สวัสดีค่ะสาว ๆ

SistaCafe

เรื่องปัญหาของ

' ขน '

เป็นเรื่องที่หนักอกหนักใจสำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ จริง ๆ เลยนะคะ นอกจากจะทำให้ ดูมาดแมนเหมือนผู้ชายแล้ว ยังเป็นสิ่งที่รำคาญหู รำคาญตาอีกด้วย ยิ่งถ้าใครเป็นคนขนเยอะด้วยแล้วล่ะก็ นอกจาก ตามขา แขน และ รักแร้แล้ว ก็มี

ขนตามใบหน้า หรือ หนวด

เนี่ยแหละ ที่เป็นปัญหาสุด ๆ จนอาจจะโดนเพื่อนล้อว่าเป็น ผู้หญิงมีหนวดอยู่บ่อย ๆ เลยก็ได้

และถ้าใครที่กำลังเจอปัญหา หรือ เป็นชะนีมีหนวดอยู่ล่ะก็

วันนี้เรามี 6 วิธี กำจัดหนวด และขนบนใบหน้า มาฝากสาว ๆ กัน

จะมีวิธีไหนกันบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่า

>///<


1. ไข่ขาว

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2017-03/egg-mask-620x350_620x350_51489144346.jpg

ไข่ขาวไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยโปรตีนซึ่งช่วยบำรุงผิว เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวแล้ว ยังมีความข้นและเหนียว ซึ่งสามารถเอามาพอกหน้า ใช้ในการกำจัดขน และขจัดความมันส่วนกินบนใบหน้าได้ด้วย โดยถ้า สาว ๆ อยากใช้สูตรนี้ล่ะก็.....

แค่เพียงคว้าชามเอาไข่ขาว ผสมกับแป้งข้าวโพดและน้ำตาลอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ตีจนกว่าเนื้อไข่ขาวจะเนียนเข้ากัน ทาลงบนใบหน้าและปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 ถึง 20 นาที เมื่อหน้ากากแห้งและแข็งพอลอกออกอย่างรวดเร็ว และล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ซึ่งสูตรนี้ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้เห็นผล

* แต่สำหรับผู้ที่เป็นสิว ไม่ควรทำบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้


2. มะละกอ และ ขมิ้น

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2016-10/papaya-625_625x350_71475835124.jpg

เอนไซม์ ที่พบในมะละกอ ที่เรียกว่า

' Papain ' (ปาเปน)

จะช่วยขยายรูขุมขน ที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนบนผิวหน้าของเราได้ และยังช่วยในการขัดผิวด้วยการ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ส่วนขมิ้นนั้นช่วยขจัดสิ่งสกปรกและปรับผิวทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยวิธีใช้นั้นก็ง่านมาก ๆ เพียงแค่บดมะละกอ กับ ขมิ้นให้เป็นเนื้อเดียวกัน และ พอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 ถึง 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


3. ข้าวโอ๊ต + น้ำผึ้ง + น้ำมะนาว

รูปภาพ:https://t2.uc.ltmcdn.com/images/6/0/4/img_como_tomar_harina_de_avena_para_adelgazar_44406_600.jpg

ตัวนี้ก็เป็นสูตรเด็ดอีกตัวที่หลาย ๆ คนนิยมทำกันก็คือนำข้าวโอ๊ตที่แช่น้ำจนนิ่มแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากันกับน้ำผึ้ง และน้ำมะนาวอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาบริเวณที่ต้องการกำจัดขน พอกทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วค่อย ๆ นวดถูวนอย่างเบามือ แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดจ้า วิธีการนี้จะช่วยทำให้ขนและหนวดหลุดออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายบแล้วให้หลุดลอกออกไปด้วย ผิวหน้าเนี่ยดีเชียว


4. หมั่งหมิง

รูปภาพ:https://media.timeout.com/images/103382294/630/472/image.jpg

‘ หมั่งหมิง ’

เป็นการกำจัดขนบนใบหน้าด้วยเส้นด้าย ที่เรามักนิยมเห็นตามแถวเยาวราช บริเวณริมถนน โดยการทำ หมั่งหมิง เป็นการถอนขนบนใบหน้าแบบจีน ที่สามรถ กำจัดขนอ่อนบนใบหน้าบริเวณแก้ม คาง ใต้ริมฝีปาก และคิ้วได้ นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูเนียน กระจ่างใสมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกำจัดสิวเสี้ยนด้วย


5. แว็กซ์ขนหน้า

รูปภาพ:https://i.ytimg.com/vi/6JC6w_Yo3KQ/maxresdefault.jpg

เราเคยเห็นการแว็กซ์ขนในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนขา ขนแขน ขนรักแร้ กันอยู่แล้ว แต่สำหรับใบหน้าแล้วอาจจะไม่ใช่ส่วนที่นิยมกันมากนั้น เพราะบ้างก็กลัวเจ็บ บ้างก็กลัวแพ้ แต่วิธีแว็กซ์เนี่ย เป็นวิธีที่กำจัดได้เกลี้ยงเกลา และขนที่ขึ้นใหม่ก็มีความบางกว่าเดิมด้วย โดยแว็กซ์ที่นิยมใช้คือ

ฮาร์ดแว็กซ์ (Hard Wax)

หรือแว็กซ์ร้อน ที่ใช้แล้วช่วยเปิดรูขุมขน และถอนขนได้ถึงรากถึงโคน และอีกชนิดหนึ่งคือ

สตริปแว็กซ์ (Strip Wax)

หรือแว็กซ์เย็น มีเนื้อเบาบาง เหมาะกับการดึงขนอ่อน ๆ โดยสาว ๆ ที่ไม่ควรใช้วิธีนี้เลยก็คือ คนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวหน้าบาง และคนที่เป็นสิวอยู่ เพราะอาจทำให้เกิดความระคายเคืองได้


6. เลเซอร์ขนหน้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/5b/c7/ae/5bc7ae9cf53e877cf4ece19e8ed297d3.jpg

ปิดท้ายด้วยวิธีการทำเลเซอร์กำจัดขนบริเวณใบหน้าวิธีการนี้เป็นวิธีการกำจัดขนอย่าง ‘ ถาวร ’ซึ่งจะแตกต่างจากวิธีอื่น ๆ นั่นเองจ้า ราคาจะสูงขึ้นมาอีก แต่เป็นทางเลือกที่ได้ผลดีอย่างมาก ๆ โดยแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายรากขนให้ตาย ทำให้ขนบริเวณใบหน้าและหนวดของเราจะหลุดร่วงไป และไม่ขึ้นมาใหม่นั่นเอง สาว ๆ สามารถไปหาร้านคลินิกที่รับทำเลเซอร์เหล่านี้ดูได้นะคะ หาร้านที่น่าเชื่อถือ และลองไปสอบถามราคาดู ทั้งนี้ทั้งนั้นผลของการทำเลเซอร์ก็ขึ้นอยู่ที่ฮอร์โมนของแต่ละคนด้วยค่ะ ซึ่งถ้าใครรู้ตัวว่าขนเยอะ ๆ แบบนี้อาจจะต้องยิงเลเซอร์หลายครั้งกว่าคนที่ขนน้อยนั่นเองจ้า


เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ กับทั้ง6 วิธีในการกำจัดขนบนใบหน้า หรือ หนวดของเราที่ชอบขึ้นมาเป็นเพิ่มความมาดแมนให้เราขาดความมั่นใจT^Tยังไงถ้าสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหานี้ล่ะก็ ลองเลือกเอาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง และที่ตัวเองชอบ (ชอบแบบธรรมชาติ หรือแบบเจ็บตัว) ไปใช้กันดูได้เลย

สำหรับวันนี้ไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย