สวัสดีค่าาา กลับมาพบกับบทความที่ทุกคนน่าจะรอคอยยยนั่นคือการสวอช และเทสต์ทดสอบ สี ความติดทน แบบถี่ยิบตามแบบฉบับของปายจ้าา

วันนี้ เราจะมาเทสต์ แป้งพัฟผสมรองพื้น 4 ตัว ที่ราคาเบาๆ ที่คิดว่าสาวๆ ควรมีติดกระเป๋าไว้มาดูกันว่า คนผิวสองสีอย่างเรา จะรอดมั้ยยแป้งจะช่วยกลบ ทั้งปัญหา รูขุมขนกว้างจุดด่างดำ ทั้งหลาย เช่น ฝ้า กระ รอยสิวและจะช่วย หน้าหมองคล้ำ ผ่องใสขึ้นได้รึเปล่า มาดูกันนนค่าาาา

โดยตามหลักปกติแล้ว เวลาเลือกสีแป้ง เราจะเลือกสีที่ " อ่อนกว่า " เล็กน้อย เพราะเครื่องสำอางบางแบรนด์ มีการ อ็อกซิไดซ์ คือเมื่อทาไปแล้ว ซักพักจะเข้มขึ้น อีกทั้งถ้าเราเลือกสีปกติหรือสีเข้ม อาจทำให้ผิวหน้าของเรานั้นดูหมอง หรืออาจทำให้ ' เทา ' ไปเลย

1.) แป้ง Cathy Doll - Magic Dolly Face Two Way Cake Powder SPF30 PA+++

2.) แป้ง เจ้านาง - Perfect Bright UV 2way powder foundation SPF20 PA+++

3.) แป้ง ZA - True White Plus Two-Way Foundation SPF20 PA++

4.) แป้ง Revlon - New Complexion Long-Wearing Whitening 2-way foundation SPF20

ในส่วนของผิวปายพื้นผิวเลยเป็นคนผิวแห้งแต่ในส่วนของใบหน้า เป็นผิวผสมค่ะ ( คือแห้งบางส่วน มันในทีโซน และข้างๆ จมูก ) แถมยังระคายเคืองง่ายคือถ้าตัวไหนไม่โอเค มันจะฟ้องขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนเลยค่ะ T_T รูขุมขนกว้าง มีปัญหารอยดำ สิว ฝ้า กระ ( อายุใกล้เลข 3 อะไรๆ มันก็ไม่ได้ดั่งใจ!! )

เราจึงสืบเสาะ และตามหา ว่าแป้งตัวไหน จะเข้ามาช่วย หรือ ฉุด ประชันกันไปโลดดดดด

1.) แป้ง Cathy Doll- Magic Dolly Face Two Way Cake Powder SPF30 PA+++

รูปภาพ:

หยิบเพราะพรีเซนเตอร์เลยค่ะคุณพี่ ( อุ๊บบบส์ คิดดังไปมั้ยเรา ) จริงๆ แล้วที่หยิบมา เพราะเค้าบอกว่า เป็นแป้งติดแอร์ ต่างหากล่ะ คือ เมื่อเหงื่อยิ่งออก จะยิ่งรู้สึกเย็น ซึ่งเหมาะกับอากาศร้อน ที่เหงื่อออกง่ายอย่างบ้านเรามากๆ ( อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง เลยขอลองซักหน่อยย )

ความคุมมัน และความบางเบากันเหงื่อ กันน้ำ ไม่ไหลเป็นคราบพร้อมทั้งปกปิดรูขุมขน แบบตบปุ๊บก็เป๊กเลย

และที่สำคัญ ตัวแป้งนี้ มีเฉดมาให้เลือกเยอะมากกกกกถึง 5 เฉดด้วยกัน ค่อนข้างครอบคลุมเลยทีเดียวสำหรับสาวๆ ทุกเฉดสี

ผิวโทนเหลือง

#21 Light Beige ( ผิวสว่าง )#23 Natural Beige ( ผิวปานกลาง - สองสี )#25 Sand Beige ( ผิวสองสี - ผิวเข้ม )

ผิวโทนชมพู

#22 Fair Beige ( ผิวสว่าง )#27 Walnut Beige ( ผิวสองสี - ผิวเข้ม )ปายเลือกหยิบเบอร์ #21 เพราะคิดว่า อยากได้สีไบรท์กว่าผิวตัวเองนิดหน่อย ( กลัวเลือกสีเข้มแล้วหน้าจะดร็อป ดูหมอง )

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Cathy Dollทำได้เลิศอยู่จะเห็นว่ารอยกระ รอยดำสิวเสี้ยนที่จมูก และใต้ตา แทบมองไม่เห็นเลยจ้าาาเมื่อเวลาผ่านไปแป้งก็ไม่เป็นคราบนะ ไม่ตกร่องด้วย

เนื้อเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ในส่วนของรอยกระ จุดด่างดำ หรือใต้ตา ต้องตบซ้ำๆ หลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นคราบ ไม่ดูโบก ดูเป็นธรรมชาติ สีที่เลือก อาจจะดูสว่างกว่าหน้านิดหน่อย ( เพราะเผื่อลงรองพื้น ) หากลงรองพื้น แล้วมาลงแป้ง คิดว่าสีน่าจะพอดีเป๊ะๆ เลยเรื่องของการปกปิด ถือว่า Magic Dolly Face ทำได้น่าพอใจมากๆ คือเบลอรูขุมขนจริงๆ ซึ่งปกติเวลาปายทาแป้ง ตรงร่องสิวเสี้ยน ทาแล้วจะเป็นจุดๆ แป้งพี่เป๊กคือเบลอไปเลย เนียน ไม่เป็นคราบเลยค่ะ เลิฟฟฟฟฟฟฟเวอร์

รูปภาพ:

ทดลองทาแป้งแล้วออกไปผจญภัยข้างนอก เจอเหงื่อและฝุ่น ตามสไตล์กรุงเทพฯ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ( น่าจะประมาณ 6 - 8 ชม. หลังจากทาแป้งค่ะ )

ปรากฏว่า หน้าไม่มันเลย ไม่เป็นคราบ ไม่ไหลเยิ้ม แถมยังรู้สึกสบายผิว มีต้องเติมบ้าง หลังจากที่เหงื่อออกไปแล้ว

รูปภาพ:รูปภาพ:

เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบงานผิวแบบ เนียนกริบ ดูไม่โบ๊ะ ไม่โบกนะจ๊าางานปกปิดรอยแดง รอยดำ และคุมมันมาครบเลยจริงๆ ค่ะ

รูปภาพ:

2.) แป้ง เจ้านาง - Perfect Bright UV 2way powder foundation SPF20 PA+++

แป้งเจ้านาง แบรนด์สัญชาติไทย ชื่อเสียงค่อนข้างหนักแน่นเรื่องความคุมมัน เน้นการปกปิด เกลี่ยง่าย กันเหงื่อติดทนนาน ไม่เป็นคราบจากเดิมเลยที่เค้ามีแค่ 2 เฉดนะ แต่ตอนนี้จะบอกว่า เค้ามีให้เลือกถึง 4 เฉดแล้วจ้า

#C1 ผิวขาว#C2 ผิวสองสี#C3 ผิวสีแทน#C21 ผิวขาวเหลืองปายเลือกหยิบเบอร์ #C21

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เจ้านาง ยังเห็นรอยกระอยู่นิดหน่อย ถือว่าทำได้ดีเลยส่วนรอยสิวเสี้ยนที่จมูก ก็โอเคค่ะ ไม่เป็นขุยๆ หรือติดร่องใต้ตาเฉยๆ ค่ะ อาจต้องพึ่งคอนซีลเลอร์

ทาครั้งแรกคือแบบ ผิวเป็นจุดๆๆ แล้วเหมือนไม่ค่อยติด เลยล้างแล้วลองใหม่ ลืมไปว่าเป็นแป้งของคนผิวมันจ๋า คนผิวผสมอย่างเรา คือใช้แล้วมันอาจจะไม่ได้อย่างที่เค้าเคลม

เราทดลองฉีดน้ำลงไปบนหน้าก่อน แล้วจึงตามด้วยแป้งเจ้านาง ผลคือ แป้งติดดีขึ้น กว่าตอนแรกค่ะ ( สำหรับคนที่ผิวหน้าไม่มันมาก ให้ลองวิธีแบบปายนะคะ จะได้ไม่เจอปัญหาผิวฝืดๆ ตอนทาครั้งแรก )

เนื้อแป้งมีความละเอียด ผิวเนียนนุ่มดีค่ะในส่วนของงานปกปิด เวลาใช้งานจริง อาจต้องพึ่งคอนซีลเลอร์อีกนิดหน่อย เรื่องของความเทา มีให้เห็นบ้าง เห็นชัดในส่วนของ JawLine ( คางใกล้ๆ มาทางคอ )

เดี๋ยวจะทดลองลงรองพื้นก่อน แล้วลงแป้ง อาจจะช่วยให้ดีขึ้น

รูปภาพ:

ทดลองทาออกไปเผชิญมลภาวะ( ประมาณ 6 - 8 ชม. เท่ากัน )

แป้งเจ้านางติดทนดี คุมมันได้ดี แม้ว่าจะเจอแดด เจอเหงื่อ ก็ไม่เป็นคราบ มีต้องเติมบ้าง ตามปกติ หลังเหงื่อออก

รูปภาพ:รูปภาพ:

3.) แป้ง " ZA - True White Plus Two-Way Foundation " SPF20 PA++

แป้งแบรนด์ในเครือชิเซโด้ จากแดนอาทิตย์อุทัย เป็นแป้งผสมรองพื้นสูตรไวท์เทนนิ่ง คือมีการใส่สารสกัด Vitamin C เพิ่มลงไปในแป้งด้วยเพื่อช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดี ดุจสาวญี่ปุ่น มีโทนสีให้เลือกเยอะอีกแล้วว คือดีย์ค่ะซิส แป้งเค้ามี 6 เฉดสีให้เลือก

ผิวโทนเหลือง#20 ผิวสว่าง /#21 ผิวปานกลาง /#22 ผิวสองสี

ผิวโทนชมพู#32 ผิวสองสี /#33 ผิวแทน /#34 ผิวเข้มปายเลือกหยิบเบอร์ #21 มาลอง

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ผลที่ได้ ZA เทาไปหน่อยอะ สงสัยเลือกผิดเบอร์การปกปิดทำได้โอเคในระดับนึงแอบเป็นขุยๆ ที่จมูกนะ ใต้ตาพอเบลอๆ ไปได้หน่อยนึงค่ะ

เนื้อเนียน แอบรู้สึกหนาๆ แต่ไม่มาก โอเคอยู่ค่ะ ใช้ได้ แต่ทำให้ตรงจมูกเป็นขุยๆ นิดนึงนะ สงสัยว่า ตัวนี้เราต้องลองลงรองพื้นกันก่อนทาซะแล้ว( แล้วจะมารีวิวอัปเดตกันอีกทีน้า )

รูปภาพ:

ทดสอบการออกไปใช้ชีวิตเผชิญมลภาวะ และเหงื่อตามสไตล์ ผลคือ ไม่ค่อยทน คือประมาณซัก 2-3 ชม. ต้องเติมใหม่ และแอบมีหมอง ระหว่างวัน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

4.) แป้ง " Revlon -New Complexion Long-Wearing Whitening 2-way foundation SPF20 "

แป้งแบรนด์สัญชาติอเมริกา ที่ข้ามฝั่งมาฮิตที่ไทยอยู่หลายตัว เพราะราคาที่จับต้องได้ กับคุณภาพที่น่าพอใจ ทำให้ปายหยิบแป้งพัฟของเค้ามาทดลองใช้

ซึ่งแป้งตัวนี้ ไม่มีน้ำหอม ( Fragrance Free ) ดีต่อใจและดีต่อผิวมากๆ สำหรับคนที่ระคายเคืองผิวง่าย แป้งตลับนี้โอเคเลย มีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวอีกด้วยยค่า ส่วนเฉดสีก็เริศค่า มีมาให้เลือกถึง 5 เฉดสี ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมดีนะคะ

#04 Buff                 สำหรับผิวขาวอมเหลือง#05 Sand Beige      สำหรับผิวขาวอมชมพู#06 Natural Beige  สำหรับผิวสีกลางอมเหลือง#07 Medium Beige สำหรับผิวสีกลางอมชมพู#09 Tawny             สำหรับสีเนื้อเข้มปายเลือกสี #06 Natural Beige มาลอง ค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Revlon ปกปิดเฉยๆ มากตัวแป้งร่อน และทำจมูกเป็นขุยๆคือเนื้อแป้งเค้าค่อนข้างหนาด้วยแหละ

ตบๆ แป้งลงไปแล้วตรง จมูก กับตรงที่รูขุมขนกว้าง ผลคือเป็นขุยๆ เลย แบบเห็นชัดกว่าเดิม งานปกปิดเฉยๆ เอาจริงๆ สีสวยนะ ตอนสวอชสีที่หน้าคือ สีเดียวกันเลย แต่พอลงแล้วคือไม่ค่อยโอเคค่ะ ไม่ค่อยเนียน

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

จริงๆ เราชอบสีมากๆ นะ เพราะดูเหมือนสีใกล้เคียง แต่แป้งดร็อปเร็วไปหน่อย ปายลองไปรีเสิร์ชมาในเว็บเมืองนอกปรากฏว่ารุ่นนี้ไม่มีขายแล้วว่าจะลองเปลี่ยนรุ่น เพราะจริงๆ แอบประทับใจเฉดสีแป้งของเค้าอยู่นะ

รูปภาพ:

ลองมาดูเฉดแป้งใกล้ๆ กันค่ะ ตอนลองหาสีแป้งควรลองบริเวณนี้นะคะจริงๆ แล้วควรเลือกใกล้ๆ กับคอมากที่สุด ( ตำแหน่ง REVLON กำลังดีค่ะ )เพื่อหลีกเลี่ยงความเทา ความลอยที่จะเกิดขึ้นหรือ แป้งผิดเบอร์ นั่นเองนะจ๊ะสาวๆแต่ในนี้ เราจะ swatch สี เทียบทั้ง 4 แบรนด์ เลยเลื่อนขึ้นมาบนๆ ไปหน่อยยยย

รูปภาพ:

และแท่นแท้นนน เราจะมาวางเปรียบเทียบกัน ตั้งแต่ไม่ทาแป้ง ไปจนทาแป้ง 4 ตัวเลย

รูปภาพ:

มาสรุปคะแนนจากดาวที่ปายให้จากด้านบน ในแต่ละหัวข้อเพื่อดูว่าแป้งไหนจะได้ไปต่อนะคะ และผลออกมาก็คืออออ....

แป้ง Cathy Doll  ( 24/25 )

แป้ง เจ้านาง       ( 21/25 )

แป้ง ZA             ( 15/25 )

แป้ง Revlon       ( 13/25 )

สรุปก็คือ ปายประทับใจแป้ง Cathy Doll และ แป้ง เจ้านางทั้งสองแบรนด์นี้ค่ะเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผิวปาย ทั้งในเรื่องของการปกปิด ให้ความบางเบา ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตัน เป็นธรรมชาติ ดูไม่หนา ไม่โบก ค่ะเรื่องของความคุ้มค่า ทั้งราคา ปริมาณ แพ็กเกจจิ้ง และความใส่ใจในการใช้งานจริงปายขอยกให้ แป้งCathy Dollนะคะ ส่วนตัวรู้สึกว่า เค้าคิดมาให้ครบ เวลาที่เราใช้งานจริง มันง่าย ไม่เลอะเทอะ เหมาะกับการพกติดกระเป๋า สมกับเป็นไอเทมที่ใช้ได้ในทุกวัน ราคาสบายกระเป๋า เทียบกับปริมาณที่ให้มาด้วยแล้ว แฮปปี้สุดดดดๆ ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ การเทสต์ทดสอบแป้งอย่างละเอี๊ยด ละเอียดของปายในวันนี้ คาดว่าน่าจะถูกใจสาวๆ ที่กำลังมองหาแป้งพัฟผสมรองพื้น ราคาเบาๆ กันอยู่ไม่น้อยเลยใช่ม้าาา

ครั้งหน้าปายจะมาเทสต์ทดสอบอะไรนั้น อย่าลืมเข้ามาติดตามเค้าไว้น้าาา ไปแล้วค่ะ ซิสสสสส