" ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ "

เป็นคำที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ในตอนที่เราแต่งหน้าก็เช่นกัน สิ่งที่เรามักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษพอ ๆ กับงานผิวก็คือ

" การแต่งตา "

เพราะเวลาที่เราจ้องหน้าหรือพูดคุยกับใคร เราจะต้องมีการมองตานั่นเอง เป็นข้อได้เปรียบสำหรับสาว ๆ ที่มีดวงตากลมโต มีเบ้าตาและชั้นตาชัด เพราะแต่งตานิดเดียวก็ดูสวยแล้ว แต่ก็มีคำถามขึ้นมาอีกว่า...แล้วสาว ๆ ที่มีตาหมวย ตาสองชั้นหลบในล่ะ?

รูปภาพ:https://www.latfusa.com/media/uploads/2017/11/29/22851865_1621249314601150_4063548609594617594_n.jpgรูปภาพ:https://upload.asiawiki.org/images/data/2016/12/06/haruka-ayase-s-photo-album-1.jpgรูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/31/b6/00/31b6004029b92443746e63990a2e04f7.jpg

ในหัวข้อนี้ เราจึงขอมาช่วยบรรดาสาวตาหมวยเป็นการเฉพาะ อย่าเพิ่งถอดใจคิดลงทุนทำตาสองชั้นโดยไม่จำเป็นค่ะ เพียงแค่มี 6 ตัวช่วยนี้ก็น่าจะช่วยเบิกเนตร ให้เรามีดวงตาคู่สวยกลมโตกับเขาได้! ตัวช่วยที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกัน!

1. อายแชโดว์สีอ่อน สีกลาง และสีเข้ม ( อย่างน้อยต้องมี 2 สี )

รูปภาพ:https://c.76.my/Malaysia/line-friends-edition-missha-dual-blending-cushion-shadow-eyeshadow-supermodel2u-1606-07-SUPERMODEL2U@19.jpg

ปกติแล้วคนที่มีตาชั้นเดียว, 2 ชั้นหลบใน ตาก็จะดูโล้น ๆ โล่ง ๆ แบน ๆ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือการเพิ่มมิติให้กับดวงตาค่ะ อย่างน้อยเราควรจะต้องมีอายแชโดว์ 2 สีที่ไล่ระดับความเข้ม-อ่อนของเปลือกตา และทำให้ดวงตาดูคมชัดขึ้นค่ะ

หลายคนคงมีข้อสงสัยว่า

ถ้าไม่ค่อยเห็นชั้นตาอยู่แล้ว จะแต่งตาแบบไล่สีไปทำไม?

เพราะลืมตาแล้วก็คงไม่เห็นอยู่ดี สาว ๆ คะ ในข้อนี้เราคงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ค่ะว่า

การแต่งหน้านั้นไม่มีแค่เรื่องของการคัดเบ้าเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเทคนิคที่เราอาจจะยังไม่รู้จัก

สำหรับสาวตาหมวยนั้น การแต่งตาแบบไล่สีเข้มขึ้นไปจากชั้นพับเปลือกตาให้ดูฟุ้ง ๆ เหมือนสโมกกี้อายส์ น่าจะเป็นสิ่งที่เวิร์กที่สุดค่ะ เพราะมันคือการขับเน้นให้ดวงตาของเราดูชัดและมีความหวานขึ้นมานั้นเอง

รูปภาพ:https://gd2.alicdn.com/imgextra/i4/2384095305/TB2VoExlHBmpuFjSZFAXXaQ0pXa_!!2384095305.jpg

2. อายไลเนอร์

รูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/zkN3zKNd5YM/maxresdefault.jpg

ถ้าอยากเติมความคมชัด ให้ดวงตามีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เราจะขาดสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า

" อายไลเนอร์ "

ไปไม่ได้เด็ดขาด แต่...ก็มีสิ่งที่ต้องระวังอยู่เหมือนกัน เพราะสาว ๆ บางคนชอบเขียนอายไลเนอร์หนา ๆ จนแทบจะเหมือนกับการถมปากกาเมจิก ถามว่าทำเขียนอายไลเนอร์แบบนั้นผิดมั้ย? อันที่จริงมันไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ถ้าอยากให้ตาดูโตขึ้น ล้มเลิกความคิดที่จะเขียนเส้นไลเนอร์หนา ๆ ไปได้เลย เพราะมันจะทำให้ตาของเราดูตี่ไปมากกว่าเดิมอีก!

การเขียนเส้นไลเนอร์ให้บางและชิดโคนขนตาให้ได้มากที่สุด คือคำตอบให้หัวข้อนี้ค่ะ ถ้าอยากเพิ่มความเปรี้ยวโดยการกรีดตา แนะนำว่าอาจจะเขียนแคทอายส์ และเน้นช่วงหางตาให้มีความหนาขึ้นมาหน่อย แต่

ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยธรรมชาติความนั้น แนะนำให้ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำหรือสีน้ำตาลไป

เลยค่ะ จะให้เส้นที่ดูซอฟต์กว่า และยังนำมาเขียนบนวอเตอร์ไลน์ได้อีกด้วย เป็นการสร้างความชัดให้ดวงตาที่บางทีคนอื่นอาจจะดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำ!

3. ดินสอเขียนขอบตา / อายแชโดว์สีสว่าง ๆ

รูปภาพ:https://www.12fly.com.my/images/lifestyle/Fashion/2016/january/laneige-eyeliner/double-eyelid-natural.pngรูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/l67MmcffIqo/maxresdefault.jpgรูปภาพ:https://makeuptutorials.com/wp-content/uploads/2014/09/asian_eyes03.jpg

นอกจากการใช้สีเข้มจากอายไลเนอร์ในการขับเน้นดวงตาแล้ว สีอ่อนจาก

" ดินสอเขียนขอบตาสีสว่าง ๆ "

หรือ

" อายไลเนอร์สีสว่างผสมชิมเมอร์ "

ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้เขียนหรือทาที่หัวตา เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตา และมันยังช่วยอำพรางความโทรมของถุงใต้ตา เสริมให้ดวงตาของเราดูเปล่งประกายมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย!

รูปภาพ:http://beauty-vanity.com/wp-content/uploads/2017/08/HOW-TO-MAKE-ASIAN-EYES-LOOK-BIGGER_before-after-3.jpg

4. ที่ดัดขนตา

รูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/XlmVwM82gCQ/maxresdefault.jpg

การมี

" ขนตา "

คือสิ่งที่ช่วยให้ดวงตาของเราดูสวยขึ้น แต่ก่อนที่เราจะใช้มาสคาร่าหรือขนตาปลอมเข้ามาช่วย สิ่งที่เราต้องทำคือ

" ดัดขนตา "

ให้งอนงามเสียก่อน สาว ๆ ที่มีขนตางอนและหนาอยู่แล้ว นั่นคือจัดว่าพวกเธอมีต้นทุนดี แต่สำหรับสาวตาหมวยโดยส่วนมากจะมีขนตาที่ค่อนข้างตก ณ จุดนี้อย่าเพิ่งคิดว่ามันคือจุดด้อยค่ะ เพราะ

" ที่ดัดขนตา "

จะกลายมาเป็นพระเอกของงานนี้!

ในขณะเดียวกัน ก็อย่าเพิ่งกลัวว่าตอนที่ดัดขนตานั้นจะเจ็บมั้ย? ( ไม่ใช่เฉพาะหนุ่ม ๆ ที่กลัวการดัดขนตาของผู้หญิง ยังมีสาว ๆ บางคนกลัวว่าดัดขนตาแล้วจะหนีบโดนหนังตาด้วยเช่นกัน ) เริ่มต้นจากการพยายามดัดขนตาเข้าไปให้ลึกที่สุด และไม่เจ็บหนังตาก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ ต้องตั้งสติให้ดีก่อนจะดัดนะคะซิส

5. มาสคาร่า

รูปภาพ:https://i02.hsncdn.com/desktop/DG30701_020118_ComplexGrid_BS_MascaraFebruary.jpg?v=175

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วเลยค่ะ มีที่ดัดขนตาแล้ว จะขาด

" มาสคาร่า "

ไปได้อย่างไร เพราะนี่คือตัวช่วยชั้นยอดที่จะเสริมการแต่งหน้าของเราให้ดูสวยน่ามองขึ้น เรียกได้ว่าวันไหนที่ไม่อยากแต่งตาหนัก ๆ ทั้งทาอายแชโดว์ เขียนอายไลเนอร์ แค่ปัดมาสคาร่าเพียงอย่างเดียวก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว มันจะทำให้เปลือกตาของเราไม่ดูโล้นเลี่ยนเตียนโล่งเกินไปยังไงล่ะ

ไม่เชื่อก็ดูภาพนี้แล้วจะร้องอ๋อ ว่าตอนมีและไม่มีมาสคาร่า มันต่างกันขนาดไหน?!

รูปภาพ:https://dep365.com/wp-content/uploads/2017/08/lam-sao-de-mat-to-1.jpg

6. เทป / สติ๊กเกอร์ / ตาข่ายทำตาสองชั้น

รูปภาพ:https://i.ebayimg.com/images/i/202252113391-0-1/s-l1000.jpg

ข้อนี้จัดเป็นออปชั่นเสริมสำหรับใครที่อยากเพิ่มเหล่าเต๊ง ( ภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่าชั้นบน ) ให้ดวงตาค่ะ เรียกง่าย ๆ คือทำให้มีชั้นตาชัดขึ้นมานั่นเอง บางคนคิดว่ามันอาจไม่จำเป็น แต่เอาเข้าจริงมันคือรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้ตาเราดูโตและหวานขึ้นมาเลยนะ!

แต่อุปกรณ์ทำตา 2 ชั้นก็มีอยู่หลายแบบ ทั้งแบบสติ๊กเกอร์ แบบเทปนาโนไฟเบอร์ แบบตาข่าย หรือเป็นกาวสำหรับเพิ่มชั้นตาเลยก็มี ณ จุดนี้ถ้าจะให้แนะนำจริง ๆ แบบตาข่ายเป็นอะไรที่เวิร์กสุดค่ะ เพราะติดแล้วจะให้ความเนียนเสมือนว่าเราไม่ได้ติดอะไรลงไปเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราสะดวกใช้แบบไหนมากกว่ากัน อันนี้ต้องไปทดลองกันเองค่ะสาว ๆ ^^

รูปภาพ:http://www.zenzendream.com/webshaper/pcm/pictures/beauty%20care/By%20Nanda%20Fibre%20Eyelid%20Tape/By-Nanda-Fibre-Eyelid-Tape-4.pngรูปภาพ:https://images-na.ssl-images-amazon.com/images/I/71xWAftX36L._SL1100_.jpg

**************************************

รูปภาพ:http://img2.chinadaily.com.cn/images/201712/29/5a458502a31008cfb2e8ea3a.jpeg

แค่มี 6 ไอเทมนี้ก็ช่วยให้ดวงตาของเราดูโตขึ้นแล้ว อาจจะไม่ต้องใช้ทุกอย่างก็ได้ แค่ลองเริ่มจากสิ่งที่หาได้ง่าย ๆ เบสิคอย่างการทาอายแชโดว์ เขียนอายไลเนอร์ ปัดขนตาและติดมาสคาร่าดู ( ตามเทคนิคการแต่งตาที่ได้บอกได้ตามข้อต่าง ๆ ) เท่านั้นก็น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว สุดท้ายก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุก ๆ คนที่เข้ามาอ่านกัน แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ :)