สาวซิสต้าทั้งหลาย เคยคิดไหมว่าความรักในโลกโซเชียล บางทีก็ “ง่าย” และรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติดแค่ถูกใจใครก็กดเพิ่มเพื่อน ถูกใจรูปก็ไลค์ คอมเมนต์แหย่กันไปแหย่กันมาไม่กี่วัน ตั้งสถานะ In a relationship ซะงั้น!แต่เพราะความรักมาง่าย มันก็ไปง่าย!ไม่ถึงสัปดาห์สถานะคบกันก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักพักก็ไปจีบคนอื่นต่อ วนลูปต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
ลองคิดถึงความรักในยุคสมัยคุณปู่คุณย่าสิ ยุคที่ยังต้องใช้เหรียญหยอดตู้สาธารณะ สัญญาณดังทีก็ใจสั่นที ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะได้คุยกับสาว กว่าจะนัดเดทกันได้ก็แสนยากจะจีบตรงๆ ก็ไม่ได้ ต้องบอกอ้อมๆ ผ่านจดหมายรักที่เขียนเองกับมือ ( ขยำทิ้งไปเป็นร้อยกว่าจะได้สักฉบับ ) หรือแต่งเพลงรักที่เนื้อหาสื่อว่า “ ชอบ ”น่าเสียดายที่ยุคนี้หาโมเมนต์แบบนั้นได้ยากเต็มที ก็จีบกันผ่านไลน์กันหมดแล้วนี่นา
สาวซิสต้าที่กำลัง “ ดูๆ กันอยู่ ” กับใครสักคน อยากลองย้อนยุคไปดูไหมคะว่า หนุ่มสาวยุคเก่าเขาจีบกันอย่างไรรักที่ได้มาจึงมั่นคง อยู่กันได้จนแก่เฒ่าถ้าอยากรู้ก็ตามมาเล้ย!
1. แต่งเพลงหวานๆ ให้กัน
ในสมัยก่อน หนุ่มๆ ที่มีสายเลือดนักดนตรี มีจิตวิญญาณศิลปินเข้ากระแสเลือด มักแต่งเพลงรักหวานๆ ให้สาวที่เขาแอบชอบสาวยุคใหม่รอช้าอยู่ไย ถ้าเธอหลงใหลในเสียงดนตรี ลองแต่งเพลงความหมายดีๆ ให้คนรักดูสักเพลงสิไม่จำเป็นต้องมีเนื้อร้องก็ได้ แค่ร้อยเรียงตัวโน้ตเป็นเพลงน่ารักๆ ที่ฟังแล้วยิ้ม มีความสุขไปทั้งวันก็ฟินแล้ว
ยิ่งถ้าเธออยู่ในวงดนตรี เป็นนักร้องนักแต่งเพลงอยู่แล้ว เธออาจจะแต่งเพลงแล้วเปิดเวทีให้แฟนฟังคนเดียวเลยก็ยังได้ ( โห ทุ่มทุนสุดๆ )ขอแค่เล่นดนตรีออกมาจากหัวใจ ให้เสียงเพลงบรรเลงแทนคำพูดที่มีต่อเธอ แอร๊ย ฟิน!
2. เขียนจดหมายรักมุ้งมิ้งให้กัน
คู่รักสมัยก่อนมีสื่อรักที่ใช้กันทั่วโลกอย่าง “ จดหมายรัก ” เพราะแสดงถึงความพยายามและตั้งใจบรรยายความรัก ถ้าคู่ไหนไม่เขียนจดหมายถึงกันถือว่าเชย!เธอเคยค้นจดหมายของคุณปู่ที่เขียนให้คุณย่าไหม บางประโยคหวานจนต้องเขินม้วนสิบตลบ ผู้ชายสมัยก่อนโรแมนติกกว่าที่คิดนะขอบอก!
ผู้ชายสมัยนี้อาจไม่ชินกับการบรรยายคำหวานเลี่ยนเป็นหน้ากระดาษเท่าไหร่ ( แค่เอ่ยคำว่ารักยังต้องเค้นจนเหนื่อย )แต่มาลองเขียนจดหมายรักเพิ่มรสชาติให้ชีวิตคู่ก็ไม่เลวนะ เขียนแย่ น่าเบื่อแค่ไหนก็รู้กันแค่สองคน เหมือนเป็นความลับสุดพิเศษระหว่างเราไงล่ะ
ถ้าหนุ่มของเธอไม่สันทัดเรื่องนี้จริงๆ แค่เขียนโน้ตหวานๆ หรือเขียนอีเมล์ไม่กี่บรรทัดก็เอามาฟินได้แล้วแต่ถึงยังไงเราก็ให้คะแนน“ จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ ”มากกว่านะ
3. กินมื้อเย็นด้วยกันที่บ้าน
สมัยก่อนคู่รักมักทำอาหารและกินกันที่บ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่หญิงก็ชาย ( ส่วนใหญ่ก็ฝ่ายหญิงนั่นแหละ )สาวๆ ยุคก่อนต้องมีทักษะทำอาหารติดตัวเป็นภาคบังคับ ไม่อย่างนั้นจะโดนผู้ใหญ่ตำหนิว่า “ ไม่มีเสน่ห์ปลายจวัก ”ไม่มีหนุ่มมาชอบและไม่ได้ออกเรือนพูดอย่างนี้จะอยู่เฉยได้ไง ต้องฝึกเข้าครัวด่วนๆ
อาหาร “ โฮมเมด ” ที่เธอตั้งใจทำด้วยตัวเองนั้น นอกจากแสดงถึงความใส่ใจและพยายามแล้ว ยังสามารถเลือกชนิดวัตถุดิบที่มีประโยชน์มาทำมื้อเด็ดให้คนรักได้อีกด้วยสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องทำเป็นแค่ฝ่ายเดียว หนุ่มๆ ก็สามารถมาช่วยทำอาหารได้ เปิดสูตรในไอแพดไป ทำอาหารกันไป อิ่มทั้งท้องทั้งใจเลยนะ
4. ลด ละ เลิกโซเชียลเมื่ออยู่ด้วยกัน
สมัยก่อนอย่าว่าแต่เฟสบุ๊คเลย แค่โทรศัพท์หากันก็ยากเต็มที ส่วนใหญ่มักนัดเจอกันตัวเป็นๆ มากกว่าการเจอหน้ากัน สบตาของกันและกันโดยไม่ผ่านโปรแกรมอย่าง facetime และสไกป์ ทำให้เราเห็นแววตาได้ชัดเจนกว่าคู่หนุ่มสาวสมัยนี้ที่เอาแต่จ้องหน้าจอบางคู่นัดเจอกัน แต่เมื่อเจอตัวจริงกลับหมกอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองซะงั้น แล้วแบบนี้จะมาเจอกันทำไมคะ ตอบ
วางโทรศัพท์มือถือ ละสายตาจากโน้ตบุ๊คเครื่องโปรด แล้วหันมาสนทนากับฝ่ายตรงข้ามแบบ “ ออฟไลน์ ” บ้างเถอะทั้งโรแมนติกและน่าจดจำกว่าตัวอักษรในกล่องแชทเป็นไหนๆ
5. ฝ่ายชายเป็นสุภาพบุรุษ
หนุ่มๆ ยุคก่อนมักมี“ สกิล ”ภาคบังคับคือความเป็นสุภาพบุรุษ!แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำให้สาวคนรักรู้สึกดีไปทั้งวัน เช่น เปิดประตูค้างไว้ให้เธอเข้าก่อน เลื่อนเก้าอี้ออกให้เธอนั่ง ให้โอกาสเธอสั่งอาหารก่อนตามค่านิยมสมัยก่อนว่า “ Lady First ” นั่นเอง
ผู้ชายสมัยนี้อาจหลงลืมความเป็น “ เจนเทิลแมน ” ไปบ้าง เธอลองอ้อนมุ้งมิ้งๆ ให้เขาเปิดประตูให้บ้างสิ!แหม แม้แต่ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยังมีมุมอ่อนแอเลยเธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง เอาใจกันหน่อยสิจ๊ะตัวเอง( เกาะแขน อ้อนวอนแฟนเหมือนลูกหมีโคอาล่าเกาะต้นไผ่รัวๆ )
6. ให้ของขวัญทำมือ เป็นสิ่งแทนใจ
ในสมัยก่อน ของขวัญทำมือหรือ“ แฮนด์เมด ”เป็นหลักฐานแสดงความตั้งใจว่าเรารักอีกฝ่ายจริงๆ เพราะต้องเสียสละทั้งเวลาและกำลังกายไม่ว่าจะเป็นของง่ายๆ อย่างพับดาวในขวดโหล เสื้อถัก ผ้าพันคอถักไหมพรม หรือการปักครอสติชท์ ( ลายยิ่งละเอียดยิ่งปักยาก ปักนาน )บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการแก้วแหวนเงินทองราคาแพง แค่อยากได้ของขวัญที่หนุ่มๆ ทำให้กับมือเท่านั้นเอง
