หนุ่มๆ คงหนีหาย..! 5 นิสัย ระวังหนุ่มๆ จะหน่าย แล้วหายหนี! 😓💔
คบกันแรกๆ ก็ดี พออยู่ๆ ไป ผู้ชายหนีซะงั้น!? เพราะอะไรเนี่ย!??
เผยแพร่: 31 พ.ค. 2561 12:21 น.
Views: 8,518
รหัสบทความ: 47639
เรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นนี่แหละ พวกเราไขว่คว้าหาใครสักคนที่ตัวเองชอบ และเมื่อ
ได้คบกับใครสักคนที่ชอบ ชีวิตจิตใจช่วงนั้นก็จะเต็มไปด้วยความหวัง
อย่างเต็มเปี่ยม
แต่พอนานๆ ไปกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
ซึ่งตรงกับงานวิจัยหลายๆ แห่งที่พบว่า
60% ของคู่รัก จะไปกันไม่ค่อยรอดตั้งแต่ปีแรก
คนส่วนใหญ่จะรู้ดีว่า เวลามีเดทแรก อะไรคือสิ่งที่ควร และไม่ควร เพื่อให้สามารถนำไปสู่การประสบความสำเร็จในการมีคู่รักได้ แต่สำหรับความสัมพันธ์ที่เหลือส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครมั่นใจมากนักว่าต้องทำยังไง ความสัมพันธ์ถึงจะไปได้รอดตลอดกาลถ้าความสัมพันธ์ของคุณจบแบบไม่ค่อยสวยนัก ไม่สมหวังโดยเฉพาะใครที่รู้สึกว่าไม่สมหวังบ่อยๆ ไปไม่รอดสักทีเนี่ยอาจจะต้องเริ่มพิจารณาและคิดสักนิดแล้วว่าอะไรที่ทำให้รักของคุณไปไม่รอดก็ใช่ อย่างแรกเลยคือเรดาห์เราอาจจะไม่ดี ไปจับคู่เจอคนที่ไม่เหมาะกับตัวเอง อันนั้นก็เป็นไปได้แต่มีอีกเหตุผลหลักๆ ที่เป็นไปได้เช่นกันคืออาจจะมีนิสัยบางอย่างในตัวเราเอง ที่ทำให้คนรักเริ่มหน่ายมีนิสัยอยู่มากมายหลายประเภท แล้วนิสัยอะไรล่ะที่จะทำให้คนอยากหนีไปจากชีวิตของเรา วันนี้เราได้รวบรวม5 นิสัย ทีจะทำให้ผู้คนหนีหายไปจากชีวิตมาให้ดูแล้วได้เวลามองกลับไปที่ตัวเองแล้วนะว่า ตรงกับ 5 ข้อนี้รึเปล่า!?
5 นิสัย ระวังหนุ่มๆ จะหน่าย แล้วพากันหายหนี!
1. อารมณ์แปรปรวน
"เหมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด!.." เพลงนี้แค่ได้ฟังก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของบรรยากาศอันแปรปรวนแล้ว และคนเองก็ไม่ต่างกันถ้ามีอารมณ์แปรปรวน เผลอๆ จะน่ากลัวซะยิ่งกว่าสภาพอากาศและบรรยากาศอันมืดครึ้มทั้งหลายอีกนะเนี่ยหลายคนเคยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการได้คบกับใครที่กล้าแสดงอารมณ์ ความคิดออกมาตรงๆ คิดอะไรก็พูด ไม่ปิดบังกันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีคบกันไปก็จะยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าแสดงอารมณ์ออกมามากเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีแล้วนะจากคำแนะนำของ ดร. ไอริส ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ได้ตั้งฉายาให้นิสัยอารมณ์แปรปรวนว่า "ฟังก์ชั่นไล่คนออกจากชีวิต""อารมณ์แปรปรวนนั้น ปกติแล้วจะแสดงออกมาในรูปแบบการแสดงอารมณ์ที่จัดจ้าน .ซึ่งเกิดมาจากนิสัยส่วนบุคคล และจะนำไปสู่ปัญหาด้านความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นการกระแทกกระทั้น, การทำร้ายร่างกาย หรือบางทีก็อาจจะส่งผลต่อกิจวัตรทั่วไปในแต่ละวันด้วย โดยการมีอารมณ์แบบนี้คนรอบข้างจะมีความรู้สึกเหมือนโดนควบคุม โดนกดดัน และผลสุดท้ายคือ ไม่มีใครหรอกที่ทนได้ สุดท้ายพวกเขาก็จะหนีไป"
2. ล้ำเส้นมากไป
หลายๆ คนอาจจะเคยเจอใครบางคนที่ดูเหมือนจะไม่มีมารยาท และไม่รู้จักเคารพพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น และก็รู้สึกได้เลยว่าคนประเภทนี้ค่อนข้างน่ารำคาญจริงป้ะ ถึงไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนในมาบอก พวกเราเองก็คงรู้สึกได้ว่านิสัยแบบนี้ช่างไร้เสน่ห์สุดๆไปเลย และนักจิตวิทยาก็เคยเตือนไว้แล้วด้วยว่าการที่คนเราใกล้ชิดกันมากเกินไป ไม่มีขอบเขต เหมือนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ จะยิ่งทำให้คนอยากห่างมากยิ่งขึ้นคนที่มีนิสัยชอบล้ำเส้นคนอื่น จะไม่ค่อยรู้ตัวเองว่าทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี และส่งผลเสียต่อคนรอบข้างขนาดไหนแต่นิสัยแบบนี้มันก็จะพอเปลี่ยนกันได้อยู่ ถ้าหากเราเริ่มระมัดระวังในการกระทำ และสังเกตท่าทีของคนอื่นบางทีคุณอาจจะเคยเจอใครสักคนที่เริ่มถอยห่างระหว่างคุณกำลังคุยกับเขามั้ยล่ะ นั่นแหละคือการเริ่มแสดงท่าทีว่าคุณเริ่มล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และอาจจะทำโดยไม่รู้ตัวด้วยในด้านความสัมพันธ์ก็เช่นกัน ถึงแม้จะเป็นคนรัก เราก็ไม่ควรไปก้าวก่าย ล้ำเส้นอะไรให้มากมายควรจะรู้ว่าเขาเองก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวด้วยอย่าพยายามแสดงให้เขาเห็นว่าเราพยายามจะมาเป็นเจ้าของชีวิตเขาเด็ดขาดเลยนะ
3. หยาบคาย
ใครๆ ก็รู้ดีว่าการหยาบคายใส่กันเป็นเรื่องที่ไม่ดี
แม้แต่เด็กยังรู้เลย ฉะนั้นกับคนที่คบอยู่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า
ถ้าเราแสดงความถ่อย ความหยาบคายใส่ ผลสุดท้ายจะจบยังไง
มันก็มีบางคนเหมือนกันที่เชื่อว่าการแสดงความหยาบคาย เป็นการแสดงความจริงใจของตัวเอง ซึ่งเหมือนจะถูกแต่ก็คงไม่จริง เพราะเราสามารถแสดงความจริงใจผ่านวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ได้
ในเรื่องของความหยาบคายนี้ไม่ใช่แค่คำพูดอย่างเดียว แต่รวมถึงนิสัยด้วย การมีนิสัยที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่เคารพคนอื่น หรือไม่มีน้ำใจ
ก็ถือเป็นความหยาบคาย คนนิสัยแบบนี้ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ด้วยหรอกนะ
และถึงแม้เขาจะเคยรักคุณ แต่เขาคงไม่สามารถทนนิสัยนี้ของคุณไปได้ตลอดแน่นอน
นิสัยหยาบคายแสดงออกมาได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นคำพูด เวลาโมโหก็ด่าลามปามไปยันตระกูลอันนี้ไม่ควรแน่นอน หรืออย่างแค่เรื่องเล็กๆ เช่นเปิดประตูแล้วปล่อยเลย ไม่สนใจข้างหลังมันเป็นนิสัยที่บอกได้ว่าไม่มีมารยาทและไม่สนใจคนอื่น ซึ่งแสดงถึงความไร้น้ำใจ อยู่ด้วยคงไม่มีความสุขแน่ๆแค่เปิดประตูยังนึกถึงคนอื่นไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่ๆ ในอนาคตเลยนะเนี้ย
4. สนใจแต่เรื่องของตัวเอง
อย่าลืมว่า บนโลกนี้ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียว และถึง
แม้ว่าเราจะเป็นพระเอก นางเอกในชีวิตเราเอง แต่อย่าไปแสดงออกเหมือนว่าเราเป็นตัวเอกในโลกของใครเด็ดขาด
มันจะมีบางคนที่ทำเหมือนกับว่า
โลกทั้งโลกต้องให้ความสนใจแต่เขาเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอะไร พูดถึงอะไร ก็จะวกมาเข้าเรื่องของตัวเอง พูดแต่เรื่องตัวเอง
จนบางทีคนรอบข้างก็เอือมเหมือนกันนะ
และต่อให้เป็นคนที่รักกัน แต่ถ้าทำนิส้ัยแบบนี้ใส่บ่อยๆ ก็มีปัญหาแน่นอน
ใครล่ะจะไม่มีปัญห
า
ก็โลกของคนสองคน ดันทำเหมือนเป็นโลกของตัวเองคนเดียวซะงั้นนิ!
การใช้ชีวิตคู่หมายความว่าคุณต้องใช้ชีวิตด้วยกัน ฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นก็คือ การเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
ลองสังเกต และย้อนกลับไปดูตัวเองว่า ทุกครั้งที่ไปเที่ยว ไปเดทที่ไหน เวลาคุยกันบทสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องอะไร เป็นเรื่องของคุณรึเปล่า
คุณพูดแต่เรื่องของตัวเอง โดยไม่ได้ถามคู่รักของคุณเกี่ยวกับเขาบ้างเลยรึเปล่า
ถ้าเป็นยังงั้น ระวังไว้ให้ดี ผู้ชายจะต้องเริ่มอยากหนีไปจากคุณแล้วแน่ๆ
จำไว้เลยว่า ถ้าเขาไม่ได้ถามเรื่องของเราอย่างเดียว ก็อย่าพูดถึงแต่เรื่องของเราอย่างเดียว ชวนคุยกันเรื่องอื่นๆ เรียนรู้กันไป
หรือต่อให้เขาเอาแต่ถามเรื่องของเราจริงๆ ก็ต้องเบรกบ้าง คนรักกันไม่สามารถเรียนรู้กันได้ภายในวันเดียว
ผ่านการถามโท่งๆ หรอก
การใช้ชีวิต เรียนรู้จากทัศนคติเรื่องอื่นๆ ก็ถือเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันนะจ๊ะ
5. แลดูไร้เป้าหมายในชีวิต
ในขณะที่มีใครหลายคนบนโลก ทะเยอทะยาน
และวางเป้าหมายมากมายให้ชีวิตตัวเอง
แต่ก็มีบางคนที่อาจจะไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจในชีวิตตัวเอง
มากเท่าไหร่นัก ซึ่งการไม่ทะเยอทะยานมากจนตัวเองเป็นทุกข์ หรือเดือดร้อนคนอื่นก็ถือเป็นเรื่องดี
แต่การที่ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตเลย จะทำให้คุณดูคะแนนตกสุดๆ ไปเลยนะ
โดยเฉพาะคนที่มีคู่รักแล้ว
การที่คุณมีเป้าหมายในชีวิต จะทำให้ความสัมพันธ์ขับเคลื่อนไปได้ดี กว่าการปล่อยให้อีกฝ่ายพยายามอยู่ฝ่ายเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเหนื่อยต้องคอยเป็นกำลังใจ หรือคอยช่วยเรา ให้กลายเป็นภาระเพิ่มหรอก กลัวเขาคิดว่าเราจะอาศัยเกาะเขาอย่างเดียวน่าจะดีกว่า
เวลาที่ได้อยู่กับใครสักคนที่ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตที่ชัดเจนเลย มันทำให้เห็นภาพได้ยากว่า ต่อไปในอนาคตจะเป็นยังไง
เพราะไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า
สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ กับสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ นั้นมันสามารถอยู่ด้วยกันได้รึเปล่า
ฉะนั้นลองถามใจตัวเองดู ว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่ ก่อนที่ผู้ชายจะหน่ายจนต้องหายไปจากชีวิตคุณซะก่อนนะ
ใครที่มีปัญหาเรื่องโดนเท โดนทิ้ง โดนบอกเลิกบ่อยๆ หรือมีคนคุยแล้ว แต่ไม่เคยมีแฟนสักที
ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเช็คว่า
ตัวเองมีนิสัยตาม 1 ใน 5 ข้อนี้หรือไม่
ถ้ามีก็ควรจะปรับปรุงตัว แต่ถ้าไม่มีเลยก็ลองคิดดูว่าเพราะอะไร
หรือใครคิดว่ามีนิสัยอะไรอีกที่จะทำให้คนเราไปด้วยกันไม่ได้ ลองแชร์มาให้สาวๆ ทั้งหลายฟังกันจ้า
