จุมเรี้ยบซัว ( -/|\-)เนียงละออชาวSistaCafeทุกคน

วันนี้ขอมาทักทายด้วยภาษาแปลกใหม่ที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน

" จุมเรี้ยบซัว เนียงละออ "


แปลว่าสวัสดี น้องสาวคนสวย

ที่ใช้กันใน

ภาษาขแมร์หรือเขมรเมืองสะเร็น

นั่นเองจ่ะ

แล้วเขมรเมืองสะเร็นนี้มันจังหวัดไหน เกี่ยวอะไรกับ

"

Travel seriesเที่ยวอีสานดีต่อใจ


"

ของเรากันนะ อ่ะพี่จะมาเฉลยให้ฟัง

เมืองสะเร็นก็คือ จังหวัดสุรินทร์


หนึ่งใน

Destinationเที่ยวเมืองรองแบบcool อีสาน

ที่เรายังคงกลับมาพาทุกคนตระเวนไปทำความรู้จักภูมิภาคนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม

บอกเลยว่าเที่ยวเมืองช้างใหญ่มีอะไรดีดี้ที่ชวนให้เราประทับใจแบบแร้งแรง!EP.3 สุรินทร์ ถิ่นละออคลังจะมีอะไรดีงามบ้างตามมาสิ จะเล่าให้ฟัง!!

(* >ω<)б(>ε<)∂(>ω< *)

รูปภาพ:

" เมืองสุรินทร์กับภาพในหัวของเราสารภาพว่านอกจากช้างเราก็นึกถึงอะไรไม่ออกอีกเลย "

สุรินทร์นอกจากจะเป็นถิ่นที่มีช้างเยอะที่สุดแล้ว

ช้างกับคนในเมืองนี้เรียกว่ามีความผูกพันกันซะจนเรายังแปลกใจคนสุรินทร์เลี้ยงช้างเป็นสัตว์เลี้ยงค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมู่บ้านช้าง ชาวบ้านมีการดูแล เอาใจใส่ฝึกสอน และอยู่กินกับช้างจนเป็นเรื่องปกติ

ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนทั้งในเรื่องของ

วัฒนธรรมประเพณี สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ช้าง ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากพื้นฐานชีวิตคนสุรินทร์ได้เลย

____________________________________

วิถีชีวิตคนกับช้างอันแสนน่ารักนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์แรกๆที่ทำให้เราตกหลุมรักสุรินทร์

รูปภาพ:

แต่ทุกคนคะ

สุรินทร์ไม่ได้มีแค่ช้าง


สุ

รินทร์ยังมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ คนสุรินทร์มีเชื้อสายลูกครึ่ง ทั้งลาว เขมร และกูย มีภาษาท้องถิ่นหลายภาษาและเป็นเอกลักษณ์ของชาติพันธุ์ตัวเอง


นอกจากนั้นเมืองสะเร็นแห่งนี้ยัง

มีอาหารท้องถิ่นที่อร่อย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบเครื่อง ทั้งเรื่องธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมประเพณี

ถ้าไม่ได้ลองมาสัมผัสเมืองนี้ ก็จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสุรินทร์มีอะไรให้เราลองเที่ยวและลองทำอีกตั้งเยอะแยะ!

_________________________________________เยือนสะเร็นเน้นเช็คอินสไตล์SistaCafeรวมให้แล้วกับ" 9 สถานที่ดี้ดีมีความ Cool อีสาน "Travel seriesเที่ยวอีสานดีต่อใจEP.3 สุรินทร์ ถิ่นละออคลังจะสนุกหนัก ละออคลังแค่ไหน ไปดูกัน!

