วันนี้คุณแปรงฟันแล้วหรือยัง?

น่าจะเป็นคำที่ทุกคนคุ้นหูกันดีอยู่ ทุกวันตื่นนอนก็แปรงนะ ก่อนเข้านอนก็แปรงด้วย บางคนหลังอาหารกลางวันก็แปรงแถมให้อีกครั้งด้วยเอ้า! ถ้าคิดว่าดูแลฟันของเธอดีแล้ว

ลองมาดู 7 พฤติกรรมนี้ดูว่าเธอเคยเผลอทำร้ายฟันซี่งามของเธอลงไปบ้างหรือเปล่า?!


1. ไม่ยอมไปหาหมอฟัน

รูปภาพ:http://jenniferkostick.com/wp-content/uploads/2013/03/WomanHandOverMouth-.jpg

ถึงจะทั้งแปรง ทั้งใช้ไหมขัดฟัน หรือแม้กระทั่งลงทุนลงไปแรงไปซื้ออุปกรณ์รักษาฟันนู่นนี่มาใช้เพื่อลดคราบหินปูนเพราะคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเลี่ยงไม่ไปหาหมอฟันได้นะ

ลองคิดว่าถ้าปากของเธอเป็นเหมือนเครื่องจักรชนิดหนึ่งที่ต้องมีการทำงานตลอดเวลาดูสิ ยังไงนานๆ ครั้งก็ต้องมีการซ่อมบำรุงโดยให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจดูใช่มั้ยล่ะ ก็เช่นเดียวกับฟันของเธอนี่แหละ ลองนัดหมอฟันให้เค้าช่วยตรวจดูให้สักปีละครั้งนะ


2. วันนี้แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันหรือยัง?

รูปภาพ:http://www.tinakeyhaniomf.com/wp-content/uploads/2015/03/toothpaste-and-floss.jpg

แน่นอนเราทุกคนรู้ว่าถ้าไม่แปรงฟันกับใช้ไหมขัดฟันดีๆ มันก็จะไม่ดีต่อฟันของเรา

ถ้าวันไหนที่เกิดไม่ได้แปรงฟันขึ้นมาล่ะก็ รู้มั้ยว่าแบคทีเรียในปากน่ะก็จะเริ่มแพร่กระจาย ปล่อยกรดออกมาแล้วทำให้เกิดฟันผุขึ้นได้

การแปรงฟันจะช่วยหยุดการเติบโตของแบคทีเรีย ส่วนการใช้ไหมขัดฟันจะช่วยทำให้เธอมั่นใจว่าเธอได้ทำความสะอาดในที่ที่แปรงไม่สามารถเข้าถึงได้นั่นเอง


3. แปรงฟันไปมา ซ้ายขวาๆ

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/OdXOde5OH1A3e/giphy.gif

คือการแปรงฟันมันก็ไม่ใช่แค่ว่าแกเอาแปรงถูไปถูมาในปาก ปัดไปปัดมาเฉยๆ ป่าวอ่ะ คือมันก็ต้องมีเทคนิคในการแปรงบ้างเธอ

แทนที่จะแปรงซ้ายขวาๆ ก็ควรจะแปรงเป็นวงกลมเล็กๆ วนๆ ไปเรื่อยๆ การแปรงซ้ายขวาจะทำลายเนื้อฟัน การแปรงควรแปรงไปตามแนวเหงือกและด้านหลังของฟันเพื่อลดแบคทีเรียด้วย

สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักพลาดไปอีกก็คือแปรงไม่นานพอ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าแปรงให้ทั่วทั้งปากก็ควรใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 2-3 นาทีจ้ะ


4. ใช้ฟันเยี่ยงอุปกรณ์เปิดขวด!

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/WmAQxSigJvBS/giphy.gif

อันนี้ก็สายโหดไปป้ะ???

โอ๊ยยยยยยยยยย เสียเวลาซักนิดนึงไปหากรรไกร ที่เปิดขวด หรืออะไรก็ได้มาใช้แทนฟันเถอะ

คือพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดถุงด้วยฟัน การกัดเล็บหรือที่แปลกๆ อย่างเปิดขวดเนี่ยก็ยิ่งอันตรายต่อฟันนะ

คือว่ากันตรงๆ ก็คือตอนนี้ทุกคนก็มีอายุแล้วนะ ถ้าเกิดฟันมันเป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย มันก็จะเป็นหนักมาก ที่นี้ถ้าจะรักษาล่ะก็อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเจ็บเลย ต้องเสียเงินอีกเท่าไหร่ ไม่คุ้มเอาซะเลยเธอ


5. เคี้ยวน้ำแข็ง

รูปภาพ:http://www.enkivillage.com/s/upload/images/2014/12/ef9af8becf9b4c1d914275f1977f28d1.jpg

และแน่นอนว่าพวกของแข็งทั้งหลาย ทั้งกระดูกหรือเม็ดผลไม้ต่างๆ ที่ช่างมันปากอยากแทะกันนั้น ฟันของเราก็ไม่ได้แข็งแกร่งพอจะไปรองรับแรงพวกนั้นนะ โดยเฉพาะน้ำแข็งเนี่ย ส่วนหนึ่งของมันมีความร้อนอยู่ด้วย เวลาที่เคี้ยวไปฟันก็จะได้รับทั้งความร้อนและความเย็นซึ่งส่งผลให้วัตถุเกิดการขยายและหดตัว เช่นเดียวกัน

ฟันก็จะได้รับผลกระทบนั้น ทำให้มีรอยแตกเล็กๆ เกิดขึ้นบนฟันด้วย นานวันเข้ารอยแตกขนาดเล็กจิ๋วพวกนั้นก็อาจทำให้ฟันของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้เหมือนกันนะ

6. ใช้ยาสีฟันไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์

รูปภาพ:http://nakedwildandfree.com/wp-content/uploads/2014/06/toothpaste.jpg

รู้หรือไม่ว่ายาสีฟันบางแบรนด์นี่ไม่มีฟลูออไรด์นะ


โดยเฉพาะบางตัวที่เป็นแบบธรรมชาติก็มักบอกว่าตัวเองเป็น fluoride-free ก็มี

อย่างที่เรารู้กันว่าฟลูออไรด์เป็นส่วนที่สำคัญที่ช่วยให้ฟันของเราแข็งแรง อีกทั้งเวลาที่เราขัดพวกหินปูนออกไปจากฟัน ฟลูออไรด์นี่แหละที่จะเป็นตัวเข้าไปแทนที่ในเนื้อฟัน ดังนั้นครั้งต่อไปที่จะซื้อยาสีฟันก็อย่าซื้อตามความเคยชินล่ะ อ่านฉลากด้านข้างกล่องนิดนึงว่ามีเขึยนส่วนผสมของฟลูออไรด์บ้างหรือเปล่า เพื่อสุขภาพฟันที่แข็งแรงนะครัช

7. น้ำอัดลม น้ำหวาน คือเพื่อนรักของฉัน

รูปภาพ:http://www.self.com/wp-content/uploads/2013/02/DietSodaModel-300.jpg

ดูซิว่าตอนนี้บนโต๊ะเธอมีเครื่องดื่่มพวกนี้อยู่บนโต๊ะอยู่หรือเปล่า ถ้ามีล่ะก็ฟันของเธอกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงทีเดียว

ดื่มเข้าไปน้ำอัดลมเอย น้ำหวานเอย น้ำตาลทั้งนั้นเลยล่ะเธอ โซดาก็จะทำลายเนื้อฟัน แถมน้ำตาลก็ทำให้ฟันผุ


ทันตแพทย์มักแนะนำว่าหากดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเสร็จแล้วก็ควรจะแปรงฟันเสียด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง