รวมสถานการณ์ที่คู่รัก 'ไม่ควรทะเลาะกัน' เพราะจะทำให้ทุกอย่าง แย่ลงกว่าเดิมมาก!

บางคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่า เวลาไม่เข้าใจกันให้รีบหาโอกาสเคลียร์ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาค้างคา สะสม จนทะเลาะกันใหญ่โตกว่าเดิม

แต่...ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเคลียร์กันทันทีโดยไม่สนว่าจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า เราต้องดู" กาลเทศะ "หรือประเมินสถานการณ์รอบข้างด้วยค่ะว่า สถานการณ์ไหนที่ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน พอถึงบ้าน อยู่กันสองต่อสองจริง ๆ ค่อยเคลียร์ ถ้าอยากรู้ว่ามีเหตุการณ์ไหนบ้าง ลองเช็คได้ข้างล่างนี้

#1 ขณะที่อีกฝ่ายกำลังทำงานอยู่

ควรให้เกียรติแฟนเรา ให้เกียรติตัวเอง ด้วยการแยกแยะให้เป็นว่าอันไหนเวลางาน อันไหนเวลาส่วนตัว การพยายามจิกให้แฟนเรารีบเคลียร์ตัวเองด่วนเพื่อให้ตัวเองหายร้อนใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับ" คนเห็นแก่ตัว "ที่สนใจเพียงแค่อยากให้ตัวเองสบายใจ แต่ไม่สนใจเลยว่าแฟนเราจะเดือดร้อนหรือไม่? องค์กรของแฟนเราจะต้องทำงานช้าลงไปอีกเพราะเรื่องส่วนตัวหรือไม่? มองภาพรวมให้ออก ที่ทำงานไม่ใช่มีแค่แฟนเรา ยังมีคนอีกมากที่รองานจากแฟนเรา อย่าราวีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

#2 ขณะที่อีกฝ่ายกำลังเข้าสังคม

หากแฟนเรามีนัดเข้าสังคม เข้าร่วมงานในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะไปแบบฉายเดี่ยว หรือพาเราไปด้วย ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะฉีกหน้าแฟนเราด้วยการพยายามจิก เหน็บแนม เพื่อให้เขามาสนใจเคลียร์โดยด่วน การทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้อีกฝ่ายเสียหน้า ไม่ให้เกียรติกัน ยังเป็นการลดความน่าเชื่อถือของตัวเราเอง ให้กลายเป็นเป้านินทามากกว่าเดิม ควรคีพลุคสวย ๆ ปล่อยให้เขาออกงาน พบปะผู้คนกันไป ร้อนใจอะไรก็เก็บไว้ ไปเคลียร์กันที่บ้าน หรือที่สองต่อสอง ไม่มีใครมาเกี่ยวข้องด้วย

#3 ในขณะที่เราไปเยี่ยมครอบครัวเรา/เขาไปเยี่ยมครอบครัวเขา

คิดให้ดี หากหวังจะให้ครอบครัวเป็นบุคคลที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ประสานรอยร้าวให้ หรือเป็นบุคคลที่รับรู้พฤติกรรมว่าแฟนเราแย่แค่ไหน เพราะบางทีแล้ว พวกเขาอาจพยายามตีตัวออกห่าง ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่อยากมีปัญหาด้วย หรือไม่ก็พากันรุมตำหนิเราให้แย่กว่าเดิม ไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหน ก็ล้วนแต่เป็นไปในทางแย่มากกว่าดีเพราะฉะนั้น หากเรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมครอบครัวเรา โดยที่แฟนเราไปด้วย หรือแฟนเราได้ไปเยี่ยมครอบครัวเขา โดยที่พาเราไปด้วย สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือปล่อยให้เป็นโอกาสของการเยี่ยมครอบครัวอย่างแท้จริง เรื่องระหว่างเรากับแฟนเก็บไว้ทีหลังก่อน เสร็จธุระแล้ว อารมณ์เย็น ๆ กันแล้วค่อยมาปรับความเข้าใจกันอีกที

#4 ในขณะที่กำลังขับขี่รถ

การขับขี่รถ ไม่ว่าจะรถใหญ่หรือรถเล็ก คนขับต้องใช้สมาธิและประสาทที่ไวพอควรในสิ่งที่อยู่ข้างหน้า หากพลาดเพียงนิดเดียวอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น หากมีเรื่องที่กำลังหงุดหงิด อารมณ์เสีย อย่าเพิ่งชวนทะเลาะกันในขณะนั้น เพราะคนขับอาจเสียสมาธิกว่าเดิมจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ใจร่ม ๆ อดทนไว้ก่อน เรื่องไหนที่อยากจะเคลียร์ ไว้จอดรถถึงบ้านค่อยคุยกันก็ได้ อย่าพลาดเพราะความชั่ววูบเอาแต่ใจเลย มันไม่คุ้ม

#5 ในขณะที่เขาป่วยหนัก/กำลังเสียใจมาก ๆ กับข่าวร้ายบางอย่าง

จะกลายเป็นเรื่องเสียมารยาทและเห็นแก่ตัวทันที หากเราผลีผลามจะเคลียร์กันโดยที่ไม่ทันได้ดูว่าอีกฝ่ายมีอาการหนักแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะกำลังเสียใจอะไรอย่างหนักจากข่าวร้ายบางอย่าง ( เช่น ญาติผู้ใหญ่เสีย, เพิ่งโดนไล่ออกจากงาน ) หรือเขากำลังป่วยหนักด้วยอาการอะไรก็ตาม ทุกข์ของเราไม่ใช่สิ่งแรกที่ต้องทำโดยด่วน แต่สิ่งที่ควรทำก็คือช่วยดูแลเขาจนกว่าจะดีขึ้นก่อน พอเขาแข็งแรงได้ประมาณหนึ่ง หากเราค้างคาในเรื่องอะไร ค่อยเปิดจังหวะพูดคุยกัน

#6 ในขณะที่เขากำลังจะสอบ / ใช้สมาธิอย่างหนักในการตั้งใจทำงานที่สำคัญมาก

หากแฟนกำลังจะต้องพรีเซนต์ในวันต่อไป กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบในวันพรุ่งนี้ หรือกำลังเตรียมงานอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องจริงจังมาก พลาดไม่ได้ที่จะลงสนามในวันต่อไป อย่าเพิ่งทำลายสมาธิเขาและอนาคตของเขา ด้วยการเอาเรื่องของเราไปให้เขากังวลใจ ปล่อยให้เขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองในเรื่องงานให้ดีก่อน เรื่องเราค่อยคุยกันทีหลังในช่วงที่สบาย ๆ ก็ได้ หากเราให้เกียรติเขาก่อน เดี๋ยวเขาก็ให้เกียรติเรากลับมาเอง

รักกันแล้วทีทะเลาะกัน ก็ต้องทะเลาะกันแบบมีสตินะคะ อย่าให้ความขาดสตินำพาไปสู่อุบัติเหตุหรือเรื่องที่ร้ายแรงกว่าเดิมได้ ใจเย็น ๆ ค่อยมาคุยกันดี ๆ ตอนที่อารมณ์เย็นแล้ว เดี๋ยวก็ปรับความเข้าใจกันได้ค่ะ การตัดสินใจขณะที่อารมณ์ร้อน จะได้ผลลัพธ์ที่พลาด และอาจเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ค่ะ ขอให้ทุกคู่ ทุกคน มีสติในความรักกันนะคะ แล้วเจอกันบทความหน้าจ้า ^^