9 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ 'ผ้าอนามัย'

ไม่มีสาว ๆ คนไหนไม่รู้จักของใช้ประจำกายอย่างผ้าอนามัยแน่นอน เราซื้อมาใช้ตั้งแต่เป็นสาวแรกรุ่นกันทุกเดือน ๆ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังไปมากกว่านั้น

ด้วยความขี้สงสัยของพี่อาร์ตเองค่ะว่า" เอ๊ะ! แค่แผ่นบางๆ นิ่มๆ นี้จะมีอะไรน่าสนใจกว่านี้มั้ยนะ? "ในบทความนี้พี่อาร์ตเลยขอเรียบเรียงประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับแผ่นผ้าเล็กๆ นี้มาแชร์สาวๆ ซิสต้ากันค่ะ

#1 ก่อนจะเป็นผ้าอนามัยทันสมัย เราไทยแท้ใช้กาบมะพร้าวมาก่อน

ก่อนที่เราจะมีผ้าอนามัยสำเร็จรูป กุลสตรีศรีสยามเราซับประจำเดือนเป็น " กาบมะพร้าว " ค่ะ แต่ไม่ใช่เอามาทั้งกาบแข็งๆ เลยนะคะ ลอกเอาเฉพาะที่เป็นใยๆ ขุยๆ ก็พอ บ้างก็ว่าทุบให้นุ่มแล้วห่อด้วยผ้านุ่งเก่าซะเลย บ้างก็ว่าดึงออกมาแล้วแช่น้ำให้นุ่ม ค่อยทุบอีกทีก่อนห่อด้วยผ้านุ่งเก่า

วิธีใช้ก็คือ จะม้วนผ้านุ่งหุ้มกับก้อนใยมะพร้าว แล้วเราก็ขี่แบบขี่ม้าบนม้วนผ้านั้น จากนั้นก็สวมผ้าถุงหรือนุ่งโจงกระเบนทับ แล้วยึดไว้ด้วยเข็ดขัดให้แน่นพอควร ( อย่างในภาพสาธิตข้างบนนี้ ) ถ้าประจำเดือนเต็มเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนกาบมะพร้าวทิ้ง แล้วซักผ้านุ่ง

***ในสมัยโบราณที่ห้ามสตรีมีประจำเดือนเข้ามาก้าวก่ายสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น อุโบสถ วัดวาอาราม เป็นไปได้ค่ะว่า เพราะสมัยก่อนการรักษาความสะอาดของสตรีมีประจำเดือนยังไม่เนียนพอเท่ากับสตรีสมัยนี้ ด้วยความที่มันเทอะทะ เกะกะ มันเลยอาจมีช่องว่างให้ประจำเดือนหยดให้เป็นที่อุจาดตาค่ะ

#2 ผ้าอนามัยสำเร็จรูปยี่ห้อเก่าแก่ที่สุดในไทยคือ " โกเต็กซ์ " ( kotex )

บางคนอาจจะเคยได้ยินคุณแม่ คุณป้า หรือคุณยายเรียกผ้าอนามัยว่า " โกเต๊กซ์ " ซึ่งมันก็คือยี่ห้อของผ้าอนามัยที่มีมาอย่างยาวนานนั่นเองค่ะ แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ายี่ห้อนี้จะเป็นยี่ห้อแรกของไทยนะคะ เพียงแต่เป็นยี่ห้อแรกที่มีหลักฐานพบในประกาศหนังสือพิมพ์สมัยก่อนเท่านั้นเอง ( อ่ะ งงมั้ย? คงไม่งงกันเนอะ 555+ )

#3 โฆษณาผ้าอนามัย ทำไมต้องเป็นน้ำสีฟ้า?

สีฟ้าเป็นสีที่สบายตาที่สุดในบรรดาสีทั้งหลายค่ะ ( ในเชิงจิตวิทยาเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสะอาดด้วย ไม่เชื่อลองสังเกตโฆษณาหรือเคาน์เตอร์ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลายดูค่ะ ) และอีกอย่างก็คือ ถ้าจะสมมติให้เป็นสีแดงสมจริง มันก็คงดูสยดสยองไปหน่อยเนาะ

#4 รู้ยัง? นอกจากผ้าอนามัยแบบแผ่น ยังมีแบบห่วง แบบสอด และแบบถ้วย!!!

เราเคยชินกับผ้าอนามัยแบบแผ่น เพราะเป็นแบบที่หาง่ายที่สุดในท้องตลาด แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ายังมีแบบห่วง แบบสอด และแบบถ้วยอีกด้วย!!! ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย

ผ้าอนามัยแบบห่วง ( sanitary belt )

: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับช่วงล่างได้สะดวก อาจจะก้มไปเปลี่ยนไม่ได้ หรือลุกไม่ได้เลย เพราะมันเปลี่ยนถอดเปลี่ยนเพียงแค่แผ่นซับเอง

ผ้าอนามัยแบบสอด ( tampon )

: เหมาะสำหรับผู้ป่วย, นักกีฬา, คนที่ต้องสวมเครื่องแบบสีอ่อน, หรือคนที่ต้องการความเนียนกริบมากๆ ไม่มีปัญหาไหลย้อนกลับให้กังวลใจ วิธีใช้ก็เหมือนกับผ้าอนามัยแบบแผ่น คือ เปลี่ยนทุก 4-6 ชั่วโมง เพียงแต่มันต้องสอดเข้าไปในช่องคลอด และจัดวางตำแหน่งให้เหมาะสม เพื่อการซึมซับที่ดี และไม่เจ็บ

***การใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ไม่ได้ทำให้ความซิงหายไปแต่อย่างใดนะจ๊ะสาว ๆ เพราะความเป็นจริงแล้ว พรหมจรรย์เราไม่ได้ขาดง่ายขนาดนั้นหรอก อีกอย่างก็คือผ้าอนามัยแบบสอดเล็กกว่านิ้วก้อยเองนะ

ผ้าอนามัยแบบถ้วย ( lily cup/diva cup/soft cup/menstrual cup )

: อันนี้พี่อาร์ตยังไม่เคยใช้นะคะ แต่ถือว่าเป็นไอเท็มที่ฝรั่งเขาฮิตพอๆ กับผ้าอนามัยแบบสอดเลย วิธีการก็คล้ายกับผ้าอนามัยแบบสอดค่ะ ( ดูในคลิปสาธิตนี้ประกอบนะคะ ) เพียงแค่ขดเป็นรูปตัวยู แล้วสอดเข้าไปในช่องคลอด ผ้าอนามัยก็จะคืนรูปเป็นรูปถ้วยในช่องคลอดเรา ตวงเอาประจำเดือนจนเต็ม พอเต็มก็ถอดออกมาทิ้ง ทำความสะอาด แล้วใส่เข้าไปใหม่ ( ไม่แม่นข้อมูลนะคะ อันนี้ดูจากคลิปล้วน ๆ เลย ใครแม่นข้อมูลกว่านี้ทักท้วงกันได้นะ )

#5 ผ้าอนามัยแบบแผ่น มีประโยชน์ต่อ รด. และทหารด้วยนะ!!

หลายคนอาจจะงง ของใช้ผู้หญิงเกี่ยวอะไรกับงานแมนๆ อย่าง รด. ทหาร ใจเย็นๆ ค่ะ มานั่งฟังพี่อาร์ตเล่ากันก่อนเนาะ ^^

อย่างแรกที่ว่ามีประโยชน์กับ รด. ก็คือ อันนี้จากประสบการณ์เลยนะคะ เพื่อนพี่อาร์ตที่เรียน รด. หลายคนที่ต้องใส่รองเท้าคอมแบทนานๆ อย่างวันที่ไปฝึก หรือวันสวนสนาม หลายคนก็ใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นนี่แหละค่ะ รองเข้าไปในรองเท้าก่อนจะสวม จะช่วยให้สวมได้สบายขึ้น ซับเหงื่อด้วย กันรองเท้ากัด กันเจ็บเท้าด้วย

อีกเรื่องเล่าหนึ่งก็คือ เคยมีผู้ใหญ่ที่รู้จักกันท่านนึงเคยเล่าให้ฟังค่ะว่า ตอนที่ทหารเค้าออกศึกเมื่อก่อน ถ้ามีแผลที่เลือดออกมากๆ เค้าก็ใช้ผ้าอนามัยนี่แหละค่ะซับเลือดเข้าไว้ ผิดถูกยังไงก็ไม่รู้นะคะ อันนี้เป็นเรื่องเล่าที่อยากแชร์เฉยๆ ( แต่มันก็มีความเป็นไปได้เนอะ เพราะผ้าอนามัยมีศักยภาพมากพอในการดูดซึมของเหลวจำนวนมาก )

#6 ผ้าอนามัยแบบไหน เราก็ติดเชื้อได้

หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวมาบ้างว่า ผ้าอนามัยแบบสอดทำให้ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เป็นไข้อาจถึงตายได้ แต่ความเป็นจริงแล้วก็คือ" เรามีโอกาสติดเชื้อได้ทุกแบบ "ค่ะ ถ้าเราไม่รักษาความสะอาดให้ดี ต่อให้เป็นแบบแผ่นที่ไม่ได้สัมผัสช่องคลอดแบบจะจะเท่ากับแบบสอดก็มีโอกาสติดเชื้อได้ จากของเหลว, ความอับชื้น ที่แพร่กระจายเข้าไปข้างในได้อยู่ดี

ไม่ว่าสาวๆ จะเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบไหนก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับกล่องอย่างเคร่งครัดค่ะ เปลี่ยนทุก 4-6 ชั่วโมง อย่าขี้เกียจ อย่าเสียดายว่าซึมได้นิดเดียวก็เปลี่ยนแล้วหรอ กฎต้องเป็นกฎเพื่อสุขภาพของตัวเราค่ะ ถ้าเพื่อความชัวร์เรื่องความสะอาดและกลิ่นให้มากกว่านี้ อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควบคู่กันได้ค่ะ

#7 " แผ่นอนามัย " คนละอย่างกับ " ผ้าอนามัย "

แผ่นอนามัยเพิ่งจะเป็นนวัตกรรมที่มีในท้องตลาดในไม่นานนี้เองค่ะ ( สัก 10 ปีได้ ) เชื่อว่าหลายคนคงสับสน แอบหยิบผิดมาบ้าง ถึงภายนอกซองมันจะคล้ายกัน แต่ขอให้เช็คดีๆ นะคะว่า เขาพิมพ์ฉลากว่า " แผ่นอนามัย " หรือ " ผ้าอนามัย "

อีกประการหนึ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือความบาง+ความยาวของแผ่นและ

วัตถุประสงค์การใช้งานค่ะ

แผ่นอนามัยจะเป็นลักษณะแผ่นแบนๆ บางๆ ห่อเล็กกว่าฝ่ามือหน่อยนึง มีไว้สำหรับซับสิ่งสกปรกไม่ให้ติดกางเกงชั้นในเมื่อเราอยู่ใน

" วันธรรมดาที่ประจำเดือนไม่มา "

ถามว่าจำเป็นมั้ย?อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกค่ะ บางคนที่รักษาความสะอาดของน้องสาวเราเป็นประจำอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นอนามัยก็ได้ ในขณะที่บางคนที่ซื้อไปใช้ ก็อาจจะเพื่อความมั่นใจโดยส่วนตัวให้มากกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องการถนอมกางเกงในไม่ให้หมักหมมสิ่งสกปรกมากเกินไป

#8 ผ้าอนามัยก็ทำให้เราแพ้ได้

อาการแพ้ที่ว่าไม่ใช่เวียนหัว คลื่นไส้เหมือนแพ้อาหารนะคะ แต่จะเป็นในรูปแบบของผื่นคัน หรือไม่ก็ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากสาวๆ ต้องรักษาความสะอาดของตัวเองให้มากๆ จุดนี้ก็ต้องสังเกตด้วยค่ะว่า ยี่ห้อไหนหรือแบบไหนที่เราโอเค ในขณะที่เพื่อนใช้ยี่ห้อนึงเป็นประจำ เราอาจใช้อีกยี่ห้อนึง ในขณะที่เพื่อนใช้แบบแผ่น เราอาจใช้แบบสอดก็ได้ ดังนั้น ผ้าอนามัยจึงค่อนข้างเป็นของส่วนตัวมากๆ ไม่สามารถยืมกันได้เพื่อป้องกันอาการอักเสบระคายเคืองในภายหลังค่ะ ถ้าเกิดอาการแสบคันมากๆ เป็นไข้ ควรพบสูตินรีแพทย์โดยด่วนนะคะ

#9 จงระบุข้อมูลให้ชัดเจนที่สุด ถ้าฝากแฟนซื้อผ้าอนามัย

ข้อนี้อาจจะไม่สำคัญอะไรมาก แต่เป็นเรื่องขำ ๆ น่ารัก ๆ เสมอค่ะโดยเฉพาะคนที่มีแฟน ^^ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องฝากให้แฟนซื้อ อย่าพูดอ้อม ๆ นะคะว่า" ตัวเอง ซื้อขนมปังให้หน่อย "ผ้าอนามัยก็ผ้าอนามัยไปเลยค่ะ ไม่ใช่คำที่ต้องเขินอายอ้อมค้อมแต่อย่างใด และอย่าลืมระบุสเปคให้แม่นยำที่สุดด้วยนะคะ เช่น ยี่ห้อ, สี, มีปีก/ไม่มีปีก, ห่อใหญ่/เล็ก ถ้าจะเอาให้ชัวร์คือถ่ายรูปฉลากผลิตภัณฑ์ส่งเข้ามือถือแฟนเลย จะได้ไม่ซื้อผิดแล้วมางอนกันทีหลังอีกเนาะ 555+

เป็นไงคะ เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของผ้าอนามัย  บางข้อเราก็นึกไม่ถึงเลยใช่มั้ยคะ  พอมาคิดดูว่าสมัยก่อนผู้หญิงเขาลำบากขนาดนั้น  เราอยู่ในยุคที่ผ้าอนามัยอำนวยความสะดวกสบายได้ขนาดนี้ ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดทั้งส่วนตัวและส่วนรวมให้ดีนะคะ