สวัสดีค่ะสาวๆ ชาว SistaCafe ชาเขียวคือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในหมู่คนญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน แต่ว่าการจะชงชาให้ได้แบบคนญี่ปุ่น หากจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะคะ ดังนั้นสำหรับใครทื่อยากรู้ว่าชาเขียวแบบญี่ปุ่นนั้นชงอย่างไร มีเคล็ดลับแบบไหน มาดูกันดีกว่าค่ะจะพาไปดูแล้วนะ!!


ต้องบอกเลยว่าชาเขียวนอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นมานานแล้ว ความนิยมของชาเขียวเองก็เริ่มแพร่หลายในต่างประเทศเช่นกัน จุดเด่นของชาเขียวก็คือ มีทั้งคาเฟอีนและมีทั้งส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและลดคลอเรสเตอรอลได้ ทำให้เหมาะสมกับการรับประทานในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากใครที่อยากรู้ขั้นตอนของการชงชาเขียวว่าชาวญี่ปุ่นชงอย่างไร ถึงได้ประโยชน์เช่นนี้ เรามาดูกันค่ะ

1. ใช้น้ำที่เหมาะสม

รูปภาพ:https://kitchenconfidante.com/wp-content/uploads/2018/01/Almond-Matcha-Green-Tea-Latte-kitchenconfidante.com-0341.jpg

การใช้น้ำที่เหมาะสมจะทำให้ชาเขียวของคุณมีรสชาติที่ดีกว่าเดิม โดยปกติแล้ว เราควรใช้น้ำแร่ในการที่จะนำมาชงชาเขียว แต่หากว่าไม่มีน้ำแร่  เราสามารถเลือกน้ำอื่นๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นน้ำประปาที่นั้นก็เอาน้ำรินมาตั้งทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง หรือหากว่าอากาศร้อนก็อาจจะปล่อยไว้นานกว่าเดิมก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้กลิ่นของคลอรีนนั้นระเหยออกไปก่อนที่จะนำมาชงชานั่นเอง

2. นำน้ำไปต้ม

รูปภาพ:https://fthmb.tqn.com/rpTL1T1AP6vjP8i1rj2dZFy9Tu4=/1415x943/filters:no_upscale():fill(transparent,1)/152602698-56a143935f9b58b7d0bd9ac4.jpg

เพื่อกำจัดกลิ่นแคลเซียมที่มีอยู่ในน้ำประปาการต้มคือสิ่งที่ควรทำมากที่สุด เมื่อน้ำเดือดไม่ต้องปิดเตาในทันที แต่ให้เบาไฟลงแล้วค่อยๆ เปิดกาต้มน้ำร้อนเอาไว้เป็นเวลาประมาณ 2-3 นาที หรือหากว่ากลิ่นแคลเซียมนั้นแรง คุณก็สามารถต้มไว้เป็นเวลาประมาณ 5 นาทีก็ได้เช่นกันค่ะ

3. ปล่อยให้น้ำเย็นก่อนเท

รูปภาพ:http://www.naturallivingideas.com/wp-content/uploads/2013/08/matcha-2-600x396.jpg

เคล็ดลับความอร่อยของชาเขียวก็คือการได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ สำหรับชาเขียวอุณหภูมิที่เหมาะสมในการชงนั้นจะต่ำกว่าชาอื่น ๆ หรืออยู่ที่ราวๆ ประมาณ 70 องศาเซลเซียส  และหากว่าคุณต้องการให้การชงชานั้นอร่อยกว่าเดิมก็อาจจะต้องค้นคว้าว่าชาของคุณนั้นเป็นชาประเภทใด หากน้ำร้อนไป บางทีก็จะเกิดความฝาดและความขมก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นชาเขียวมัชฉะจะอยู่ที่อุณหภูมิ 80 ถึง 90 องศา

สิ่งสำคัญก็คือการทำให้อุณหภูมินั้นสมบูรณ์มากที่สุด โดยคุณต้องเทน้ำลงในถ้วยชา ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้น้ำเย็นลงได้ถึง 5-10 องศา จึงควรระบายความร้อนเป็นเวลาสองถึงสามนาทีในถ้วยชา เพื่อทำให้น้ำเย็นลงได้ประมาณ 10 องศา แต่อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิน้ำก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องด้วย

4. ใช้ใบชาที่เหมาะสม

รูปภาพ:https://www.eatthis.com/content/uploads//media/images/ext/905537873/green-tea-loose-leaves.jpg

การชงชาสำหรับสองคนจะต้องใช้ใบชาราวๆ  4-5 กรัม  แต่จะแตกต่างกันไปตามชนิดของชาแต่ละชนิด ทางที่ดีเราควรดูคำแนะนำของการชงชาที่เรามีด้วยการดูที่กล่องหรือฉลาก เชื่อว่าจะต้องมีคำอยู่แน่นอน แต่ถ้าไม่มีก็ลองใช้จำนวน 4-7 กรัมซึ่งถือเป็นจำนวนที่พอเหมาะในการชงชา การทดลองชงชาซ้ำไปซ้ำมาแล้วหาข้อผิดพลาดจะทำให้เราได้ชาที่ดีที่สุด

5 ระมัดระวังเวลาที่ใช้ในการชงชา

รูปภาพ:https://www.eatthis.com/content/uploads//media/images/ext/905537873/green-tea-loose-leaves.jpg

เชื่อหรือไม่ว่าเวลาแค่เพียง 20-30 วินาทีก็สามารถทำให้รสชาติของชาเปลี่ยนไปได้ หรือบางทีก็อาจจะทำให้ชามีรสขมมากกว่าเดิม ดังนั้นการใช้เวลาอย่างเคร่งครัดและระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชาเขียวมีรสชาติที่อร่อยและคงความมีเสน่ห์เฉพาะตัว ที่สำคัญก็คือพยายามศึกษาว่าชาที่เราซื้อมานั้นต้องการการชงแบบไหน เราจะได้ชงได้อย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ

6. การเทชา

รูปภาพ:https://www.health.harvard.edu/media/content/images/green-tea-pouring-cup.jpg

การเทชาก็สำคัญเช่นกัน พยายามเทให้อยู่ระดับที่พอดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และอย่าลืมเก็บรักษาชาให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้ชามีความเข้มข้นและมีรสชาติที่คงเดิมตลอด ควรหากาที่เหมาะสมในการบรรจุชาเขียวของคุณโดยอาจจะศึกษาว่ากาแบบใดที่เหมาะสมกับการใช้บรรจุชาเขียวมากที่สุด

และนี่ก็คือกรรมวิธีและเคล็ดลับการชงชาแบบญี่ปุ่นที่จะทำให้เรานั้นได้ดื่มชาเขียวที่มีรสชาติอร่อยแบบดั้งเดิม ใครยังไม่เคยลองมาลองกันนะคะ วันนี้ขอลาไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย