5 เหตุผลเด็ด ที่อธิบายว่า 'ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องสวย'
ความสวยไม่ทนทาน เสน่ห์อย่างอื่นสิยาวนาน น่าค้นหา...
เผยแพร่: 18 พ.ย. 2558 11:06 น.
Views: 27,524
รหัสบทความ: 4549
เรามักจะได้ยินเสมอว่า' ผู้หญิง อย่าหยุดสวย '
เรามักจะถูกประโคมข่าวว่า ต้องผอมอย่างนี้สิดี ต้องขาวอย่างนั้นสิสวย
แต่ปัญหาก็คือ มาตรฐานความสวยงามของแต่ละคนไม่เท่ากันน่ะสิ! สวยในสายตาเรา คนอื่นก็อาจคิดว่า ไม่สวย สวยในสายตาคนอื่น เราอาจจะรู้สึกเฉยๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็น
' รสนิยม '
หรือ
' มุมมอง '
ไม่มีใครผิดใครถูกหรอก ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นในมุมมองตัวเองออกมา
และปัญหาที่สำคัญอีกประการที่สาวๆ หลายคนเป็นก็คือ' ฉันอยากสวยนะ จะได้มีคนมาสนใจ แต่สวยแบบไหนล่ะที่เรียกว่าดี 'แต่งอย่างนั้นก็หาว่าไปก๊อปคนนั้น ศัลย์ฯ แบบนั้นก็หาว่าไม่สวยไปอีก
ถ้าเราทำทุกวิถีทางเพื่อความสวยแล้วรู้สึกนอยด์กว่าเดิม มาค่ะสาวๆ มาฟังทางนี้กันว่า เหตุใดเกิดเป็นหญิงทั้งทีเราไม่จำเป็นต้องสวยก็ได้
( ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้แต่งตัวเลยนะคะ อันนั้นก็เกินไป แต่อยากให้สาวๆ ไปโฟกัสที่เรื่องอื่นบ้างก็เท่านั้นเอง )
#1 สวยแล้วไง สุดท้ายผู้ชายก็สนใจที่ความฉลาด
สวยก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดึงดูดสายตาให้มอง แต่จะคบกันได้นานรึเปล่า ? คบกันจริงจังจนอยากแต่งงานด้วยรึเปล่า ? เชื่อเถอะค่ะว่า ผู้ชายเขาก็มองเราที่ทัศนคติ และความสามารถนะจ๊ะ
ถ้าผู้ชายเลือกเราเพราะความสวยอย่างเดียว ในวันนึงที่เราไม่สวยขึ้นมา ( เช่น เกิดอุบัติเหตุ, เป็นสาวแก่ที่สังขารเสื่อม ) อย่างงี้ไม่ต้องถึงกับทิ้งกัน เลิกรากันไปเลยหรอ ?
ถ้าผู้หญิงอยากได้ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว มีความสามารถในการเลี้ยงครอบครัวได้ ผู้ชายก็ไม่ต่างกันกับเราจ้ะ เขาก็ต้องการผู้หญิงที่สามารถดูแลเขาได้ เป็นคู่คิดที่ดี มีความสามารถที่จะดูแลเรื่องในบ้านและนอกบ้านได้ดี ไอ้เรื่องที่จะควงไปอวดใครน่ะ มันไม่ใช่ประเด็นหลักเลย ( ไม่เชื่อลองถามพ่อดูสิว่าชอบแม่เพราะอะไร ตรงไหน ? )
#2 สเปคของผู้ชายไม่ใช่ความสวยเสมอไป
ไม่ต่างอะไรกับบางครั้ง ที่เวลาเราเห็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่มีแฟนไม่หล่อเอาซะเลย เพราะ
สเปคคนเรามันไม่เหมือนกัน
เราอาจจะอยากได้แบบนี้ เพื่อนเราอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง หรือแม้แต่เราที่ในครั้งหนึ่งอยากได้คนที่หล่อ วันเวลาผ่านไปอาจไม่รู้สึกต้องการคนหล่อก็ได้
ผู้ชายทุกคนชอบมองผู้หญิงสวย แต่ถ้าจะให้เลือกเป็นแฟน ก็ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้ผู้หญิงสวยมาเป็นแฟน เพราะ' ผู้หญิงที่มีดีแค่ความสวย เหมาะแค่กับการเป็นคู่นอน แต่ไม่เหมาะกับการเป็นคู่ชีวิต '
