วหน้าตามเป็นปกติ แล้วก็ใช้เป็นประจำเรื่อยมา



ผลลัพธ์โดยรวมที่เกิดขึ้นกับเรา :

ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป รอยดำก็จางลงไปมากๆ แบบเวรี่ หน้าใสขึ้นเยอะ สิวอักเสบไม่มีแล้ว มีสิวผดบ้างช่วงระหว่างวันแต่พอเราแต้ม Acne Spot ก็หาย

สำหรับเรา อาทิตย์ - 2 อาทิตย์แรกก็เริ่มเห็นผลชัดแล้ว ถามว่าจะซื้อหลอดใหม่เพื่อใช้ต่อไหม ตอบเลยว่าแน่นอน เพราะถ้าถามเรา เรื่องราคากับคุณภาพ เราว่าคุ้ม  เพราะ 2 หลอดนี้ราคาหลอดละ 390 บาทเท่านั้น ราคาน่าคบหามากที่สำคัญรู้สึกปลอดภัยเพราะเป็นเวชสำอางจากธรรมชาติ 100 % ด้วย และคุณหมอก็แนะนำด้วย รู้สึกว่าโชคดีที่เจอเวชสำอาง 2 ตัวนี้ค่ะ

รูปภาพ:

ขอฝากทริคสำคัญๆอีก 1 ข้อ สำหรับสาวๆ ที่เป็นสิวเยอะนะคะ

ไม่ว่าจะใช้เครื่องสำอางหรือเวชสำอางตัวใดก็ตาม ล้างหน้าให้สะอาด ก่อนที่จะละเลงสิ่งใดลงบนใบหน้า

ไม่ขี้เกียจนะคะ

เพราะหากเป็นสิวแล้วไม่คุ้มที่จะต้องมานั่งรักษาเลยค่ะ ดื่มน้ำเยอะๆ ทานผักผลไม้มากๆ ดูแลชีวิตให้บาลานซ์

โอกาสหน้าหากเจอเครื่องสำอางดีๆ จะมารีวิวเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอีกนะคะ เจอกันรีวิวหน้าค่ะ