สวัสดีค่าาา สาวๆSistaCafeทั้งหลาย (*≧ω≦*)

หลังจากการเดินทางที่แสนยาวนาน ล้มลุกคลุกคลานกันมาหลายเดือน ในที่สุดก็ถึงปลายทางซะที!

สาวๆ บางคนก็ผอมลงจนน่าตกใจ น้ำหนักที่ทำให้เราร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ก็ค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ขึ้นตาชั่งด้วยความมั่นใจ ว่าหุ่นสวย เฟิร์ม เป๊ะแน่นอน!

แต่บางคนที่ก็ทำตามทริคทุกอย่าง แต่ทำไมไม่ผอมลง หรือเผลอๆ อ้วนขึ้นอีก? ลองหาคำตอบในบทความนี้กันค่ะ

เมื่อผอมแล้ว เกมยังไม่จบนะคะ ก็ต้องคุมน้ำหนักให้คงที่กันด้วย!

วันนี้เราจะมาแนะนำ

กฎเหล็กที่ห้ามทำ หากไม่อยากกลับไปอ้วน, กฎที่ควรทำเพื่อหุ่นสวยไปตลอด และ Diet Review ถึงปัญหาหลักๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างไดเอทของสาวๆ หลายคน

ไปค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้!

3 กฎเหล็ก ห้ามทำ หากไม่อยากกลับไปอ้วนอีก!


1. กลับไปมี 'พฤติกรรมการกินแบบเดิมๆ'

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/f699930e11aff661e664452b17558436/5C30D544/t51.2885-15/e35/40000402_956209117904505_2219280803811033088_n.jpg

ก็รู้กันอยู่ละเนอะ ว่าทำไมถึงอ้วน เพราะเราชอบกินของหวาน ของมัน ของทอด แคลอรี่สูงๆ ไม่กินผักผลไม้ถูกต้องมั้ย?

ถึงจะไดเอทจนหุ่นผอมเพรียวแล้ว ก็ใช่ว่าจะกลับไปซัดพิซซ่าวันละถาด น้ำอัดลมวันละสองขวด บิงซูวันละชามได้เหมือนเดิมนะคะซิส กลับไปอ้วนอีกเหมือนเดิมชัวร์!

ของอ้วน จะกินตอนผอมหรืออ้วน ก็อ้วนอยู่ดีค่ะ! ควรลดละเลิก เพื่อรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่ดีด้วย ควรกินอาหารแคลอรี่พอดีๆ ที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่แทน

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องงดไปเลย ถ้าอยากให้รางวัลตัวเองจริงๆ ก็กินได้ แต่ไม่ควรเกินเดือนละครั้ง และกินแค่มื้อเดียวแบบอิ่มพอดีๆ ก็พอ

2. เลิกออกกำลังกายไปเลย

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/d5670fcab9ab82742481b8893a559cec/5C34856D/t51.2885-15/e35/19624350_1288953507870465_430539981451165696_n.jpg

หลายคนกลับมาตกม้าตายเพราะข้อนี้ค่ะซิส! ไปวิ่ง เล่นโยคะ ยกเวทแทบตาย พอเริ่มกลับมาผอม โยนบัตรสมาชิกฟิตเนสทิ้งเลยจ้า กลับมานอนเอกเขนก เคี้ยวขนมกร้วมๆ หน้าทีวีเหมือนเดิม

ถ้าเป็นแบบนี้ เตรียมบอกลาเสื้อผ้าไซส์ใหม่ได้เลย เดี๋ยวก็กลับมาเป็นสาวจ้ำบ๊ะอีกรอบ!

เราไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักๆ วันละ 2-3 ชั่วโมง เหมือนช่วงไดเอทก็ได้ค่ะ ลดเลเวลความเข้มข้นลง เหลือวันละ 45 นาที-1 ชั่วโมง สัปดาห์ละสามวันก็เพียงพอ

ที่จะคุมไม่ให้น้ำหนักขึ้น และไม่ทำให้เธอเครียดจนเกินไปด้วยค่ะ

3. มีทัศนคติ 'ด้านลบ' เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/adfecea3f2be200fb05009b98a24b595/5C164C1F/t51.2885-15/e35/29740737_100640567462443_1033928860145549312_n.jpg

บางคนไม่ได้อยากลดจริงๆ หรือลดผิดวิธี ลดหักโหม ช่วงไดเอทจะไม่มีความสุขเลย!

เช่น ต้องลดด่วนเพื่อไปงานแต่งงาน งานเลี้ยง ถ่ายแบบ นัดเดทกับแฟน หรือสถานการณ์ที่ต้องเจอคนเยอะๆ จะให้ใครเห็นพุงไม่ได้ เลยดื่มแต่น้ำเปล่า กินข้าววันละช้อน เพื่อให้ลดลงเร็วๆ แต่ละวันที่ผ่านไปเหมือนนรก ทรมานร่างกายเหลือเกิน จบงานเมื่อไหร่จะกลับไปกินให้หนำใจแน่ -*-

ถ้าเธอคิดแบบนี้ แสดงว่าเธอกำลังมี "ทัศนคติด้านลบ" กับการไดเอทอยู่ การลดน้ำหนักไม่ใช่การจำศีล บำเพ็ญทุกรกิริยานะคะ แต่เป็นไลฟ์สไตล์ต่างหาก

ปรับความคิดใหม่ รู้จักเลือกกินอาหารที่อร่อยและแคลอรี่น้อย แทนจั๊งค์ฟู้ดน้ำมันเยิ้ม กินให้ติดเป็นนิสัย ปัญหานี้ก็จะหายไปอย่างแน่นอน

3 กฎเหล็ก ควรทำ เพื่อให้หุ่นเป๊ะไปนานๆ!


1. เปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้มี 'คุณภาพ' มากขึ้นกว่าเดิม

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/a3bd400dc5b527e5a8c658c8fb72cbb1/5C2299FA/t51.2885-15/e35/18888544_1881995475398281_3193326992237789184_n.jpg

ผ่านการไดเอทมาหลายสัปดาห์ หลายเดือน เราเชื่อว่าเธอต้องซึมซับความรู้เกี่ยวกับ "อาหารเพื่อสุขภาพ" ที่ถูกต้องมาไม่มากก็น้อย

วัยรุ่นวัยเรียนอย่างเรา ไม่สามารถจะกินคลีน 100% ได้อยู่แล้ว #ไม่ใช่ฤาษีนะเออ ยังไงก็ต้องกินอาหารที่มีรสชาติกันบ้าง แค่เลือกกินให้ถูกวิธีเท่านั้น

จากเมื่อก่อนที่ดื่มน้ำอัดลม เคี้ยวขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด คุกกี้ ก็เปลี่ยนมาเคี้ยวถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง กินผลไม้สดที่มีน้ำตาลแทนขนม

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอจะชินกับรสธรรมชาติ เผลอๆ จะกลับไปกินขนมจุบจิบไม่ได้แล้ว เพราะลิ้นไม่คุ้นกับรสจัดเสียแล้ว #วิถีคนผอม

2. ทำให้ 'ตารางออกกำลังกาย' เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/304fe12541048fd5a1f2ac0e3b3904c6/5C3293D0/t51.2885-15/e35/37055562_203532866996899_8800345447852933120_n.jpg

จากที่ออกกำลังอย่างบ้าคลั่ง ก็ค่อยๆ เปลี่ยนการออกกำลังนั้น เป็นกิจวัตร / ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันแทน

เช่น ถ้าเธอเริ่มไดเอทจากการวิ่งบนลู่ จนเบื่อแล้ว แต่ยังอยากขยับร่างกายอยู่ ก็เปลี่ยนจากไปฟิตเนส ไปวิ่งรอบสวนแทน โหลดเพลงใส่มือถือ วิ่งไปฟังไป หรือใครเต้นเก่ง ก็ไปเข้าคอร์สเต้นแอโรบิก เต้น K-pop ตามสถาบันทั่วไปก็ได้ ได้ทักษะเพิ่ม แถมผอมอีก 2 in 1 เวอร์ๆ!

หรือใครปั่นจักรยานในฟิตเนสจนเบื่อแล้ว ก็ออกสนามจริงเลยค่ะซิส!ไปปั่นในสวนของหมู่บ้านแทน

ถ้าฟิตจัด เลื่อนขั้นจากจักรยานทั่วไป เป็นจักรยานเสือภูเขา เตรียมลงแข่งเลยก็ยังได้! ถ้าทำได้แบบนี้ เธอจะไม่มีวันลืมออกกำลังกาย เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอไปแล้ว

3. มองว่าการไดเอทคือ 'ไลฟ์สไตล์' ไม่ใช่ 'การทรมานร่างกาย' ต้องทำได้ตลอดชีวิต!

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/d08dc19507b4ec9cc5b2e7dca15135ac/5C014B7E/t51.2885-15/e35/36148873_1694882237298819_7288015870121476096_n.jpg

หรือเรียกสั้นๆ ว่า เธอต้องมี ' ทัศนคติด้านบวก ' เกี่ยวกับการลดน้ำหนักค่ะ

ส่วนใหญ่คนจะแขยงคำว่าไดเอท เพราะอาจผ่านการลดแบบเข้มๆ โหดๆ กำหนดเวลาสั้นๆ ที่แทบเป็นไปไม่ได้ ในที่สุดก็ล้มเหลว หรือผ่านแบบใกล้หมดสภาพ ไม่นานก็กลับมาอ้วนอีก

เธอต้องเปลี่ยน Mindset ใหม่ว่า การลดน้ำหนัก ไม่ใช่การทำให้หุ่นผอมเป็นนางแบบ แต่ทำให้เธอ กลายเป็นเธอเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น

สุขภาพแข็งแรง ยึดแค่คุมอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วร่างกายจะปรับสมดุลของมันเอง ไม่ต้องกดดันว่าจะต้องลดเท่านี้ๆ ในเวลาเท่านี้ ทำไปเรื่อยๆ รับรองว่าทำได้ตลอดชีวิตแน่นอน


ทำไมลดไม่ลง! ปัญหาหลักๆ ที่มักเกิดขึ้นระหว่าง 'ลดน้ำหนัก'


1. ภาวะน้ำหนักคงที่ ( Hit The Plateau )

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/9733687fb22040c40e259e8df6090dac/5C2C8D40/t51.2885-15/e35/39407722_335714060537459_615512678017794048_n.jpg

สาวๆ อาจไม่คุ้นหูกับชื่อนี้ แต่เธอต้องเคยเจอภาวะที่ ลดน้ำหนักไปสักพัก แล้วตัวเลขบนตาชั่งไม่ขยับลงอีกแล้ว! T^T

' Hit The Plateau ' คือการที่ร่างกายเริ่มชินกับจำนวน แคลอรี่อาหาร + ความเข้มข้นของการออกกำลังกายของเราแล้ว ทำให้น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงอีกต่อไป

วิธีแก้ง่ายๆ คือ ต้องเพิ่มความเข้มข้น หรือเปลี่ยนชนิดอาหาร / การออกกำลังกาย เช่น จากที่ออกกำลัง 1 ชั่วโมง > 1 ชั่วโมงครึ่ง, จากที่กินขนมจุบจิบสองมื้อ > ลดเหลือกินแค่มื้อเดียว เป็นต้นค่ะ


2. ภาวะ Binge Eating Disorder ( พฤติกรรมการกินผิดปกติ )

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/b95dde0e1d6ea6ff8ade89fa1f962c37/5C39F57E/t51.2885-15/e35/19227081_1442818089129761_1368692866192244736_n.jpg

เมื่อแคลอรี่รับเข้า-เบิร์นออก ของสาวๆ ไม่สมดุลกัน ( กินน้อยไป ออกกำลังกายมากไป ) เธอจะทนได้แค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น ถึงจุดหนึ่งร่างกายจะทนไม่ไหว สาวๆ จะสติแตก

กินไม่หยุด กินเกินกว่าร่างกายต้องการ บางคนกินจนอาเจียนออกมา พอตั้งสติได้ก็กลับไปอดใหม่ แล้วก็วนลูปอีกรอบ แบบนี้เรียกว่า ' Binge Eating Disorder ' นั่นเอง

วิธีแก้คือ ถ้าไม่กินมากขึ้น ก็ต้องออกกำลังกายให้น้อยลง ทางที่ดีคือต้องกินให้ไม่ต่ำกว่าค่า BMR ( ส่วนใหญ่ถ้ากินพอดี ก็จะไม่เกิดภาวะนี้แต่แรก )

เพื่อให้การไดเอทได้ผลอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุดกลางคันเพราะการ ' กินแหลก ' ของเธอค่ะ

3. เลี่ยงงานสังคม กินดื่ม ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ / เจ้านาย ไม่ได้

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/98542a7932fc25699f84431d3754d8ee/5C2BDEAE/t51.2885-15/e35/31720512_166315804044131_9045353579535138816_n.jpg

บางคนนี่กำลังใจเต็มเปี่ยมเชียว เตรียมอาหารคลีนได้ ออกกำลังได้ไม่มีปัญหา แต่ดันเป็นคนอีเวนต์เยอะ! แก๊งเพื่อนหลายกลุ่ม เดี๋ยวก็มีนัด เดี๋ยวก็มีปาร์ตีั้ งานสังคมไม่ขาด

จะปฏิเสธด้วยคำว่า "คือไดเอทอยู่อะ" ก็กลัวจะไม่มีเพื่อนคบ สรุปไปทุกงาน อดใจไม่ไหว กินไปกับเค้าด้วย น้ำหนักก็เลยค้างเติ่ง ไม่ลงสักที #ก็กินเติมตลอดนี่คะคุณ

วิธีแก้ก็ไม่ยาก ไม่ได้ให้บอกปัดเพื่อนนะ! แต่ต้องรู้จักเลือกกินค่ะ เช่น

ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลม 0 kcal แทนแอลกอฮอล์, ไม่กินเนื้อติดมัน, กินแค่พออิ่ม

ทริคคือ ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนไปงาน กระเพาะจะได้เหลือพื้นที่ในการกินน้อยลง

เท่านี้ก็ยังเพื่อนเยอะ น้ำหนักก็ลดจ้า


4. เกิดความเครียดสะสม / อ้างเหนื่อย ไม่มีเวลา ทำให้ท้อ เลิกไดเอทไปซะดื้อๆ

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/8689cc9c32c5aeab66488d65eefd7e5d/5C2F5AA7/t51.2885-15/e35/30086327_362925430892983_7617269716595245056_n.jpg

ข้อนี้มักจะเกิดกับสาวๆ ที่น้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ ต้องใช้เวลาลดนาน อาจหลายเดือนหรือเป็นปี เมื่อลดไปได้ระยะหนึ่ง ( ส่วนใหญ่จะช่วงครึ่งทางนี่แหละ )

หากขาดแรงบันดาลใจ หรือแพชชั่นที่แข็งแกร่งจริงๆ ความเครียดสะสมที่ไม่ได้กินขนมอร่อยๆ เท่าที่ต้องการ จะปะทุขึ้นจนเธอท้อแท้ บางคนก็เลิกลดเอาซะดื้อๆ เพราะใจไม่สู้แล้ว กลับไปกินง่ายกว่าเยอะ!

เรื่องนี้เราคงช่วยได้แค่ว่า เธอต้องหาจุดหมายที่ชัดเจน ทำให้รู้สึกอยากลดเพื่อไปถึงปลายทางได้จริงๆ

เช่น

ลดเพื่อสุขภาพ หากไม่ลดอาจไขมันอุดตันถึงแก่ชีวิต, ลดเพื่องานรับปริญญา งานแต่งงานที่มีแค่ครั้งเดียวในชีวิต

เป็นต้น หากท้อก็นึกถึงว่า เราลดทำไม? เราจะมีกำลังใจ ไม่หลุดจากเส้นทางไปง่ายๆ ค่ะ

5. เพิ่งรู้ว่า ตัวเองเป็นโรคทางพันธุกรรม ( เช่น ไทรอยด์ )

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/498b7ae7e1510f98eac6b26cc7843c84/5C38A99C/t51.2885-15/e35/35574423_633121230385465_7739685746344198144_n.jpg

ที่สาวๆ บางคนบอกว่า " ทำทุกอย่างแล้ว ทำไมยังอ้วนอยู่ล่ะ? " บางทีก็ไม่มีอะไรผิดเลย เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ล้วนๆ!

เช่น โรคทางพันธุกรรม ( ไฮโปไทรอยด์ ), ผลข้างเคียงจากการกินยาบางตัว เช่น ยาคุม ยารักษาโรคบางชนิด หรือคนที่กินยาลดความอ้วนหลายครั้ง จนระบบเผาผลาญพังถาวรไปแล้ว เป็นต้น

วิธีแก้เบื้องต้น เราแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ

-------------------------------------

เอาล่ะ คิดว่าน่าจะครอบคลุมทุกอย่างของการลดน้ำหนักขั้นพื้นฐานแล้ว  ู^ ^ ถ้าสาวๆ อ่านจบทั้งหมดนี้แล้ว ก็ถือว่าสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Diet The Series อย่างสมบูรณ์แล้วล่ะค่า!


ดีใจด้วยกับหุ่นใหม่ ชีวิตใหม่ แต่ใช่ว่าลดแล้วจะกลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมได้เน้อ ต้องปรับให้สมดุลกับร่างกาย ลดขนม เพิ่มการกินอาหารคลีน ค่อยๆ ทำไปไม่ต้องฝืน ในที่สุดมันจะเป็นวิถีชีวิตของเธอไปโดยปริยาย และจะไม่มีวันกลับไปอ้วนอีกอย่างแน่นอนค่ะ

ไม่ว่าสาวๆ จะอ่านแล้วลดได้จริง หรืออ่านเพื่อเป็นไอเดียไว้ก่อน เราก็ขอส่งกำลังใจให้ทุกคน ใครที่ผอมแล้วก็ยินดีด้วย ใครกำลังลดอยู่ก็สู้ๆ ขอให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการสำเร็จนะคะ #ฉันจะผอม #เราจะผอมไปด้วยกัน!

-------------------------------------