ลองทำตามวิธีของสาวๆ ยุคคุณปู่คุณย่าอย่างการเย็บปักถักร้อย หรือวาดรูป เพ้นท์สีโหลแก้ว ถ้วยชามให้แฟนก็น่ารักไปอีกแบบน่าเศร้าที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่มีเซ้นส์เรื่องการทำของขวัญด้วยมือ ถ้าเธอลองขอ อาจได้ผ้าพันคอที่เหมือนก้อนขดๆ มาก็เป็นได้แต่แค่เขายอมทำให้ ก็ได้ใจเธอไปแล้วเต็มๆ จริงไหมล่ะ
7. เต้นรำด้วยกัน
ถ้าเธอเป็นแฟนภาพยนตร์ยุคเก่า มักเจอฉากในห้องโถงเต้นรำ หรือดิสโก้ที่มีฉากการวาดลวดลายเต้นรำของพระเอก นางเอกเสมอเพราะการเต้นเป็นความบันเทิงที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย มีประเพณีเกี่ยวกับการเต้นทุกประเทศทั่วโลก ชอบแนวไหนก็จัดไปเป็นสาวเรียบร้อยก็เต้นเบาๆ จับมือแฟน ซบไหล่ตามจังหวะเพลง แต่ถ้าเป็นสาวแก่นซนๆ ก็เต้นแบบที่ได้ขยับแขนขยับขาเต็มที่หน่อย ไม่ผิดกติกา
แต่เราขอเตือนว่า ถึงชอบเต้นแค่ไหน ก็อย่าไปเต้น harlem shake หรือส่ายก้นอย่าง twerk dance เพราะดูก๋ากั่นสุดๆ และไม่มีความโรแมนติกเป็นอย่างยิ่งลองชวนแฟนมาเต้นรำด้วยกันสิ บรรยากาศเย็นๆ คลอเสียงเพลงซึ้งๆ ได้โอกาสก็ซบไหล่ พิงหน้า เผลอก็กอดซะเลย!( คนเขียนขอกัดผ้าเช็ดหน้าระงับความอิจฉาก่อน! )
8. ฝ่ายชายสุภาพและให้เกียรติฝ่ายหญิง
การกระทำสุดโรแมนติกที่ฝ่ายชายทำเมื่อไหร่ก็ได้ใจสาวเสมอ คือการเป็นสุภาพบุรุษทั้งทางกายและจิตใจ นั่นคือสุภาพและให้เกียรติฝ่ายหญิง!พูดจาสุภาพ ไม่หยาบคาย ไม่ก้อร่อก้อติก มือไม้พันเป็นปลาหมึก ไม่แต๊ะอั๋ง ไม่หวังหลอกพาขึ้นห้อง ไม่มีเรื่องลามก ทะลึ่งตึงตัง เป็นแค่ผู้ชายแสนดีที่อยากมีเธอเป็นแฟนน้ำเน่ามาก แต่มุ้งมิ้งไปอีก!
ผู้ชายมักมีความอ่อนไหวในเรื่องความรักง่ายกว่าผู้หญิง จึงมีหลายครั้งที่อยากกอด อยากจุ๊บแฟนบ้างแต่หากเพิ่งเริ่มจีบ ก็ไม่ควรออกท่าทางชัดขนาดนั้น สาวจะเตลิดหนีไปไกลเสียก่อนจะตัดสินใจคบกับใครก็ดูพฤติกรรมของเขาด้วยนะจ๊ะเธอ ถ้าเขาอ่อยเธอได้ เขาก็เหล่คนอื่นได้เหมือนกัน!
==================================สังคมปัจจุบันมีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อเป็นศูนย์กลางทั่วกันทั้งโลก ทำให้ติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย รักกันง่าย และเลิกกันง่ายเช่นเดียวกัน!เราตกหลุมรักจากรูปที่เห็นในเฟสบุ๊ค ไอจี แต่ไม่เคยสัมผัสตัวตนจริงๆ ของเขา ไม่เคยพยายามทำอะไรที่คุ้มค่ากับความรัก ทำให้ความรักอ่อนแอและเปราะบางเหมือนลูกโป่งน้ำแค่ใช้เข็มจิ้มก็ไม่เหลือซากให้ระลึกถึง TwT
การกระทำของคู่รักรุ่นก่อน แม้จะไม่หวือหวา รวดเร็วโดนใจวัยรุ่น แต่ก็มีมุมโรแมนติกและความลึกซึ้งซ่อนอยู่ถ้าไม่รักจริงคงแต่งเพลง หรือเขียนจดหมายยาวเป็นหน้าๆ ไม่ได้หรอก..จริงไหม?ลองเพิ่มความหวานให้ชีวิตคู่ด้วยวิธีแบบนี้ รับรองว่าคู่ของเธอจะมีความทรงจำสุดประทับใจ เก็บไว้เล่าได้ยันรุ่นลูกรุ่นหลานแน่นอนโอ๊ย ฟินเวอร์ ><
อยู่ในยุคปัจจุบันก็มีความรักลึกซึ้งเหมือนในบทกวีได้ ขอให้กล้าทำเท่านั้นเอง ^^ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ==================================
