ผิวแห้งๆ ไม่โอเคขอบำรุงหน่อย ให้น้องผิวกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง
สวัสดีค่ะสาวๆได้ฤกษ์งามยามดี หายไปนานมากกับการรีวิว ก่อนหน้านี้ได้ลองใช้ครีมหลายๆ ตัว ซึ่งเยอะมาก ก็ไม่รู้ว่าจะหยิบตัวไหนมาแนะนำดี เอาเป็นว่าวันนี้ เรามาดูกันที่สกินแคร์ผิวกายก่อนดีกว่า พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาให้เลยนะเรียงยาวตั้งแต่ตื่นนอน ยันก่อนเข้านอนสิ่งไหนดี เราอยากจะมาแชร์ต่อสาวๆ ค่ะ
โดยปกติแล้ว สาวๆ ชอบใช้ครีมแบบไหน แนวไหนบ้าง ในส่วนของเรา บอกก่อนว่าเป็นคนผิวแห้งและแพ้ง่ายเพราะฉะนั้นสกินแคร์ที่เลือก แน่นอนจะต้องไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ และเน้นเรื่องของความชุ่มชื้นเป็นนัมเบอร์วันปกติเวลาเราเลือกครีม หรือโลชั่น สิ่งแรกที่เราจะเน้นๆ เลยคือ จะต้องไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้หลังทาเสร็จ เพราะมันรู้สึกไม่สบายตัว
โดยส่วนตัวเรารู้สึกว่า ครีมแต่ละตัวจะมีจุดเด่นที่ต่างกันไม่มีครีมตัวไหนที่บำรุงได้ครบทุกสิ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกใช้สกินแคร์เยอะมากๆยิ่งเป็นกับผิวหน้า ยิ่งมหาศาล แต่วันนี้ขอเริ่มที่ผิวกายก่อนเนอะ รวมมาให้ดูในวันนี้ ก็หลายตัวอยู่ แต่ละตัวก็เริ่ดๆ ทั้งนั้น เอาเป็นว่า ลองไปดูกันก่อน ตัวไหนปัง ไม่ปัง คุณสาวๆ ค่อยตัดสินใจกันอีกทีแล้วกันเนอะ
ความรู้สึกหลังใช้
สำหรับโลชั่นตัวนี้ เอาจริงๆ ชอบกลิ่นนะ คือก็ไม่ได้หอมโดด แต่ก็มีความหอมที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเนื้อครีมจะไม่ได้เข้มข้นมาก ก็จะมีความเป็นน้ำสีขาวขุ่น ทาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าเหนียว ซึมไวมากค่ะซิส แล้วถ้าใครที่ผิวแห้งมากๆ แบบเรา โลชั่นตัวนี้ สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราได้
แต่ สำหรับสาวๆ ที่อยากได้ความขาว ไวท์เทนนิ่งเยอะๆ อาจจะต้องผิดหวังหน่อย เพราะเขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าขาวขึ้นเลยอาจจะทำให้เรารู้สึกผิวสุขภาพดี อิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้านเท่านั้นเอง โดยรวมแล้ว ถ้าเป็นสาวผิวแห้งเหมือนกันNIVEA Oil in Lotion Cherry Blossom & Jojoba oilเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยนะคะ
โดยส่วนตัว
ก็อยากขาวนะ เคยพยายามใช้โลชั่นหลายตัว มันก็ขาว แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม เหมือนว่าพื้นผิวเดิมเรามันเป็นเฉดนี้ คงไม่ขาวไปมากกว่านี้ ตอนนี้ก็ปลงตกแล้วค่ะ หันมา
แก้ความแห้ง
แทน ก็เลยเลือกโลชั่นที่ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งมากกว่า ฉะนั้น
โลชั่นที่เราเลือกมา ก็เลยจะเน้นไปทางชุ่มชื้น ไม่เน้นเพิ่มความขาวกระจ่างใส
นะจ๊ะ
ความรู้สึกหลังใช้
ตัวที่สอง สำหรับโลชั่นตัวนี้ เราขอเน้นๆ ไปที่กลิ่นได้มั้ยอ่ะ คือชอบกลิ่นที่แบบมีความนมๆ เหมือนขนม หอมมากเหมือนเพิ่งไปอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมมาเลยคุณ ตอนไปซื้อเขาจะมีหลายสูตรนะ นี่ก็ดมๆ กลิ่น มีสูตรนี้แหละ ที่หอมที่สุด แต่ก็ไม่ได้มีดีแค่กลิ่นเท่านั้นนะ คือเขาก็เป็นโลชั่นที่มอบความชุ่มชื้นได้เหมือนกันที่สำคัญไม่เหนียวเหนอะหนะนะจ๊ะ ทาง่าย แห้งไว้
ในความรู้สึกคือ รู้สึกเสียดาย นางน่าจะมีขวดที่ใหญ่กว่านี้หน่อย ข้างขวด จะเป็นภาษาอังกฤษ แล้วจะเขียนว่าทำให้ผิวดูไบร์ท ซึ่งก็ไม่แค่เพิ่มความชุ่มชื้น กับหอมน้ำนมแพะเท่านั้นเอง แต่ก็ชอบไง เพราะมันหอมธรรมชาติๆ ดี
ความรู้สึกหลังใช้
ด้วยความที่ก็เป็นคนนึงที่ดูรีวิวครีมบ่อยๆ มีหลายคนบอกว่า'กันแดดตัวนี้ดี'รู้งี้ก็จัดเลยค่ะ ความรู้สึกส่วนตัว คือนางไม่ได้เหนียวนะ ก็เกลี่ยง่ายอยู่พอสมควร แถมไม่มีกลิ่น ไม่ผสมน้ำหอมด้วยความที่เราเป็นคนแพ้ง่ายมาก ต้องเลือกครีมที่ไม่มีน้ำหอม หรือสารสกัดแปลกๆ และตัวนี้ตอบโจทย์ทุกอย่าง และที่สำคัญหลอดเดียวทาได้ทั้งหน้า และตัวแถมกันน้ำ กันเหงื่อด้วย
นอกจากนี้ที่เราว่าคุ้มคือ ไม่ใช่แค่กันแดดSPF50เท่านั้น แต่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติด้วย ที่ชอบคือ สารสกัดจากว่านหางจระเข้ เอาง่ายๆ คือ ทาแล้วบำรุง ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นเหม็น
ความรู้สึกหลังใช้
ชอบที่ไม่ต้องอาบน้ำซ้ำ คือตัวนี้เป็นครีมอาบน้ำที่มีสครับผิวใช้รอบเดียวจบ หลังอาบเสร็จ คือตอนแรกรู้สึกแฮปปี้กับกลิ่นนะ ดูหอมๆ ดี แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ เริ่มมึน กลิ่นเหมือนน้ำหอมผู้ชายเลยอ่ะ ซึ่งไม่โอเค แต่ที่เลิฟสุดๆ คือขัดแล้ว ผิวลื่น นุ่ม และดูสว่างขึ้นจิ๊ดนึง
ที่เขาบอกว่าขัดปุ๊บ ขาวปั๊บก็ไม่ผิด จริงอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าจะขาวได้ตลอด หรือขัดแล้วขาวปัง ออร่าพุ่งขนาดนั้นแต่รวมๆ ชอบนะ เม็ดสครับละเอียด ไม่บาดผิว แพ็กเกจน่ารัก จัดว่าดี!
ความรู้สึกหลังใช้
ตัวนี้ตอบโจทย์สุด ตรงประโยคที่ว่ายิ่งขัด ยิ่งชุ่มชื้นคือจริง!เนื้อสครับ และวิธีใช้เหมือนกันเลยค่ะ คืออาบรอบเดียว เพราะเป็นสครับอาบน้ำ เนื้อจะเป็นสีเหลืองหลังใช้ผิวลื่นมาก เนียน และชุ่มชื้นสุดๆ ที่สำคัญ ตัวนี้จะมีกลิ่นที่อ่อนกว่าตัวแรกก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ แพ็กเกจน่ารักเหมือนกันเลย คือถ้าสาวๆ คนไหน กำลังมอบหาสครับผิวดีๆ สักตัว เราว่ายี่ห้อนี้ก็ดีนะ
มีให้เลือกทั้งขาว ทั้งชุ่มชื้น ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามสะดวก เขาบอกว่าให้ใช้เป็นประจำ แต่เราจะใช้สครับผิว อาทิตย์ละ 2 ครั้งแม้จะเป็นแบบครีมอาบน้ำ แต่สครับผิวทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เนอะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกันนะ
ความรู้สึกหลังใช้
สำหรับเซ็ตนี้ใช้ตอนกลางคืนนะจ๊ะ ผิวใครที่โทรมๆ เราว่า สองตัวนี้ช่วยได้เลยอย่างตัวแรก สำหรับผิวกายเนื้อครีมก็มีความอมชมพูเบาๆ เนื้อแน่น เกลี่ยง่าย ตอนดมไม่มีกลิ่น แต่พอทาแล้วรู้สึกถึงกลิ่นสมุนไพร ปกติเราจะใช้แต่มาร์กหน้าอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมาร์กผิวเลย พอมาลองตัวนี้ เขาบอกว่าให้ใช้เป็นประจำผิวจะดูกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ มีสารสกัดที่มีคุณค่ามากมาย
สำหรับเรามันโอเคมากๆ ตรงที่หลังใช้ทาเสร็จปุ๊บ ผิวชุ่มชื้น ดูเปร่งประกาย ความเหนอะหนะ ก็อาจจะมีบ้างด้วยความที่มันไม่ใช่ครีมธรรมดา แต่เป็นมาร์กผิว ความหนืดๆ ก็มีบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว พอใจมากๆ
ความรู้สึกหลังใช้
สำหรับตัวนี้ เป็นมาร์กที่ทาแล้วไม่ต้องล้างออก ด้วยสารสกัดที่มีคุณค่ามากมาย ส่วนใหญ่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยแน่นอนหลังทาก็มีความเหนียวบ้างนิดหน่อยในส่วนของกลิ่น แทบจะไม่ได้กลิ่น แต่เกลี่ยไปเรื่อยๆ จะมีกลิ่นคล้ายๆ สมุนไพรเบาๆ เหมือนกับตัวแรก เช้าลืมตาขึ้นมาผิวน้องนุ่ม เนียน ดูไบร์ทขึ้นเบาๆอย่างเห็นได้ชัด แม้จะต้องลำบากกับการลงครีมหลายๆ ตัว เพื่อบำรุง แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี ก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดเยอะ
เป็นยังไงบ้าง สำหรับสกินแคร์ผิวกายที่เราหยิบมาบอกต่อ ทั้งหมดนี้ คือของส่วนตัวที่เราใช้จริง แล้วชอบมากๆ อย่างที่บอกว่า เราเน้นไปทางผิวชุ่มชื้นสาวๆ ผิวแห้ง วันนี้เราขอมอบสิ่งที่ดีต่อผิวให้กับคุณค่ะ! สำหรับใครที่อยากรู้ว่า มันดีจริงมั้ย ต้องลองเอง เรื่องแบบนี้แค่อ่านรีวิว คงตอบอะไรไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น คุณเท่านั้นที่จะตอบได้ว่าทั้งหมดที่เราพูดวันนี้มันจริงมั้ย แต่นี้คือสกินแคร์ และวิธีการบำรุงผิวของเราเอง
สิ่งที่หยิบมาแชร์กัน หวังว่าจะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ส่งต่อความสวยให้กับสาวๆ ได้ด้วย แต่ตอนนี้ขอกลับไปดูแลตัวเองก่อนนะ บ๊ายบาย