ฮาโหลสาวๆ

ความทรมานใจอย่างหนึ่งของสาวๆ ที่กำลังไดเอทอย่างเรา ก็คือการอด หรืองดของหวานและของทอด

ใช่ไหมคะ โดนเฉพาะของทอด ของมัน นั้นถือว่าเป็นเรื่องระดับชาติ โหย...ก็ประเทศไทยนั้นเต็มไปด้วยของไก่ทอด ไข่เจียว บลาๆ แต่ละอย่างมีแต่น้ำมัน โดยเฉพาะของโปรดของเราอย่าง ' เฟรนช์ฟรายส์  ' นี้ล่ะ พอลดราคาทีก็ต้องรีบวิ่งพอไปกิน แต่พอไดเอทก็ห้ามทุกอย่างสิคะ ทรมานสุดๆ

แต่

ใครที่อยากกินเฟรนช์ฟรายส์ก็ไม่ต้องอดทนอีกแล้วค่ะ เพราะวันนี้เราเอาสูตรเฟรนช์ฟรายส์แบบ Healthy มาฝากกัน

บอกเลยว่าอร่อย ไม่อ้วน ( มาก ) เอาล่ะถ้าพร้อมเราก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนว่าเฟรนฟรายนี้มีต้นกำเนิดมาจากไหน มาจากประเทศฝรั่งเศสหรือเปล่านะ ไปค่ะ


รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/baked-sweet-potato-fries-16-doodle-crop.jpg

#ต้นกำเนิดเฟรนช์ฟรายส์

ฟังจากชื่อสาวๆ หลายคนยังคงเข้าใจว่า " เฟรนช์ฟรายส์  " ที่สุดแสนอร่อยนี้จะมีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ

ถึงแม้จะมีคำศัพท์ที่บ่งบอกถึงความเป็นฝรั่งเศสอย่างชัดเจน แต่เฟรนช์ฟรายนั้นมีต้นกำเนิดมาจากชาวเบลเยี่ยม


โดยสมัยก่อนชาวเบลเยี่ยมจะกินปลาทอดเป็นอาหารจานหลัก แต่อยู่ๆ ก็เกิดหิมะปกคลุมหนา ทำให้แม่น้ำเป็นผืนน้ำแข็งไปจนหมด ชาวเบลเยี่ยมเลยขาดแคลนปลา!!!

ดังนั้นพวกเขาจึงดัดแปลงโดยนำมันฝรั่งมาฝานเป็นแท่ง ๆ แล้วก็นำมาทอดกินแทนเนื้อปลา

ช่างคิดไปอีก

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2018-02/fries_620x330_51517901541.jpg

โดย

คำว่าเฟรนช์ (French) ก็คาดเดาว่าจะมาจากกริยา to french ที่แปลว่า ฝานเป็นแท่งยาว ๆ

คือมาจากคำว่า frenched and fried potato ต่อมาก็เหลือแค่ frenched and fries potato และเหลือแค่ french fries อย่างในปัจจุบันนี้เท่านั้นเอง โหย...เราก็อุตส่าคิดว่ามันมาจากประเทศฝรั่งเศสซะอีก เอาล่ะเมื่อเรารู้ที่มากันแล้วเราก็ไปดูส่วนผสมกันเลยดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าส่วนผสมง่ายมากๆ

ซึ่งนอกจาก

เฟรนช์ฟรายส์

แล้วถ้าให้ครบสูตรเราจึงของเพิ่มDippingSauce มาให้ทานคู่กันด้วย

นะคะ

รูปภาพ:http://gastrogays.com/wp-content/uploads/2016/11/sarah_nails_tabora.jpg

วิธีทำเฟรนช์ฟรายส์

รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/collage-11.jpg

อันดับแรก

ลอกมันฝรั่งออกและตัดตามยาววางลงในถ้วย ข้อสำคัญคือพยายามตัดให้ทุกๆ ชิ้นมีขนาดเดียวกัน

เวลานี้อาจจะใช้เวลาหน่อยนะคะหลังจากนั้นวางลงในชามที่มีน้ำแข็ง

และนำไปตั้งไว้ในตู้เย็นอย่างนน้อย 1 ชั่วโมง

แต่ทั้งนี้สาวๆ มีเวลามากหน่อยก็อาจจะเพิ่มเวลาจาก 1 ชั่วโมงเป็นข้ามคืนก็ได้ค่ะ เพื่อทำให้เวลามันเอาไปอบแล้วจะได้กรอบนอก นุ่มในนะคะ

รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/baked-sweet-potato-fries-5.jpg

หลังจากนั้นนำออกมาซับทิชชู่ ซับให้แห้งนะคะ แล้วให้เติมแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะลงในถุงพลาสติกแล้วเทลงในมันฝรั่งหวานเป่าอากาศเข้าไปในถุงและเขย่าเขย่า โดยมันฝรั่งควรจะเบา, พยายามทำให้ทุกชิ้นเคลือบกับอย่างอย่างสม่ำเสมอนะคะ ทั้งนี้สาวๆ สามารถเพิ่มแป้งข้าวโพดได้ตามความจำเป็นนะคะ

รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/baked-sweet-potato-fries-6.jpg

เอาล่ะถึงเวลาเอามาอบกันแล้วค่ะ นำมันฝรั่งที่เคลือบแป้งหมดแล้วมาวางลงบนแผ่นอบ เรียงเป็นแถวๆ และค่อยๆ โรยน้ำมันลงในถามอบ ให้ทั่วกันอย่างสม่ำเสมอนำมันฝรั่งไปอบใช้อุณหภูมิประมาณ 425 องศา F (232 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 20 นาที , แล้วนำออกมาพลิก, และอบอีกข้างอีก 20 นาทีแต่ถ้ายังไม่สุกสาวๆ สามารถอบต่อไปอีกเป็นเวลา 15 นาทีนะคะ แล้วก็นำมาโรยด้วยเกลือ เสิร์ฟร้อนกับซอสอะโวคาโด! ดังนั้นเราไปดูส่วนผสมของซอสดีกว่าค่ะ

รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/baked-sweet-potato-fries-10-crop.jpg

วิธีทำซอสอะโวคาโด

รูปภาพ:https://www.liveeatlearn.com/wp-content/uploads/2015/12/collage-2.jpg

นำส่วนผสมมาผสมให้เข้ากันอะโวคาโดมาผสมน้ำมะนาว กระเทียม ผักชีฝรั่ง และ jalapeno ผสมจนเข้ากันเพิ่มกรีกโยเกิร์ตและผสมต่อจนเนียนนอกจากนี้สาวๆ ยังสามารถเพิ่มนมสดลงไป เพื่อทำให้เนื้อซอสมีความชุ่มชื่นมากชึ้นตบท้ายด้วยเกลือและพริกไทย นะคะ

รูปภาพ:https://thegreedyvegan.com/wp-content/uploads/2017/02/Crispy-Sweet-Potato-Fries-007.jpg

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับสูตรอาหารที่เราเอามาฝากกันวันนี้

หวังว่าทุกคนคงจะชอบกันนะคะ ใครที่กำลังลดความอ้วน สาวๆ ก็อย่าลืมเอาไปทำกินกันนะคะ

เอาล่ะ...ครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ส่วนวันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย