สำหรับใครที่ไม่มีเวลาแต่ยังชอบทำอาหารคลีนรับประทานเองแล้วล่ะก็ต้องอย่าพลาดบทความนี้เลยค่ะ สาวๆ คนรุ่นใหม่อย่างเรายิ่งเวลาน้อยเนี่ยการออกไปช้อปปิ้งซื้อของมาทำอาหารเองเราก็ต้องซื้อให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องไปซื้อใหม่ในรอบสัปดาห์ใช่ไหมล่ะคะ และแน่นอนว่าต้องเคยเจอปัญหานี้แน่นอนค่ะ นั่นก็คือ ผักผลไม้สดเน่าเสียก่อนที่จะได้รับประทาน เนื่องจากข้อจำกัดในด้านระยะเวลาของผักผลไม้เอง หรือว่าจะเป็นคอนดิชั้นในการจัดเก็บ ซึ่งเรียกได้ว่าน่าเสียดายมากๆ เลย ยังไม่ได้ทานเลยน้าาาาา TT แงๆ
เราจะอธิบายง่ายๆ ด้วย 4 หลักเก็บผักให้สดค่ะ :)
1. ไม่ควรเก็บผักผลไม้ไว้ด้วยกัน
เหตุผลที่เราต้องแยกผักและผลไม้ออกจากกันให้ชัดเจนก็เป็นเพราะว่า ทั้งสองอย่างนี้เป็นคนละประเภทกันค่ะ เอ้ยยย ไม่ใช่ มาเข้าวิทยาศาสตร์กันนิดนึง จริงๆ แล้วเป็นเพราะว่า ผลไม้เมื่อใกล้สุกหรือสุกเนี่ยจะปล่อยก๊าซชนิดนึงออกมานั่นก็คือ ก๊าซเอทธิลีนค่ะ ฉะนั้นหากเราจัดเก็บผลไม้และผักปะปนกัน เจ้าก๊าซตัวนี้ก็จะไปเร่งให้ส่วนอื่นๆ สุกและเสียเร็วนั่นเองล่ะค่ะ
2. แยกประเภทของผักและผลไม้
แยกเป็น ส้ม แอปเปิ้ล มะนาว มะพร้าวส้มโอ ฟักแฟง แตงโม ไชดย โห่ฮิ้วววววว หลอกเล่นนะคะ ที่แยกประเภทนี่คือ นอกจากเราจะแยกผัก ผลไม้แล้ว เรายังต้องแบ่งย่อยเป็น เน่าง่าย เน่าปานกลาง และเน่าค่อนข้างยาก เพื่อที่จะได้คำนวนเป็นเมนูออกมาว่า เราควรจะทำมื้อไหน ด้วยผักผลไม้ชนิดใดก่อนนั่นเองค่ะ วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บคือ ควรเก็บบรรจุในพลาสติกที่แห้งและสะอาดค่ะ ส่วนก่อนการนำไปใช้ประโยชน์ทุกครั้งนั้นเรามีทริคเล็กๆมาฝาก นั่นก็คือควรที่จะล้างด้วยน้ำส้มสายชูเพื่อลดสารเคมีที่ติดมากับผักนั่นเองค่ะ
3. ไม่ควรล้างผักก่อนการเก็บ
นี่คือข้อสำคัญเลยค่ะ หากอยากเก็บผักและผลไม้ไว้ให้นานขึ้นแล้วละก็ ไม่ควรที่จะล้างก่อนการจัดเก็บนะคะ เพราะความชื้นนั้นจะทำให้ผักเสียง่าย ยิ่งในตู้เย็นไม่มีการระบายอากาศเหมือนข้างนอก ลองคิดภาพเหมือนแช่ขนมปังในน้ำแล้วเอาฝาปิดสิค่ะ ยังไงราก็ขึ้นแน่นอน ทริคก็คือ ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดรอบๆ ผลไม้ที่อาจมีดินติดจากนั้นให้ผ้าแห้งเช็ด แล้วจึงน้ำไปเก็บในพลาสติกแห้งสะอาด ก่อนจะนำไปประกอบอาหารทุกครั้งก็ควรล้างด้วย น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าเพื่อลดสารเคมีนั่นเองค่ะ
4. ผักเป็นหัวไม่ต้องแช่
ผักประเภทหัวมักจะมีอายุการเก็บที่ยาวนานกว่าผักชนิดอื่นๆ กรณีหัวที่มีเปลือกบางเช่น แครอท บีทรูท เผือก ก่อนการจัดเก็บนั้นควรตัดใบก่อนทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียความหวาน ส่วนกรณีผักที่มีเปลือกแข็ง เช่น ฟัก แฟง แตงไทย ฟักทอง น้ำเต้า ก็เก็บโดยไม่ต้องล้าง และไม่ต้องแช่เย็นก็ได้ค่ะ เพียงแค่เก็บในที่แห้งและสะอาด ลมโกรก อากาศถ่ายเทสะดวกก็เพียงพอแล้วค่ะ
และนี่ก็เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่เราได้รวบรวมและคัดกรองมาฝากเพื่อนๆ กันนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดี :)