สวัสดีค่าเพื่อน ๆSistaCafe

สาวอวบคนไหนที่เคยโดนคำครหาต่าง ๆ กับบ้างหรือเปล่าเอ่ย อย่างบางคนก็ล้อว่าอ้วนบ้างล่ะ ฮิปโปบ้างล่ะ ขาหมูบ้างล่ะ คำเหล่านี้เป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ วันนี้เราเลยจะชวนเพื่อน ๆ มาลดความอ้วนกัน ตามแบบฉบับของสาวสไมล์ ภาลฎาที่เคยอวบถึง 58 กิโลกรัม ด้วยส่วนสูง 159 เซนติเมตร รอบเอว 28 นิ้ว รอบสะโพก 38 นิ้ว ซึ่งปัจจุบันเธอมีน้ำหนักเพียงแค่ 40 กิโลกรัม ลดลงไปได้ถึง 18 กิโลกรัม เลยทีเดียว!!

มาคะเรามาดูเคล็ดลับของสาวสไมล์ ภาลฎา ที่ลดน้ำหนักลงได้ถึง 18 กิโล กันจะเป็นวิธีไหนนั้นเรามาดูกันเลย>///<


1. เปลี่ยนตัวเอง

รูปภาพ:https://scontent-sea1-1.cdninstagram.com/vp/208b94121c33cafe750f70b5558b079a/5C16B142/t51.2885-15/e35/26158012_1783726338597818_1151620142401060864_n.jpg?se=7&ig_cache_key=MTY4NTU2NDk1ODUyOTgxMzA4MA%3D%3D.2

การเปลี่ยนตัวเองในที่นี้ไม่ใช่การทำศัลยกรรมพึ่งมีดหมอนะคะ แต่การเปลี่ยนตัวเองนี้คือการเปลี่ยนความคิดตัวเอง ไม่ยอมรับกับ ' ความอ้วน ' ที่เกิดขึ้น ไม่ต้องไปทนว่าเราจะต้องอยู่ กับหุ่นอ้วน ๆ นี้ให้ได้ แต่ให้เปลี่ยนความคิดใหม่ ว่าเราต้องสวย เราต้องดูดี ต้องมีความมั่นใจในการแต่งตัว ต้องแต่งชุดสวย ๆ ให้ได้!! เพราะการผอม หุ่นดีเนี้ยแหละ คือเกราะกำบังไม่ให้เราโดนล้อ โดนคำครหาว่า อ้วน ให้หมดไปได้

สาว สไมล์ ภาลฎา เลย เปลี่ยนความคิดว่า“ สไมล์ต้องผอม!! สไมล์ต้องหุ่นดี!! สไมล์ต้องดูดี สไมล์ต้องมีความมั่นใจ!! ”สาวสไมล์ ภาลฎา แนะนำว่าให้เขียนโพสต์อิส แล้วแปะไว้ที่กระจก ว่า“ เราจะต้องน้ำหนัก 42 โล ให้ได้!! ”และจินตนาการภาพเราตอนผอมว่าจะต้องสวย หุ่นดี


2. เอาจริง

รูปภาพ:https://thailandsuperstar.com/images/pix/38398913/F_1848564718593026890.jpg

อย่างแรกเลยในเรื่องการลดน้ำหนักคือ

เอาจริง!!

เพราะถ้าเราไม่เอาจริงก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย และต้องอย่าท้อ เพราะถ้าเราท้อ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้อไปก็ทำให้เราอ้วนอยู่ดี ดังนั้นให้เราตั้งใจและเดินต่อ ทำต่อ แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางก็แล้วแต่ ก็ต้องสู้ จนกว่าจะถึงเป้าหมาย


3. กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด

รูปภาพ:https://scontent-sin6-1.cdninstagram.com/vp/c5842512f4dee12d07a947cea6561d33/5C1C1234/t51.2885-15/e35/41666970_2259178877636657_3905523540475549338_n.jpg

ซึ่งสาว สไมล์ ภาลฎา เป็นคนกรุ๊ปเลือด โอ อาหารที่สาวสไมล์ เลือกทานก็จะเป็นอาหารประเภทโปรตีนซะส่วนใหญ่ โดยข้อดีของการเลือกอาหารตามกรุ๊ปเลือดคือ มันจะเป็นอาหารที่เหมาะสมกับเรา ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารได้สมบูรณ์แบบ ทำให้ไม่มีอะไรที่ตกค้างในร่างกาย

สาว สไมล์ ภาลฎา ได้ทดลองกิน อาหารตามกรุ๊ปเลือด เน้นกินผัก เน้นเนื้อสัตว์โดยเธอเลือกกิน สเต็ก ในทุก ๆ มื้อ เป็นเวลา 3-4 วัน ผลปรากฏว่า น้ำหนักของเธอลดลงเฉลี่ย 2 ขีด ต่อวันจนลดลงไปได้ 1 กิโลกรัม จากนั้น เริ่มเติมอาหารจำพวกแป้งเข้าไป ประมาณ 15% -20% ต่อมื้อ กินแบบนี้มาสักพัก จนน้ำหนักลดลง เหลือ 54 กิโลกรัม ( 4 กิโลกรัม )


4. เน้นการขยับร่างกายบ่อย ๆ

รูปภาพ:https://thailandsuperstar.com/images/pix/38398913/F_1861620893928554982.jpg

ข้อนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบออกกำลังกายมาก ๆ เลยค่ะ โดย สาวสไมล์จะเน้นการเดิน เน้นการขยับร่างกายเยอะ ๆ เน้น Activity ที่ค่อนข้างมีการเคลื่อนไหวทั้งวันมากกว่าการออกกำลังกายอย่างจริงจัง เพราะสำหรับเธอแล้วการออกกำลังกายจริงจังนั้น จะทำให้เธออยากอาหารมากขึ้น และกินมากขึ้นกว่าเดิม จนน้ำหนักลดลง เหลือ 52 กิโลกรัม

และค่อย ๆ เริ่มปรับมาออกกำลังกาย โดยการวิ่งบนลู่ ระดับความเร็ว อยู่ที่ 8 ประมาณ 30 นาทีต่อวัน จนน้ำหนักลดลง เหลือ 46 กิโลกรัม ( ลดไปได้ทั้งหมด 12 กิโลกรัม )


5. การกินแบบกำหนดช่วงเวลา

รูปภาพ:https://thailandsuperstar.com/images/pix/38398913/F_1873119388300706488.jpg

การกินแบบกำหนดช่วงเวลา หรือ วิธี Fasting โดย

เริ่มกินอาหารตั้งแต่ 8 โมงเช้า และหยุดกินภายใน 4 โมงเย็น

และจะอดอาหารไปเลย 16 ชั่วโมง และจะมาเริ่มกินอีกทีตอน 8 โมงเช้าเช่นเดิม ( แบบนี้เรียกว่าการ Fasting แบบ 16:8 ) โดยที่กินหารตามกรุ๊ปเลือดแบบเดิมมาทำควบคู่กันไปตลอด จนน้ำหนักลดลงเหลือ 44 กิโลกรัม ( 14 กิโลกรัม )


6. ออกกำลังกายเน้นกระชับสัดส่วน

รูปภาพ:https://thailandsuperstar.com/images/pix/38398913/F_1789169885114150314.jpg

เมื่อน้ำหนักเราลงไปถึงจุดที่น่าพอใจแล้ว หลังจากการที่เราลดความอ้วนมากนาน บริเวณต่าง ๆ ที่เคยเป็นไขมัน ก็จะมีความย้วย ความหย่อนคล้อย โดยการออกกำลังกายนี้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ

ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน ถือว่าเป็นไม้ตายสุดท้าย ที่จะฟิตกระชับรูปร่างของเรา

แถมยังลดน้ำหนักลงมาได้อีก จนน้ำหนักลดลงเหลือ 40 กิโลกรัม



เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ กับการลดน้ำหนัก ตามแบบฉบับของสาวสไมล์ ภาลฎา ที่สามารถลด น้ำหนักลงได้ถึง 18 กิโลกรัม แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เธอทำให้ระยะเวลา 9 เดือน โดยที่ไม่อด ไม่ใช้ยา และยังมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงได้อีกด้วย ยังไงแล้วสาว ๆ ก็ลองเอาไปปรับใช้กับตัวเองกันดูนะจ๊ะ

สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน บ๊ายบายค่า^///^