9 do&don't ความแมนของผู้หญิงแบบไหนที่ผู้ชายชอบ

แม้ว่าผู้ชายก็ยังจะชอบความอ่อนโยนของผู้หญิง แต่ก็ใช่ว่า ' ความแมน ๆ ห้าว ๆ ' จะไม่ใช่ทางที่ผู้ชายชอบเลย ปัจจุบันเป็นสไตล์ที่ผู้ชายหลายคนชอบมากด้วยซ้ำ เพราะเป็นสไตล์ที่ดูแล้วคุยกันเข้าใจง่าย ไม่ต้องอ้อมค้อมเยอะ

แต่...ก็ใช่ว่าเราจะสามารถแมน ๆ กันได้ทุกเรื่องเสมอไป ของแบบนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง

#1 พูดหยาบคายได้ แต่ต้องรู้กาลเทศะ

การพูดคำหยาบคายใส่กัน ไม่ได้แปลว่าทุกสถานการณ์จะหมายถึงความจริงใจ เป็นกันเอง ขึ้นกับที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ และสิ่งแวดล้อมของแต่ละคนด้วย บางคนก็ชอบที่จะให้พูดกันแบบนี้ เพราะสนิทกันตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อนจนกระทั่งเลื่อนมาเป็นแฟน บางคนแม้ว่าจะมีเพื่อนฝูงที่คุยกันหยาบคายตามประสาผู้ชาย แต่ก็อยากฟังแฟนตัวเองพูดเพราะ ๆ หวาน ๆ บ้าง ของแบบนี้ขึ้นกับการสังเกตกันและการตกลงกันให้ดีค่ะ

#2 กล้าลุยในสิ่งที่เขาไม่กล้า

ความแมนของเราจะดูน่ารักขึ้นมาทันที เมื่อเราใช้มันในสิ่งเล็กน้อยที่เขาไม่กล้า เช่น เขากลัวแมลงสาบ แต่เรากล้าที่จะตีมันแล้วกวาดมันไปทิ้ง, เขากลัวความสูง แต่เรากล้าที่จะขึ้นไปเอาของที่ค้างไว้บนที่สูงให้เขาได้

แต่มันจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าทันที หากเราทำแล้วดูถูกเขา เช่น เราตีแมลงสาบแล้วเอาไปทิ้งได้ แต่ด่าเขาเสียหายว่าเป็นผู้ชายประสาอะไรกลัวกับเรื่องแค่นี้ฮัลโหล! ตั้งสตินะคะความกล้าหาญของเรา จะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมได้ก็ต่อเมื่อเราทำแล้วไม่ลำเลิกบุญคุณกัน หรือทำแล้วไปทำร้ายจิตใจเขาค่ะ การที่เขากลัว อาจเป็นเพราะเขามีปมกับสิ่งนั้นมาก ๆ จนกระทบต่อชีวิตของเขา ถ้าเราไม่เข้าใจ เราก็อย่าพูดทำร้ายจิตใจใครจะดีกว่า

#3 เผชิญหน้ากับผู้ใหญ่

เราจะเป็นวีรสตรีขึ้นมาทันที หากเราเป็นพวกรักความยุติธรรมเข้าสายเลือด ชนิดที่ว่ากล้าปะทะกับผู้ใหญ่ที่ทำไม่ถูกต้อง โดยไม่สนเรื่องความอาวุโส เน้นความถูกต้องไว้เป็นอันพอ

แต่...ถ้าผู้ใหญ่คนนั้นเป็นผู้ใหญ่ที่แฟนเราเคารพมาก มีอิทธิพลต่อชีวิตของแฟนเรา ต้องคิดให้ดีก่อนออกหน้าแทนแฟนนะคะ เพราะถ้าผิดจังหวะปุ๊บ แฟนเราอาจลำบากกว่าเดิมอีก

#4 กล้าทวงความยุติธรรม

เราจะกลายเป็นแม่ทูนหัวที่น่าบูชาทันทีที่เรากล้าไปเผชิญหน้ากันตรง ๆ กับคู่กรณี หากเราเห็นอะไรที่ดูแล้วไม่แฟร์ แฟนเราโดนเอาเปรียบแต่ไม่กล้าเถียง แต่... ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคิดให้ดีก่อนลุยนะคะว่าผลดีผลเสียเฉลี่ยแล้วออกมาเป็นอย่างไร อย่าไปแบบไม่มีแผนการอะไรเลยหรือนึกจะไปก็ไป อารมณ์มาก็ไป เลือดขึ้นหน้าก็ไป การทำโดยใช้อารมณ์เหนือเหตุผล มีแต่พังกับพัง และอาจเป็นการเรียก" งานเข้า "ให้กับตัวเราและแฟนเราได้

#5 กล้าเคลียร์กันตรง ๆ

เปิดอกคุยแมน ๆ ไม่ต้องเสียเวลางอนไปงอนมา แบบนี้สิผู้ชายชอบมาก! แต่...ต้องดูความพร้อมของอีกฝ่ายด้วยนะคะว่ามีอารมณ์พร้อมแค่ไหน มีเวลาว่างสะดวกไหม อย่าคิดบุกแบบเอาแต่ใจตัวเอง สังเกตกันก่อนเคลียร์ ถือว่าไม่เป็นการเสียเวลาอะไรมากหรอก

#6 ไม่คิดเล็กคิดน้อยว่านั่นของผู้หญิง นี่ของผู้ชาย

ยึดถือกฎความเท่าเทียมกัน และการเป็นคู่กันที่คอยซัพพอร์ทกันเหมือนเพื่อน เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ต่อความสัมพันธ์ เพราะบางทีแล้วการแบ่งแยกชาย-หญิง เช่น ผู้หญิงต้องทำงานบ้าน, ผู้หญิงต้องพูดเพราะ, ผู้ชายต้องห้ามร้องไห้ อดทนได้ทุกเรื่อง ก็ดูจะเป็นการผลักภาระที่ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ การตกลงกันดี ๆ ช่วยกันแบ่งรับแบ่งสู้ จะทำให้ต่างคนต่างรู้สึกว่าไม่เสียเปรียบหรือน้อยใจกันภายหลัง เป็นเรื่องน่ารักดีมาก

แต่...ก็ใช่ว่าเราจะไม่แบ่งแยกกันเลยนะคะ บางเรื่อง ก็ต้องมีขอบเขตเรื่องเพศกันบ้างเนาะ เช่น ประจำเดือนของผู้หญิง จะให้ผู้ชายมาร่วมรับผิดชอบด้วยหรือรู้เรื่องด้วยก็เป็นไปได้ยาก แค่ให้เขาเข้าใจว่าเรามีภาวะแบบไหนก็พอ และในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ต้องไปสงสัยใคร่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเรื่องผู้ชายที่เขาต้องการจะคุยกับผู้ชายด้วยกันเท่านั้น

#7 อย่าแมนจนแทบจะสิงร่างเขาได้แล้ว

เป็นเรื่องน่ารัก ถ้าเราพยายามเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่แฟนเราชอบทั้งที่ขัดกับบุคลิกเราก็ตาม เช่น เล่นเกม, ดูบอล, ออกทริปกับก๊วนบิ๊กไบก์, ขี่รถบิ๊กไบก์เองได้ แต่จะกลายเป็นเรื่องน่าอึดอัดทันทีที่เราเข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่าง แต่งตัวก็ยังทำตามเขา หายใจเข้าออกก็ทำตามเขาไปหมด เว้นพื้นที่สำหรับความอ่อนโยนและความเป็นตัวของตัวเองบ้างจะดีมากค่ะ ทำแบบนั้นแฟนเราจะอึดอัด รำคาญใจมาก อีกนิดเดียวจะสิงร่างเขาอยู่แล้วเชียว

#8 คุยข่าวสารบ้านเมืองแบบจริงจังได้ไม่แพ้ข่าวบันเทิง

ผู้หญิงโดยทั่วไปมักจะสนใจเรื่องแฟชั่นและข่าวบันเทิงเป็นหลัก แต่ถ้าสนใจข่าวที่ค่อนข้างจริงจัง มีความเป็นวิชาการ เช่น การเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, วัฒนธรรม, ยานยนต์, กีฬา เราจะคุยกับแฟนเราได้สนุกมากขึ้น เปิดโลกทัศน์ได้กว้างไกลขึ้น ไม่เชื่อก็ลองสังเกตดูสิว่าแฟนเราสนใจเรื่องแบบไหน ถ้าเราพอจะมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ที่เขาชอบ ( และผู้หญิงทั่วไปไม่ได้สนใจอะไรมาก ) จะเห็นได้ชัดเลยว่าบทสนทนามันดูสนุกกว่าการที่เราพูดแต่เรื่องบันเทิงแล้วเขานั่งฟังเสียอีก

#9 รู้ทัน รู้ใจ ไม่เชื่องช้าหรือว่าง่ายเกินไป

หลายคู่ตอนเป็นแฟนกันแล้ว ชีวิตดูจืดกว่าตอนจีบกัน สาเหตุหนึ่งก็เพราะตอนจีบกันต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่รู้เท่าทันกันมาก ถ้าไม่อยากเหี่ยวเฉา ก็ต้องเพิ่มสีสันด้วยการ' รู้ทันกัน 'เสริมไปกับ' รู้ใจกัน 'เพราะการรู้ใจกันอย่างเดียว รู้ว่าเขาชอบกินอะไร ชอบไปไหน แล้วหาของขวัญที่เกี่ยวกับความชอบของเขามาให้เรื่อย ๆ มันก็ดูเป็นความโรแมนติกที่หวานน้อยไปหน่อย

การรู้ทันกันก็คือ การตามมุกได้ทัน ตามเรื่องได้ว่าแค่เขาเอ่ยมานิดนึงก็พอจะเดาได้ว่าเราต้องต่อบทสนทนาอะไร เหมือนมองตาก็รู้ใจ การสนทนาจะสนุกกว่าการพูดไปแล้วต้องหยุดให้เขาเวลาอธิบายไปเสียอีก ( ลองนึกภาพ สมมติเราเล่นมุกอะไรอยู่ แล้วคนฟังตามมุกได้ทัน โต้กลับได้ก็สนุก แต่ถ้าคนฟังตามไม่ทัน แล้วยังต้องอธิบายอีก หมดสนุกแย่ )  คนละอย่างกับการจับผิดนะจ๊ะ 555 การระแวงจนพยายามสะกดรอยตามว่าเขาจะทำอะไร ไปไหน นั่นไม่เรียกว่าการรู้ทันกันแต่อย่างใด 555

ความแมน ๆ ตรงไปตรงมา ทำให้ทุกอย่างชัดเจน มีความเร้าใจขึ้นมาก็จริง แต่อย่าลืมคงความเป็นตัวของตัวเอง และมีความเป็น " ผู้หญิง " อยู่บ้างนะคะ แฟนเราไม่ได้อยากได้ผู้ชายเพิ่มมาอีกคนหรอก เขาก็เป็นผู้ชายที่ยังต้องการความหวาน จ๊ะจ๋า คะขา เติมชีวิตบ้าง โดยเฉพาะทักษะการเป็นแม่ศรีเรือน ใครมีความสามารถในจุดนี้ด้วย รับรองค่ะว่ามัดใจแฟนให้อยู่กันนาน ๆ ได้แน่นอน ^^