#3 มีงานอีกตั้งมากมายที่ไม่ใช้ความสวยเป็นคุณสมบัติหลัก
เลิกนอยด์ไปได้เลยจ้ะสำหรับสาวๆ ที่ทำยังไง๊ ยังไงก็ไม่สวยเหมือนคนอื่น ไม่สูง ไม่อึ๋ม และเลิกอิจฉาคนอื่นที่สวย แล้วได้ทำงานที่ใช้หน้าตาด้วยนะจ๊ะ นั่นก็สิทธิของเขา โอกาสของเขา เขาไม่ผิดในตลาดของแรงงานพร้อมจะอ้าแขนรับคนมีความสามารถอยู่เสมอถ้ามั่นใจว่าตัวเองมีดี เช่น เรียนเก่ง, เกรดสวยงาม, ขยัน, ไม่เกี่ยงงานหนัก จะรอช้าอยู่ใย บางบริษัทอาจรอเราเข้าหาอยู่ก็ได้นะ
#4 บางทีความสวยก็ทำให้เราโรคจิต
เคยมั้ย ?ตัวเองรู้สึกว่า เขียนคิ้วไม่เท่ากัน แต่คนอื่นกลับไม่ว่าอะไร เพราะไม่ได้สังเกตอะไรขนาดนั้น
เคยมั้ย ?ไม่อยากซ้อนมอเตอร์ไซค์ใคร เพราะกลัวดำ กลัวผมกระเซิง กลัวมลพิษ
เคยมั้ย ?มัวแต่เสียเวลาแต่งหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะยิ่งส่องยิ่งเห็นตำหนิเพิ่มขึ้น
เคยมั้ย ?เห็นเพื่อนบางคนแต่เดิมก็สวยอยู่แล้ว พอไปศัลย์มากเข้ากลายเป็นใครไม่รู้ที่ประหลาดมากกว่าสวย กลายเป็นตลกกว่าเดิมไปเลย
ถ้าเคย นั่นก็แปลว่า เริ่มจะ' เสพติดความงาม 'จนเกินพอดี เราเกิดเป็นหญิง รักสวยรักงามได้ แต่อย่าให้มันเป็นภัยต่อตัวเองในทีหลังเนอะ ถ้าทำแล้วมีความสุขพอดีๆ กำลังสบายตัวก็ทำไป แต่ถ้าเมื่อไหร่รู้สึกว่า มันมีเอฟเฟคที่ไม่โอเคกว่าเดิม ก็ถึงเวลาแล้วแหละที่จะต้องทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าจะเพิ่มอะไร ลดอะไร ?!?
#5 เคล็ดลับของ 30 ยังแจ๋ว ไม่ใช่ความสวย แต่คือ การดูแลตัวเองดี
สวย= การแต่งหน้า ทำผม ประโคมเครื่องบำรุงทั้งหลายเข้ากับตัวเอง ซึ่งโดยรวมโฟกัสที่ เครื่องสำอาง, ศัลยกรรม, ทรีทเมนต์, การแต่งกาย, ทรงผม ฯลฯ
การดูแลตัวเอง= ไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายก็ดูดีได้ ดูแลตัวเองไปเรื่อยๆ ตามอัตภาพ มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น / เป็นเท่านั้น เช่น ทานอาหารสุขภาพ, หมั่นออกกำลังกาย, อัพเดทตัวเองให้ทันโลกเสมอ, หาความท้าทายให้กับตัวเองได้ทุกวัน
เครื่องสำอาง การศัลยกรรม และเครื่องแต่งกายมันก็แค่ปลายทาง( เรามักจะเห็นเสมอว่า น้าๆ ป้าๆ ของเราบางคนช่างแต่งตัวไม่เข้ากับวัยเลย หรือฉีดโบท็อกมาซะหน้าตึงแปลกๆ ไม่เนียน )แต่ถ้าเราอยากดูดีอย่างยั่งยืน มีลูกก็ยังเหมือนสาวแรกแย้ม อายุ 40 - 50 แล้ว ก็ยังเหมือนสาววัย 20 - 30 เราก็ต้องเลือกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพซะตั้งแต่ยังสาว ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ดูแลจากภายใน สู่ภายนอก
ยิ่งแก่ตัวไปแล้วมากความสามารถ พยายามเก่งหลายอย่าง เรียนรู้หลายด้านเข้าไว้ เราก็ไม่ต่างอะไรกับเพชรที่ฉายแววตลอดเวลา กี่ปีกี่เดือนผ่านไปก็ยังเปล่งประกายน่ามอง( เหมือนอย่างที่เราเห็นป้าๆ น้าๆ คนไหนรู้เท่าทันเราแล้วอยากขอเป็นFC ประมาณนั้นแหละ )
