ชวนกันอ้วนตล๊อดตลอด! อ่ะสาวๆ

Sista

Cafe

อย่าเพิ่งเจ็บแค้นเคืองโกรธกันไป เพราะงานนี้พี่ก็จัดมาให้อีกแล้ว ( ยิ้มมุมปาก )

สำหรับวันนี้ขอเอาใจชาว

freelance

ที่มองหาพื้นที่นั่งทำงานสบายๆ ซะหน่อย สะพายกระเป๋าแบกกล้องบุกมาถึง

คาเฟ่ สุขุมวิท


ที่มีชื่อว่า

" StoryLine "

พิกัดกลางเมืองซอย

สุขุมวิท 39

จะหยิบ notebook มากางลุยงาน หรือสั่งอาหารมานั่งเม้ามอยกะเกิร์ลแก๊งก็ย่อมได้ มาที่นี่คือร้านเดียวเอาอยู่!

รูปภาพ:

ต้องออกปากก่อนว่า

" StoryLine "

คือคาเฟ่รูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากคาเฟ่ในย่าน

สุขุมวิท

มาไกลเลยทีเดียวค่ะ ความต่างในที่นี้ไม่ใช่เรื่องหน้าตาของตัวร้านหรืออาหาร แต่เป็นเรื่องราวและคอนเซ็ปต์ที่

คุณหมู สมิทธ์ สุรบถโสภณ

เจ้าของร้านคนเก่งซ่อนเอาไว้ นั่นก็คือการเป็น

co-working space+ cafe

ที่เรียกง่ายๆ ว่า

work friendly cafe

Error: geo_location

Work friendly cafe Eat-Talk-Work @ StoryLine คาเฟ่ สุขุมวิท 39

คุณหมูเล่าให้เราฟังว่าได้ไอเดียนี้มาจากการทำงานจริงของตนเองค่ะ เพราะการประกอบธุรกิจในด้าน

branding agency

ทำให้เห็น

lifestyle

การทำงานของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป


หลายคนเลือกที่จะนั่งทำงานหรือนัดคุยงานตามคาเฟ่หรือ

co-working space

แทนการนั่งในออฟฟิศแบบเดิมๆ เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศที่ดีขึ้นแล้ว ไอเดียใหม่ๆ ยังผุดขึ้นตามมาได้อีกด้วย จึงทำให้คุณหมูตัดสินใจแบ่งพื้นที่ชั้นล่างของออฟฟิศมาเปลี่ยนเป็น

คาเฟ่ สุขุมวิท

แห่งนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียเก๋ๆ ของ

" StoryLine "


นั่นเองค่ะ

รูปภาพ:

มาขยายความถึง

work friendly cafe

กันสักหน่อย อาจบอกได้ว่ามันคือกึ่งกลางระหว่างคาเฟ่และ

co-working space

โดยทุกคนสามารถนั่งทำงานได้ ทางร้านมีปลั๊กไฟ, wifi ฟรี และห้องประชุมไว้คอยบริการ จะนั่งนานแสนนานยันร้านปิดก็ไม่โดนไล่

แถมยังสามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารมาทานไปทำไปได้โดยไม่มีข้อห้าม ไม่ strict เกินไปเหมือนรูปแบบการใช้งาน

co-working space

เป็นการนำความยืดหยุ่นของคาเฟ่มาปรับใช้ร่วมกัน ตอบโจทย์ชาว

freelance

และคนรุ่นใหม่ซึ่งต้องทำงานได้ทุกที่แบบเราๆ สุดๆ ไปเลยเนอะ

Variety Main course @ StoryLine คาเฟ่ สุขุมวิท 39

รูปภาพ:

เอาจริงๆ เราเซอร์ไพรส์กับเมนูและรสชาติอาหารของ

" StoryLine "

มากทีเดียว เพราะต้องเข้าใจระดับหนึ่งว่าร้านสำหรับทำงานไม่เน้นกินแนวนี้ อาหารมักจัดมาแบบง่ายๆ จานด่วน จานเดี่ยว ทานไว และพอกินได้ประมาณหนึ่ง

แต่

คาเฟ่ สุขุมวิท

แห่งนี้เขาจริงจังทั้งเรื่องงานและเรื่องกินเลยค่ะซิส เมนูมีความหลากหลาย นานาชาติเวอร์ หน้าตาดีเทียบชั้น restaurant จะญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน ฟิวชั่น หรือแม้แต่ขนมนมเนยคือพร้อมสรรพ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือไม่ได้ทานยาก ยังอยู่ในรูปแบบที่สามารถทานไปทำงานไปได้สบายๆ เคี้ยวไปคิดไป ท้องอิ่มสมองแล่นแน่นอน

อ่ะๆ อย่ารอช้า ผายมือเชิญ เตรียมกระดาษเช็ดน้ำลายมุมปากไว้สักหน่อย เตือนอีกครั้งว่าจัดเต็มจริงๆ ><

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Raw dessert @ StoryLine คาเฟ่ สุขุมวิท 39

กินคาวแล้วโบราณว่าหวานต้องมาอย่าให้ขาด ทางด้านของหวาน

" StoryLine "

เขาก็มีเมนูใหม่ เป็นเค้กสูตรลับเฉพาะคนรักสุขภาพที่เรียกว่า

Raw dessert

นั่นก็คือการทำขนมโดยไม่ผ่านกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ อบ นึ่ง เชื่อม ฯลฯ แต่เป็นการใช้วัตถุดิบสดๆ ทำให้เป็นเค้กหนึ่งชิ้น

บอกเลยว่าสดใหม่และได้รสอร่อยแบบธรรมชาติจากวัตถุดิบนั้นจริงๆ เลยค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

กินหนักแบบนี้เดี๋ยวจะติดคอ เสิร์ฟเครื่องดื่มกันหน่อย

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Modern Casuals & warm style @ StoryLine คาเฟ่ สุขุมวิท 39

" StoryLine "

ออกแบบร้านในบรรยากาศสบายๆ ไม่มากไปและไม่น้อยเกินไป เรียกว่ากำลังพอดีๆ แบบนั่งได้ไม่เบื่อค่ะ ด้วยสไตล์ที่อยู่ได้นานไม่ตกยุคอย่าง

Modern

หากแต่ยังมีความสวยงามหรูหราที่ยังจับต้องได้จากการใช้หินอ่อนตกแต่งในบางส่วนของร้าน

ร้านสวยแต่นั่งได้แบบไม่รู้สึกเกร็งยังให้อารมณ์แบบ

Casuals

ที่ยังเข้าถึงได้อยู่ และยังฟีลอบอุ่นเล็กๆ ด้วยการดีไซน์ให้เป็น

Wood cafe

ไม่ว่าจะวัยไหนเพศไหนก็มานั่งชิลล์ได้หมด

รูปภาพ:https://instagram.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/t51.2885-15/e35/16110482_395953710745952_3546070435760177152_n.jpgรูปภาพ:https://instagram.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/t51.2885-15/e35/14310700_303667373323828_1958848060_n.jpg

นอกจากนั้นแล้ว

คาเฟ่ สุขุมวิท

แห่งนี้ยังเลือกใช้ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์จาก

ฝีมือดีไซเนอร์ไทย

เกือบทั้งหมด แม้ภาพถ่ายที่ติดอยู่ตามผนังก็เช่นกัน เป็นการสนับสนุนและส่งเสริมวงการออกแบบไทยของเราอีกด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบของตกแต่งบางชิ้นก็สามารถซื้อกลับบ้านได้นะคะ แต่ถ้าสนใจชิ้นไหนลองสอบถามกับทางร้านโดยตรงได้เลยจ้า

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ทางร้านมีทั้งโซนอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ให้เลือกนั่งได้ตามใจ และบริเวณชั้น 2 ยังเป็นพื้นที่ห้องประชุมกึ่ง

co-working space

ให้นั่งทำงานกันยาวๆ และถ้าหากเพื่อนๆ ลองสังเกตดีๆ การแต่งร้านจะออกมาในรูปแบบเส้นสาย มีการวางวัสดุในแนวตั้งตรง สอดคล้องกับชื่อ

" StoryLine "

ที่สื่อความหมายถึงทั้งลวดลาย และเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากผู้คนที่แวะมาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นี้นั่นเองค่ะ หูยยย ย ล้ำลึกไปอีก!

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

คาเฟ่ สุขุมวิท ยังมีอีกเพียบนะจ๊ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ

คาเฟ่ สุขุมวิท

ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ คิดว่าน่าจะถูกใจวัยรุ่นวัยทำงานยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทำงานนอกสถานที่อยู่แล้วล่ะ อีกอย่างเร็วๆ นี้ ทาง

" StoryLine

" เขาจะขยายช่วงเวลาเปิดออกไปอีกด้วยนะ กับ

after hours


ค่ำๆ ช่วงเวลารถติดให้ทุกคนได้มีทางเลือกหลบมานั่งชิลล์ นั่งดริ๊งค์ พักผ่อนก่อนกลับบ้าน ก็จะมีทั้งค็อกเทล และเครื่องดื่มหลากหลายให้เลือกเลยค่ะ (//^-^//)

สาวๆSistaCafeคนไหน ที่ชอบคาเฟ่แนวๆ นี้ก็ลองแวะมากันดูน้าา วันนี้ขอลาไปก่อนแล้วล่ะ บ๊ายบายค่ะN.