ออก ไม่ออก⁉ 5 เหตุผล 'ที่ควรออกจากงาน' เจอแบบนี้ คิมจะไม่ทน!
งานที่ทำอยู่เหมาะกับเรามั้ย จะทนทำ หรือรีบเปลี่ยนงานใหม่ ช่วยแถลงไขทีเถอะ!
เผยแพร่: 30 ส.ค. 2561 16:21 น.
Views: 3,225
รหัสบทความ: 53854
พอได้ดูเรื่อง
What's Wrong with secretary kim
แล้ว ก็รู้สึกขึ้นมาอย่างหนึ่งนะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอิจฉา อันนี้อิจแน่นอนอยู่แล้ว 555 แต่อีกเรื่องที่ฉุกคิดคือ
อะไรที่ทำให้คนเราถึงตัดสินใจลาออกจากงานได้อย่างเฉียบพลัน
ที่แม้แต่บอสหล่อๆ หรือเงินเยอะๆ ก็ไม่สามารถฉุดรั้งได้ ซึ่งบอกเลยว่า ใครที่เจองานที่อยู่ได้นานๆ นี่คือโชคดีมากๆ เลยทีเดียว
เชื่อว่ามีหลายคนที่เจองานตรงกับที่ต้องการแล้ว และรู้สึกว่า
จะสามารถอยู่กับงานนี้ไปได้อีกเป็นสิบๆ ปี ยี่สิบปี
ในขณะเดียวกัน
บางคนอาจจะยังตัดสินใจไม่ถูกว่างานที่ทำอยู่มันเหมาะกับเรามั้ย
บางทีเราอาจจะรู้สึกว่าก็พอทำได้อยู่ แค่ไม่ได้รู้สึกสนุกเท่านั้นแหละ ไอกุ...
การต้องมาทำงานที่มันไม่ใช่กับตัวเราเอง เป็นพิษทางใจมากเลยนะ
ถ้าใครยังมีโอกาส ให้ลองพิจารณาจาก
5 เหตุผล ที่ควรออกจากงาน
บอกได้คำเดียวว่า คิมจะไม่ทน!
1 # งานที่ทำ เริ่มไม่ทำให้สนุกอีกต่อไป
งานที่เราได้รับมอบหมายในช่วงแรกๆเราอาจจะยังรู้สึกตื่นเต้นกับมันอยู่ถึงแม้จะไม่ใช่ทางของเราก็ตามเพราะว่ามันเป็นงานช่วงแรกที่เราได้ลองก็เลยทำให้เรารู้สึกท้าทายในการทำงานซึ่งความรู้สึกท้าทายนี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับมันด้วย
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่คุณเริ่มรู้สึกว่างานของคุณมันช่างน่าเบื่อ ซ้ำซาก จำเจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยทุกครั้งที่ถึงวันจันทร์เซ็งทุกครั้ง ที่ต้องตื่นมาและพบว่าจะต้องเจอกับงานอะไรจนเริ่มทำให้รู้สึกหมดไฟเหมือนเป็นซึมเศร้าถ้าเป็นแบบนั้นคุณควรออกมาซะ เพื่อจะได้มีโอกาสไปทำอะไรที่ใช่ แล้วคุณจะรู้ว่าการได้ตื่นมาลุยกับงานที่ชอบ เป็นความรู้สึกที่ดีขนาดไหน!
2 # งานกับชีวิต เริ่มไม่สมดุล
งานทำให้เรามีเงินก็จริง แต่งานก็ไม่ใช่ชีวิตเช่นกันถ้าหากว่างานที่คุณทำ ต้องแลกกับการเสียสละมากมายไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกาย หรือเวลาส่วนตัวของคุณเดี๋ยวก็ต้องล่วงเวลา รวมๆ แล้วเหมือนทำงานวันละ 12 ชั่วโมง เดี๋ยวก็โดนเรียกไปวันหยุด โดยเฉพาะคนที่มาทำงานต่างถิ่น เป็นแบบนี้แทบไม่มีเวลากลับบ้าน ไม่มีเวลาให้ครอบครัวไม่ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง สังคมส่วนตัวเองเลยแบบนี้ ก็ควรจะออกมาซะดีกว่า
จำไว้อย่างเดียวว่าถึงเราจะทุ่มเททำงานจนล้มป่วย เขาก็หาคนมาแทนเราได้เราก็แค่ฟันเฟืองตัวหนึ่ง ฉะนั้น ชีวิตเป็นของเรา เราต้องควบคุมด้วยตัวเองอย่าให้งานมาครอบงำชีวิตเด็ดขาด
3 # อยากให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่รัก
การทำงาน ถ้าหากเราทำเพื่อรับเงินเฉยๆเราก็จะได้เงิน แต่จะเสียตัวตนของตัวเองไปซึ่งจริงๆ แล้ว งานที่เราทำควรจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง และช่วยเติมเต็มตัวเราได้จากการศึกษาพบว่าถ้าหากเราผูกพันกับงานที่ทำ เราก็จะสามารถสร้างงานที่ดีและแตกต่างขึ้นมาได้ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย ถ้าหากคุณรู้สึกว่างานที่ทำมันกัดกร่อนความเป็นตัวคุณไปทีละนิดๆจนแทบจะลืมไปแล้วว่าสิ่งที่เรารักคืออะไร และคุณก็รู้สึกว่าไม่สามารถทิ้งสิ่งที่ตัวเองชอบไปได้เพียงแค่เพราะงานก็ไม่ต้องรีรอ หาโอกาสเหมาะๆ แล้วออกมาตามความฝันได้เลย
4 # งานไม่รับกับสิ่งที่ต้องการ
วันเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยนไปด้วยจากตอนแรกที่เราเลือกงานนี้ เราอาจจะยังไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตมากมาย แต่นานวันเข้า คุณมีครอบครัว มีลูก มีคู่ชีวิตมีแปลนใหม่ๆ เข้ามาที่จะทำร่วมกันอาจจะมีแผนย้ายที่อยู่อาศัยแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีงานปัจจุบันอยู่ในข้อนี้ให้เราจำไว้ว่า ชีวิตเรามีแค่ชีวิตเดียวเราจะทิ้งชีวิตที่ต้องการ เพียงเพราะงานที่ทำไม่ได้นะถ้าหากงานที่ทำมันไม่สัมพันธ์กับสิ่งที่ต้องการ ก็รีบย้ายงานใหมให้สัมพันธ์กับชีวิตก่อนที่จะสายไปดีกว่านะ
5 # สภาพแวดล้อมที่ทำงาน ช่างกัดเซาะจิตใจจริงๆ
จริงๆ แล้วนี่
ควรเป็นสาเหตุหลักๆ ที่เราคำนึงถึงเลย
เพราะถึงแม้ว่างานที่เราทำ
เงินจะไม่เยอะมาก แต่เพื่อนร่วมงานดี
หัวหน้าดี อยู่กันแบบเป็นมิตรเป็นครอบครัว ก็ทำให้เราสามารถ
ทำงานต่อไปได้เรื่อยๆ
โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจเท่าไหร่นัก
ในทางกลับกัน
ถ้าหากสภาพในที่ทำงานมันทำให้เรารู้สึกแย่
ไม่ว่าจะเป็นสภาพที่ทำงานที่ดูเหมือนจะเป็นตึกร้าง ผู้คนในบริษัทแก่งแย่งชิงดี หรือบางทีก็ชอบคุยกันแบบตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
จนรู้สึกว่าทำงานๆ อยู่ อาจจะกลายเป็นบ้าลุกขึ้นมาเต้นรำได้เลย
หนำซ้ำหัวหน้าก็เป็นอะไรไม่รู้ ชอบมานั่งจับผิดลูกน้อง
บอกเลยว่าไม่ต้องคิด
อยู่ในที่แบบนี้นานๆ เข้า
เหมือนได้รับมลพิษทุกๆ วัน
จนทำให้รู้สึกเบื่อโลกไปเลยก็ได้นะ
ถ้าเจอแบบนี้ล่ะก็...หนีไป!
การเลือกงานก็เหมือนเลือกคนรักถ้ามันไม่ใช่ ต่อให้ฝืนอยู่กันไป ยังไงก็ไม่มีความสุข
ถ้าหากไม่ได้มีความจำเป็นเรื่องเงินจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเลือกก็ได้
ก่อนอื่นต้องทบทวนให้ดี ว่าทีเราชอบจริงๆ รักจริงๆ คืออะไรกันแน่
เพราสิ่งทีเป็นมงคลในชีวิตมากที่สุด รองจากการไม่มีโรคภัย ก็เห็นจะเป็น
การได้ทำงานในสิ่งที่ชอบนี่แหละนะ!