ตามไปดูคลิปเที่ยวอีสาน "สุรินทร์" เต็มๆ ที่



1. ชมความน่ารักแสนรู้ ดูช้างที่ " ศูนย์คชศึกษา "

รูปภาพ:

เพราะสุรินทร์ขึ้นชื่อเรื่องช้าง

" ศูนย์คชศึกษา "

จึงเป็นจุดแรกที่ทุกคนควรต้องมาเช็คอินเลยค่ะ ที่นี่คือ

หมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก


มีอีกชื่อเรียกว่าหมู่บ้านช้างบ้านตากลาง

ชาวบ้านที่นี่เขาเลี้ยงช้างกันมายาวนาน มีความผูกพันใกล้ชิดกับช้างอย่างแน่นแฟ้น อย่างที่บอกไปว่าเขาเลี้ยงพี่ช้างแบบสัตว์เลี้ยง แต่ละครัวเรือนก็จะมีช้างของตนเองที่อาศัยอยู่ร่วมกันเลยล่ะค่ะ

มาที่ ศูนย์คชศึกษา มีอะไรให้ทำบ้าง ?

แน่นอนว่ามาที่นี่เพื่อนๆ จะได้ลองใกล้ชิดกับช้างมากขึ้น ทั้ง

ขึ้นหลังช้างชมหมู่บ้าน ให้อาหารช้าง ลอดใต้ท้องช้างตามความเชื่อโบราณ

และ

ไฮไลท์คือการชมการแสดงช้างแสนรู้

ที่น่ารักม้ากมาก! นอกจากนั้นทุกคนยัง

จะได้เห็นภาพน่ารักๆ ของความผูกพันระหว่างชาวบ้านกับช้าง ทั้งการฝึก การเลี้ยงดู ที่บอกว่าหาดูที่อื่นไม่ได้แน่นอน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

อัตตราการเข้าชม ศูนย์คชศึกษาผู้ใหญ่ คนละ 50 บาทเด็กโต คนละ 20 บาทเด็กเล็ก คนละ 10 บาทชาวต่างชาติ คนละ 100 บาทการแสดงช้าง มีทุกวัน วันละ 2 รอบ ( ชมฟรี )รอบเช้า เวลา 10.00น.รอบบ่าย เวลา 14.00น.ขึ้นช้างชมหมู่บ้านคนละ 100 บาท

รูปภาพ:

2. เที่ยวทะเลอีสานแดนสุรินทร์ " ทะเลสาบทุ่งกุลา "

รูปภาพ:

ที่สุรินทร์ก็มีทะเลนะรู้ยัง ?

ใครอยากหาที่ดับร้อนนอนชิลล์ต้องแวะมาเช็คอิน

" ทะเลสาบทุ่งกุลา "

แบบด่วนๆ ต้องบอกว่า

น้ำใสเซอร์ไพร์สมาก!

( ไม่เชื่อให้ย้อนไปเปิดวิดีโอดู )

เขาบอกว่าทะเลสาบทุ่งกุลา

เดิมชื่อทุ่งกุลาร้องไห้เพราะเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก ต่อมาจึงมีการขุดพื้นที่ทำเป็นแก้มลิงไว้เก็บน้ำ และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบทุ่งกุลาในที่สุด

เดี๋ยวนี้เลิกร้องไห้แล้วจ้า

มาที่ ทะเลสาบทุ่งกุลา มีอะไรให้ทำบ้าง ?

นอกจากเพื่อนๆ เขาจะมา

นั่งแพชมวิวชิมอาหารชิลล์ๆ ทั่วไปแล้ว ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมทางน้ำให้สายแอดเวนเจอร์ได้ประลองฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น เจ็ทสกี, บานาน่าโบ๊ท, โดนัทมหาโหด

คำเตือนคืออย่ากินข้าวก่อนลงเล่น มิเช่นนั้นจะอ้วกได้เช่นเรา

*สำหรับแก้งค์ไหนที่ชอบเล่น บานาน่าโบ๊ท หรือโดนัทจะบอกว่าที่นี่ราคาถูกมาก 300 บาท เท่านั้นลากจนร้องขอชีวิต! ( พี่ลองมาแล้ว ) (T_T)*

รูปภาพ:รูปภาพ:

เตรียมตัวลงน้ำต้องเตรียมผิวให้พร้อมเช่นกันจะไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแดงแรงจ๋าขนาดนี้ตัวช่วยดีๆ ต้องมาจ้าาา อะขายของ!

รูปภาพ:รูปภาพ:

3. " ซแรย์ อทิตยา " เดินชมวิวชิลล์ทุ่งนายามเย็น

รูปภาพ:

" ซแรย์ อทิตยา "

ชื่อไพเราะเสนาะหูขนาดนี้ เพราะที่นี่เขาเป็น

โครงการพิเศษในพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ


ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรในพระดำริภายใต้การดูแลของ ‘ โครงการเกษตรอทิตยาทร ’

ซแรย์ เป็นภาษาเขมร แปลว่า นา


" ซแรย์ อทิตยา " จึงหมายถึงนาของพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

นั่นเอง ซแรย์ อทิตยา นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเกษตรอย่างครบวงจรแล้ว ยังเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากพ่อหลวงของเรามาปรับใช้ ถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไทยอีกด้วย

รูปภาพ:

มา ซแรย์ อทิตยา มีอะไรให้ทำบ้าง ?

นอกจาก ซแรย์ อทิตยา จะขึ้นชื่อเรื่องแลนด์สเคปที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปเดินชมวิวเพลินๆ แล้ว ทุกคนยังสามารถมาเรียนรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือการเกษตรอื่นๆ ทั้งเรื่องดิน พืชพันธุ์ไม้ต่างๆ แถมยังทีที่พักเปิดรอให้เพื่อนๆ มาสัมผัสบรรยากาศของท้องทุ่งนาแบบเต็มอิ่มจุใจไปเลย

เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

รูปภาพ:รูปภาพ:

4. พักผ่อนหย่อนใจที่ " Sorin Boutique Hotel "

รูปภาพ:

มาเที่ยวพักผ่อนทั้งทีกินดีแล้วก็อยากอยู่ดีด้วยเช่นกันจริงไหมคะ เชื่อว่าทุกคนคงอยากมานอนทอดกายกับที่พักสวยๆ นอนสบายๆ

หลังจากเรามีตัวช่วยดีๆ อย่างbooking.comก็ทำให้เราได้เจอกับโรงแรมถูกใจแถมยังได้ราคาพิเศษมากๆๆๆๆ อีกด้วยค่ะ

กับที่นี่เลย

" Sorin Boutique Hotel "

สำหรับที่

Sorin Boutique Hotel

เขาก็เป็นโรงแร

ใหม่ใจกลางเมืองสุรินทร์ มีความครบครันสิ่งอำนวยความสะดวก แถมยังอยู่ใกล้แหล่งของกินสบายสุดๆ ไปเลย

ใครที่กำลังมีแพลนมาเที่ยวสุรินทร์ก็ลองใช้ผู้ช่วยคนเก่งอย่างbooking.comมองหาโรงแรมที่ใช่กันดูนะจ๊ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

5. สืบสานวัฒนธรรม " มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง "

รูปภาพ:

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีโอกาสไปเยือนสุรินทร์ใน

ช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาและอาสาฬหบูชา

แบบเรา ขอบอกเลยว่าโบนัสมากๆ เพราะในช่วงนี้เขาจะมี

งานยิ่งใหญ่ของจังหวัดและยังเรียกว่าเป็นงานที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของโลก

เลยค่ะ นั่นก็คือ

" มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง "

ซึ่งจะ

จัดขึ้น 2 วัน

นับเป็นงานประเพณีบุญครั้งใหญ่ของจังหวัดสุรินทร์ที่มีขึ้นต่อเนื่องในทุกปี

: วันแรก :

ไฮไลท์จะอยู่ที่ช่วงเย็น ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดี


เราจะได้พบกับริ้วขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตกแต่งอย่างอลังการ ร่วมไปถึงการประกวดขบวนและการฟ้อนรำในแบบศิลปวัฒนธรรมของชาวสุรินทร์ปิดท้ายด้วยขบวนแห่ช้างประดับไฟ ช้างเทิดพระเกียรติ สุดยิ่งใหญ่กว่า 80 เชือกสวยงามมากๆ เลยค่ะ


รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

: วันที่สอง :

งานจะจัดต่อเนื่องกันสองวันติด สำหรับวันถัดมา

พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่

บริเวณจุดเดิม ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะแห่แหน

มาร่วมทำบุญใหญ่ด้วยการตักบาตรบนหลังช้าง


โดยพระภิกษุจะคอยรับบาตรอยู่บนหลังช้าง ในขณะที่ชาวบ้านจะขึ้นไปตักบาตรกับบนอัฒจันทร์

เรียกว่า

เป็นประเพณีที่แปลกตาแต่อิ่มใจ แถมน้องช้างก็อิ่มท้องไปด้วยเพราะได้อานิสงส์ป้อนผลไม้จากผู้ที่มาร่วมงานเช่นกันล่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

6. ชิมอาหารพื้นถิ่น " อังแกบบอบ " และ " ยำขนมจีนเส้นสด "

รูปภาพ:

แน่นอนว่ามาเที่ยว

อาหารพื้นถิ่นก็เป็นไฮไลท์อีกสิ่งที่ควรจะมาเช็คอิน

วันนี้เรามีนัดกันที่

" ร้านเจ๊ดา "


อ.เขวาสินรินทร์

คุณพี่ดาคนสวยเชิญชวนเรามาชิม

อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง


" อังแกบบอบ "และ"ยำขนมจีนเส้นสด "

สาวสายกินอย่างเราทั้งคู่ตบปากรับคำอย่างไว เรื่องกินไว้ใจฉันน!

มา ร้านเจ๊ดา ต้องชิมอะไรบ้าง ?

เมนูแรกขอยกให้

" อังแกบบอบ "

ชื่อแปลกหูคำนี้

เป็นภาษาเขมรแปลว่า ใครทำเธอท้อง ?

แค่ชื่อก็ตกใจเบาๆ พอรู้วัตถุดิบก็ตะลึงไปใหญ่เพราะ

เมนูนี้คือกบยัดไส้ย่าง!

แม่จ๋าเกิดมาไม่เคยคิดกบแต่มาถึงถิ่นทั้งทีพี่จะขอลองชิมดูสักครั้ง

จะบอกว่าเมนูนี้เป็นของอร่อยติดดาวของคนที่นี่แบบว่าเจ๊ดาย่างกี่ทีก็ไม่พอขาย ส่วนรสชาติจะเป็นยังไงเพื่อนๆ ต้องลองตามเรามาชิมเองแล้วล่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

กินต่อไม่รอแล้วน่าาา

ไปกันที่เมนูต่อไปอย่าง

" ยำขนมจีน "

นอกจากรสชาติจะแซ่บนัวร์รัวลิ้นไม่เหมือนใครแล้ว

ความพิเศษของยำขนมจีนเจ๊ดาอยู่ที่เส้นสด


เส้นสดก็คือเส้นที่เจ๊ดาเขาทำเองสดๆ ร้อนๆ หลังบ้านนี้เลยจ้าา

ด้วยเส้นเรียวเล็กละมุนลิ้นไร้กลิ่นหมักนานๆ ก็ยิ่งทำให้น้ำปรุงเข้าไปที่เนื้อเส้น พอมาเจอเครื่องยำแน่นๆ ทั้งหอมเจียว ปลาดุกฟู ถั่วเคี้ยวกรุบ คือดีแบบไปสุรินทร์ไม่ได้ลองต้องร้องไห้!

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ครบเครื่องเมนูความอร่อยจากเจ๊ดาก็ได้เวลาที่เรารอคอยกินต่อต้องรออะไรล่ะจ่าาา!ใครที่อยากตามเราไปชิมเมนูท้องถิ่นเหมือนเราแบบนี้ ก็ติดต่อเจ๊ดาไปได้ที่ 087-1188400โล้ด!

รูปภาพ:รูปภาพ:

7. ชมศิลปะเขมรโบราณที่ " ปราสาทศีขรภูมิ "

รูปภาพ:

นอกจากอาหาร ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่สวยงามแล้ว

สุรินทร์ก็ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ทุกคนควรค่าจะแวะมาชื่นชม

นั่นก็คือ

" ปราสาทศีขรภูมิ "

ที่นี่เป็น

ปราสาทหินที่มีอายุหลายร้อยปี

ใครที่เคยอยากจะไปสัมผัสความสวยงามของปราสาทนครวัดนครธมที่กัมพูชา มาที่ปราสาทศีขรภูมิก็ได้ฟีลคล้ายๆ กันเลยค่ะ เพราะ

มีลักษณะสถาปัตยกรรมผสมกันระหว่างขอมแบบบาปวนกับแบบนครวัด

เช่นกัน

ปราสาทศีขรภูมิมีชื่อเดิมว่า

ปราสาทระแงง

อดีต

เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่บูชาพระศิวะ มีลักษณะเป็นปรางค์หมู่ 5 องค์ ตัวปราสาททำจากการก่ออิฐไม่สอปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง

ทุกปี

ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน

จะมีการจัด

“งานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ”

ณ บริเวณองค์ปราสาทศีขรภูมิ

ไฮไลต์ของงานคือ การแสดงประกอบแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการ มีขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองจำลองวิถีชีวิตกลุ่มชุมชนชาว เขมร ลาว กุย และจีน รวมไปถึงมีพิธีบวงสรวงองค์ปราสาทศีขรภูมิ

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดสุรินทร์

รูปภาพ:

มา ปราสาทศีขรภูมิ มีไฮไลท์อะไรให้ดูบ้าง ?

1.



ภาพทับหลังหินแกะสลัก

ถือว่ามีความสวยงามสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีลักษณะเป็นภาพพระศิวะเต้นรำ หรือพระศิวะนาฏราชสิบกรอยู่บนหงษ์ 3 ตัว โดยมีความเชื่อว่าหากพระองค์เต้นรำด้วยความสวยงามโลกก็จะอยู่เย็นเป็นสุข แต่ถ้าเต้นรำด้วยจังหวะที่รุนแรงโลกก็จะปั่นป่วนวุ่นวาย

2. เสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสราถือดอกบัว


และทวารบาลยืนกุมกระบอง

มีลักษณะคล้าย

นางอัปสรา

ที่ปราสาทนครวัด

ถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของการมาเยี่ยมชม

ปราสาทศีขรภูมิ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

8. สัมผัสผ้าไหมพื้นถิ่น " บ้านท่าสว่าง "

รูปภาพ:

" บ้านท่าสว่าง "

มีชื่อเรียกในภาษาเขมรสุรินทร์ว่า

บ้านโมเซราะเตรี้ยะ


ชาวบ้านที่นี่มีภูมิปัญญาทอผ้าไหมที่สวยงามมาตั้งแต่อดีต และมีลายผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์อย่างลายอัมปรม และลายโฮลเป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

เพื่อนๆ เดินทางมาเที่ยวที่บ้านท่าสว่างนอกจากจะมีตลาดต้องชมอย่างตลาดผ้าไหมให้เลือกซื้อกันตลอดสายแล้ว ก็ยังสามารถติดต่อขอเข้าไปชมวิธีการทอผ้าใหม่จากกลุ่มชาวบ้านได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นที่นี่เขาก็ยังมีผ้าไหมขึ้นชื่ออย่างการทอผ้ายกทองแบบโบราณ โดยการทอผ้าชนิดนี้ต้องใช้คนทอเป็นจำนวนมากและใช้เวลาในการทอหลายเดือนเลยทีเดียวค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

9. เช็คอินคาเฟ่สุดคูลอย่าง " สนิม คาเฟ่ "

รูปภาพ:

ใครว่ามาสุรินทร์แล้วจะไม่มีที่เช็คอินคูลๆ

ให้ตามมาดูตรงนี้ เที่ยวแบบ

SistaCafe

ทั้งที อะไรที่ดีกว่าต้องหามาฝากแน่นอน สำหรับชาววัยรุ่นหรือใจรุ่นที่อยากจะไปหา

ร้านบรรยากาศดีๆ นั่งชิลล์

ต้องแวะไปที่

" สนิม คาเฟ่ "

เลยค่ะ เ

ราอยากจะบอกว่าร้านเขาเท่มากกกกก! ที่สำคัญเจ้าของออกแบบเองทั้งหมด โดยการนำตึกแถวเก่ามารีโนเวต

โอ้โหวว ไม่คิดมาก่อนว่าเมืองช้างเขาจะมีร้านเฟี้ยวๆ แบบนี้อยู่ด้วย เอาเป็นว่ามาเช็คอินที่นี่ถ่ายรูปมัน สวยทุกมุมกันไปเลย!!

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทางมาเที่ยว " สุรินทร์ "


การเดินทางมาเที่ยวสุรินทร์ก็ไม่ต้องนั่งรถทัวร์ขับรถยนต์มาให้เปลืองแรงแล้วนะคะ

เพราะเดี๋ยวนี้เขามีเครื่องบินที่บินมาถึงจังหวัดข้างเคียงอย่างบุรีรัมย์ มาต่อรถจากที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงก็เวลคัมทูสุรินทร์ได้แล้วจ้าาา


และแน่นอนเรายังคงเลือกโดยสารมากับสายการบิน

เจ้าสีเหลืองสดใสบินตรง บินไว เครื่องลำใหญ่นั่งสบาย

อย่าง" NOK AIR "เขาบินตรงทุกวัน วันละ 2 เที่ยวเลยนะ ( ย้ำอีกทีว่าตรงเวลามากๆ )

รูปภาพ:รูปภาพ:

_________________________________ที่สำคัญตอนนี้เขาก็มีบริการNok Transferรถรับ-ส่ง จากสนามบินเข้าตัวเมืองอีกด้วยสบายไปอี้กก! ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นสายพร็อพแน่นแบบเราสองคนใช้บริการแบบNok X-traโหลดกระเป๋า 15 กก.ฟรี!คนกันให้เต็มที่ไปเล้ย!

_________________________________


เป็นยังไงกับบ้างคะกับทริป

เที่ยวเมืองสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่

ที่

SistaCafe

อาสาพาไปครั้งนี้ กินดีอยู่ดีมีอะไรน่าเที่ยวเยอะแยะเลยใช่ไหมล่ะ ?

เอาจริงๆ เที่ยวอีสานก็มีอะไรสวยๆ ให้ดู มีอะไรสนุกๆ ให้ทำไม่แพ้ภาคอื่นเลย โดยเฉพาะเที่ยวเมืองรองถ้าไม่ลองไปเองก็จะไม่มีทางได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้ว่าเมืองไทยยังมีจังหวัดเล็กๆ ที่น่าเที่ยวอีกเพียบ!!

ทริปหน้าเป็นทริปสุดท้ายแล้วที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักอีสานให้มากขึ้นกว่าเดิมยังคงขอความเมตตาฝากเพื่อนๆ ชาวSistaCafeติดตามกันอีกครั้งคราวหน้าจะพาไปไหนให้หัวใจทำนายกันนน เย้เย้(灬ω灬)

รูปภาพ: