การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก
แต่มันยากตรงเราขี้เกียจนี่แหล่ะ!
เชื่อว่าซิสหลายๆ คนกำลังคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหมคะ??
ก็แน่ล่ะ! การลดน้ำหนักมันช่างยากเสียเหลือเกิน แถมบางคนก็ต้องทำงานอย่างหนักหน่วง เวลาว่างก็แทบไม่มี หรือมีวันหยุดทั้งทีก็ต้องนอนพักเอาแรงไว้ก่อน ทำให้การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายกลายเป็นเรื่องยากซะนี่!
แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีลดน้ำหนักสูตรเด็ด! ที่จะมาช่วยให้คนขี้เกียจลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายกัน!!
.
1. ตัดน้ำตาล
การควบคุมอาหารที่ดีที่สุด คือ
การตัดน้ำตาล
เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่าการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการมุ่งลดคาร์โบไฮเดรตเท่านั้น! แต่ในความเป็นจริงแล้ว สารอาหารเพิ่มน้ำหนักที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นน้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาลขัดขาว ทั้งยังเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคร้ายหลายโรคอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือ การค่อยๆ ลดน้ำตาลในอาหารลงไปเรื่อยๆ ทีละอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดอาการเหวี่ยงของอารมณ์ ไม่ทำให้ตบะแตกกลางทาง เท่านี้ก็จะช่วยทำให้น้ำหนักคุณหายไปหลายกิโลเลยทีเดียว
.
2. อย่าดื่มน้ำอัดลม
น้ำอัดลม
ตัวร้ายแคลอรี่สูงปรี๊ด!! ที่สำคัญคืออุดมไปด้วยน้ำตาลและสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย เป็นหนึ่งในอาหารอุปสรรคที่ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล เพราะด้วยความหวานและสดชื่น ทำให้คุณติดใจในรสชาติและมักโหยหาเมื่อยามที่อากาศร้อนเสมอ นอกจากนี้แม้แต่น้ำผลไม้กระะป๋องหรือกล่องก็ทำให้น้ำหนักคุณเพิ่มได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คือ ลดน้ำอัดลมลงไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดความอยากให้ดื่มเป็นน้ำเปล่า หรือผสมน้ำแดงเฮลบลูบอยกับน้ำเปล่าแบบบางๆ แล้วจิบไปเรื่อยๆ เพื่อลดความอยากน้ำตาลลง
.
3. ทานบนจานขนาดเล็ก
จานขนาดเล็กจะช่วยทำให้สมองรู้สึกอิ่มเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสมองจะส่งสัญญาณว่าอาหารมีเพียงเท่านี้ เพื่อให้ร่างกายพร้อมยอมรับอาหาร และเป็นการฝึกนิสัยให้เราทานน้อยลง ลดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้คุณสามารถควบคุมปริมาณอาหารได้โดยไม่รู้สึกเหมือนโดนบังคับมากจนเกินไป ซึ่งผลทางการวิจัยระบุว่าการทานอาหารจานเล็กนี่แหละ! คือ ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เหล่ามนุษย์ขี้เกียจลดน้ำหนักได้ดี
.
4. แปรงฟัน
การแปรงฟันเป็นการล้างคราบอาหารและรสชาติต่างๆ ออกจากลิ้น เมื่อไม่มีรสชาติอาหารเหลืออยู่ ก็ไม่ทำให้รู้สึกอยากอาหาร ที่สำคัญคือรสชาติของยาสีฟันที่ทั้งเย็นสดชื่นและออกกลิ่นมิ้นต์ จะช่วยทำให้ต่อมรับรสในปากเกิดอาการชา จนไม่รู้สึกถึงรสชาติอาหารใดๆ ดังนั้นก่อนนอนหรือทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ก็ควรรีบแปรงฟันทันที!!
.
5. เคี้ยวหมากฝรั่ง
หมากฝรั่ง
คือ หนึ่งในตัวช่วยลดความอยากอาหารได้ดี โดยเฉพาะหมากฝรั่งรสมิ้นต์แบบไร้น้ำตาล ความหอมสดชื่นและเย็นซาบซ่าจะช่วยดับรสชาติของอาหาร ทำให้ต่อมรับรู้รสหยุดทำงานชั่วขณะ และการเคี้ยวหมากฝรั่งยังส่งผลหลอกให้สมองเข้าใจว่าคุณทานอาหารไปแล้ว ดังนั้นเมื่อใดที่เริ่มอยากขนมขบเคี้ยวหรือของหวานต่างๆ ก็เริ่มเคี้ยวหมากฝรั่งได้เลย!
.
6. หยุดดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวเร่งทำให้น้ำหนักคุณพุ่งสูงขึ้นจนน่ากลัว นอกจากนี้หลังจากการดื่มไปแล้ว จะเข้าไปกระตุ้นให้รู้สึกหิวมากขึ้นเป็น 2 เท่า คุณจึงจะทานอาหารหลังดื่มแอลกฮอล์ค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้าไม่อยากอ้วนแบบขั้นสุดก็ควรเลิกดื่มแอลกฮอล์ได้แล้ว
.
7. ทำอะไรให้ช้าลง
การรับประทานอาหารแบบเร่งรีบ เคี้ยวไม่นานแล้วก็กลืนจะทำสมองไม่รู้ถึงรสอาหารที่แท้จริงและคิดว่ายังไม่รู้สึกอิ่ม ที่สำคัญคือนิสัยการทานแบบนี้จะทำให้ระบบการย่อยพังอีกด้วย ดังนั้นจึงควรค่อยๆ เคี้ยวเพื่อให้สมองได้รับรู้รสชาติ และเข้าใจว่าได้ทานอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระบบการย่อยก็ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
.
8. อาหารเช้า
อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ใครๆ ก็รู้กัน แต่ถ้าต้องการให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทานอาหารเช้า ที่ไม่ใช่การอัดอาหารเข้าไปเต็มที่จนรู้สึกจุกแต่อาหารไม่มีประโยชน์เลย! คือ การเตรียมอาหารไว้ในช่วงเย็น โดยเลือกเป็นไข่ต้ม, ไข่อบ, ไข่ตุ๋น หรือเนื้ออกไก่กับเนื้อปลาบางๆ มีผักและผลไม้เบาๆ พร้อมด้วยน้ำเปล่า 1 แก้ว เท่านี้ก็จะทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนและลดน้ำหนักได้ดีเลยทีเดียว
.
9. ทานอาหารว่างกระตุ้นการเผาผลาญ
อาหารว่างเบาๆ ในช่วงพักระหว่างวัน จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบหารเผาผลาญที่ดีที่สุด ดังนั้นคุณจึงควรเปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวมาเป็นผลไม้อย่างแตงโม, แคนตาลูป หรือแก้วมังกร เพื่อให้คุณได้อิ่มแบบฉ่ำน้ำและเป็นตัวช่วยกระตุ้นการเผาผลาญที่ดีที่สุดอีกด้วย
10. พักผ่อนเต็มที่
การนอนและการพักผ่อนแบบเต็มอิ่ม 8-10 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยทำให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ระบบเผาผลาญจึงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรตกค้างในร่างกาย การรับประทานอาหารจะเป็นไปตามปกติ แต่เมื่อใดที่คุณพักผ่อนน้อยก็จะเริ่มรู้สึกหิวโหยได้ง่าย แถมควบคุมอาหารเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลอีกด้วย!
.
11. ออกกำลังกายสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพ
ถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกายมากนัก การออกกำลังกายแบบสั้นๆ ที่บ้าน อย่างโยคะ, คาร์ดิโอง่ายๆ และทำท่าเวทเทรนนิ่งเบาๆ ในช่วงเช้าและเย็น เพียงแค่ 10-20 นาทีต่อวัน จะช่วยทำให้คุณได้เผาผลาญพลังงานมากขึ้น ไม่ควรหักโหมเพราะอาจไม่ได้ผล แต่ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อร่างกายเริ่มชินแล้วคุณจะรู้สึกสนุกและเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ ด้วยความสมัครใจ
ทั้งหมดนี้คือวิธีการลดน้ำหนักของคนขี้เกียจที่บอกเลยว่าทำได้ง่าย! และได้ผลดี! ที่เหลือก็เพียงแค่ใจคุณเท่านั้นจะทำได้มาก-น้อยแค่ไหน เอาเป็นว่าลองทำตามทั้ง 11 วิธีนี้ดู ถ้าได้ผลดี อย่าลืมเอามาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ฟังกันบ้างนะคะ
