5 ข้อคิดดีงาม ที่ได้จากติดตามการประกวด 'Miss Universe 2018' #เออมันก็น่าคิดอยู่นะ!

จบไปแล้วสำหรับการประกวดนางงามระดับโลกอย่าง' Miss Universe 2018 'น่าภูมิใจตรงที่ ครั้งนี้ไทยเราเป็นเจ้าภาพต้อนรับ 94 สาวงามจากทั่วโลก โดยในปีนี้ ผู้ที่คว้ามงกุฏไปครองก็คือนางงามจากฟิลิปปินส์Catriona Grayหรือฉายาที่แฟนนางงามตั้งให้ว่า" แมวเทา "และสำหรับไทยเองถึงแม้จะพลาดมงกุฏ แต่ก็ยังติด Top10 ซึ่งถือว่าไม่แย่เลย เมื่อเทียบกับจำนวนสาวงามผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลกที่มีถึง 94 ประเทศ

แม้จะมีดราม่ากันบ้าง ตามประสาแฟนนางงามบางกลุ่มที่เชียร์กันแบบจริงจังสุดชีวิต แต่ถ้าใครได้ติดตามการประกวดตั้งแต่ต้น ๆ ก็จะรู้เลยว่า นอกเหนือจากความงามทางรูปร่างหน้าตาที่มาประชันกันแล้วว่าใครงามที่สุด ในระหว่างการประกวดก็มีสิ่งดีงามหลายอย่างให้เราได้เรียนรู้ว่า มีหลายสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ไปกว่าการยลโฉมนางงามแต่ละประเทศ ให้เราเรียนรู้และประทับใจ

#1 นางงามในโลกยุคใหม่ ไม่จำเป็นต้องเรียบร้อย

Miss Albaniaหรือ" Trejsi Sejdini "แม้จะมีเรื่องซุบซิบถึงความเกรี้ยวกราด เป็นคนร้าย ๆ แต่เมื่อเข้ากองประกวดก็เป็นคนที่สนุกสนานเฮฮา ใครสั่งให้ทำอะไรก็ทำสุดแรงเกิด ฉีกภาพลักษณ์นางงามทั่วไปที่ต้องเป็นคนเรียบร้อย ทำให้กองประกวดดูมีสีสัน มีชีวิตชีวา เรียกคะแนนจากแฟนนางงามชาวไทยหลายคนมาก จนได้ฉายา" ลูกฉันเป็นคนดี "ไปครอง

เรามักจะได้ยินเสมอ เวลาที่มีข่าวเด็กเกเรไปทำผิดแล้วพ่อแม่ออกมาปกป้องว่า" ลูกฉันเป็นคนดี "เพื่อให้คนในสังคมเห็นใจ ให้อภัยเด็ก การที่แฟน ๆ ชาวไทยมอบฉายานี้ไม่ใช่การปกป้องแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่เป็นการสะท้อนค่านิยมสาวงามที่น่าสนใจอย่างหนึ่งเลยว่า ต่อให้เรื่องราวเบื้องหลังเธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ฉากหน้า เวลาเธอปฏิบัติหน้าที่ เธอก็ทำได้เต็มที่ ทุ่มสุดตัว ไม่ซ้ำใคร เป็นตัวของตัวเองที่สุด แบบนี้แหละน่าเอ็นดู จริงใจ น่าเอาใจเชียร์มาก ๆ

#2 เราควรเปิดโอกาสให้กับความหลากหลาย

ไม่เพียงแต่ความงามของแต่ละประเทศ สถานภาพและบทบาทของนางงามแต่ละคนที่หลากหลาย น่าค้นหา น่าสนใจ ปีนี้ยังมีความน่าสนใจกว่านั้นก็คือ เป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้นางงามข้ามเพศ ( transgender ) ได้เข้าร่วมประกวดกับสาวงามที่เป็นสาวแท้ ๆ ด้วย นั่นก็คือนางงามจากประเทศสเปน" ANGELA PONCE "

ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่เวทีดังกล่าวจะประกาศให้โลกให้รู้ว่า ความงามควรเปิดกว้างให้ทุกคน โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และปัจจัยอื่นใด

โดยในเวทีนี้ นางงามสาวชาวสเปนยังได้กล่าวประโยคเด็ดสุดประทับใจที่แปลเป็นไทยได้ว่า

#3 บางคนแม้จะพลาดโอกาสชนะเวทีประกวด แต่ทำสำเร็จแล้วที่ทำให้หลายคนรู้จักประเทศตัวเองมากขึ้น

ขึ้นชื่อว่าการประกวดหรือแข่งขัน ย่อมมีแพ้มีชนะเป็นธรรมดา ในเมื่อเวทีนี้ต้องการผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็เป็นเพียงแค่ 1 ในเงื่อนไขการประกวด และไม่ได้แปลว่าผู้เข้าร่วมประกวดที่เหลือคือคนไม่สวย ด้อยค่า หรือไม่มีอะไรเลยที่น่าจดจำ บางคนแม้ไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ที่ทำให้หลายคนทั่วโลกได้รู้จักประเทศของตนเองมากขึ้น

" นิ้ง โสภิดา กาญนรินทร์ "แม้จะมีดราม่ามากมายตั้งแต่วันที่ก้าวมาเป็นตัวแทนสาวไทยจนกระทั่งวันที่ติดอันดับ Top10 ไม่ว่าดราม่านั้นจะมีมูลความจริงหรือไม่ วิจารณ์ด้วยความหวังดีหรือเพียงแค่เม้าท์กันสนุกปาก แต่สิ่งที่นิ้งพิสูจน์ให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมเลยก็คือ นิ้งพยายามพิสูจน์ตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดท่ามกลางเสียงนินทา นิ้งต้องต่อสู้ด้วยการแบกความหวังของคนไทยหลายคนใส่บ่าไปเดินให้เฉิดฉายที่สุด ถึงจะไม่ชนะ แต่นิ้งก็ทำให้หลายประเทศได้เห็นว่า นิ้งเป็นหญิงไทยคนหนึ่งที่โปรไฟล์ดี นิสัยดี เข้ากับทุกคนได้ดี อีกทั้งทีมงานคนอื่น ๆ แฟนงามทั้งหลายที่เป็นคนไทยเหมือนนิ้ง ก็เป็นเจ้าภาพต้อนรับเพื่อนนางงามได้ดีมาก

" Marie Esther Bangura "สาวงามจากประเทศ" Sierra Leone "( เซอราลีโอน ) แม้จะเป็นเพียงสาวงามคนเดียวที่ถูกตัดสิทธิไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเดินทางมาไทยด้วยความยากลำบาก ล่าช้าไม่ทันกำหนดการประกวด แต่แฟน ๆ นางงามชาวไทยก็สุดจะน่ารัก อาสาพาเธอเที่ยวรอบกรุงฟรี ๆ ตอบแทนความสู้ชีวิตที่อุตส่าห์มาหาเพื่อน ๆ ถึงไทยไม่เพียงแต่การเดินทางของเธอและสีผิวของเธอ ที่ดูน่าสนใจ แต่เบื้องลึกของการเดินทางของเธอกลับน่าสนใจมากกว่า เพราะน้อยคนจะรู้เลยว่าประเทศของเธอลำบากแร้นแค้นจริง ๆ ผู้หญิงในประเทศนี้น่าสงสารที่สุด ถูกข่มขืนตั้งแต่วัยเริ่มมีประจำเดือน และกฏหมายก็แทบไม่จับตัวผู้กระทำความผิด และส่วนใหญ่ท้องก่อนอายุ 18 ปี ทำให้ ผู้หญิงมีการศึกษาแค่มัธยมต้น เนื่องจากมีกฏหมาย ห้ามคนท้องเรียนหนังสือ และเป็นประเทศที่คนระดับล่างยากจนมาก ผู้หญิงเป็นเพศถูกรังแก ไร้การศึกษา แต่คนระดับบนร่ำรวย เพราะมีอาชีพ ขุดเพชรขาย

เมื่อเธอได้เดินทางมาถึงประเทศไทย มาถึงเวทีนางงามจักรวาล ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งใด ๆ เลย แต่เธอก็ประสบความสำเร็จแล้วว่า ได้เป็นตัวแทนนำแสงสว่างส่องมายังประเทศของเธอ ให้โลกได้รู้จักประเทศของเธอมากขึ้นว่าน่าเห็นใจ น่าช่วยเหลือมากแค่ไหน

" H'Hen Nie "( เฮอ เฮิน เนีย ) ตัวแทนสาวงามจากประเทศเวียดนามในลุคผมสั้น ผิวแทนสะดุดตา ในที่สุดก็ติด Top5 ซึ่งไกลกว่าความคาดหมายของเธอมาก

เพราะเธอไม่เคยคาดหวังเลยว่าตัวเองจะติดอันดับขนาดนี้ สิ่งที่เธอมุ่งหวังก็คือ การเป็นกระบอกเสียงแทนสาว ๆ ทั้งหลายในเวียดนามให้โลกให้รับรู้ว่า ประเทศของเธอยังมีการกดขี่ทางเพศอีกเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชนเผ่าเอเดที่เธออาศัยอยู่ ยังมีการกีดกันผู้หญิงไม่ให้รับการศึกษาที่สูงขึ้น อีกทั้งยังบีบบังคับให้ผู้หญิงแต่งงานในอายุน้อย ๆในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย ด้วยคำถามเกี่ยวกับกระแสมีทู ( #MeTooMovement ) ในเวียดนาม เธอได้ตอบคำถามด้วยการแสดงความคิดเห็นต่อแฮชแท็กนี้ว่า" เมื่อถามว่า การขับเคลื่อน มีทู นั้นเกินเลยไปไหม สำหรับฉัน มันยังไปไม่ไกลพอ เพราะการคุ้มครองความเป็นอยู่ของผู้คนจากการล่วงละเมิดทางเพศ การพิทักษ์ผู้หญิง เป็นสิทธิอันล้ำค่า พวกเราทุกคนต้องการการคุ้มครอง ชีวิตเราจำเป็นต้องมีเสรีภาพ "

#4 Top5 แต่ละคน ตอบคำถามได้เฉียบคม ไหวพริบดีมาก

การตอบคำถามเป็นไฮไลท์สำคัญอย่างหนึ่งของการประกวดนางงามจักรวาล เพราะเป็นพื้นที่ที่จะแสดงให้เห็นว่า นางงาม 5 คนที่คัดมาแล้ว แต่ละคนใครมีไหวพริบตอบคำถามได้ดีที่สุด ซึ่งใน 5 คน 5 ประเทศนี้ แต่ละคนก็ตอบคำถามได้เฉียบคม น่าสนใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนได้ไม่แพ้กันเลย

#5 เหนือกว่าการหาผู้ชนะ คือการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้ชาวโลกเห็นว่าผู้หญิงยุค 2018 ควรจะเป็นอย่างไร

การวางตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าจะตำแหน่งผู้ชนะ, รองอันดับ 1, รองอันดับ 2 หรือตำแหน่งใดก็ตาม เป็นเพียงกติกาการประกวดเท่านั้น พอจบการประกวด ได้มองภาพรวมจากสาวงามหลายประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน ก็พอจะทำให้ได้บทสรุปว่าผู้หญิงยุค 2018 ( และปีต่อไป ) ควรเป็นอย่างไรบ้างถึงจะดูดี น่าสนใจในสายตาชาวโลก เช่น

- คนที่มีโปรไฟล์ดี ( การศึกษาที่ดี, หน้าที่การงานที่ดี, ความสามารถหลากหลาย ) โลกจะสนใจเพราะเธอคือคนเก่ง มีความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้- ฐานะไม่สำคัญเท่าทัศนคติและความงามในจิตใจ ต่อให้เธอเป็นผู้หญิงในชนเผ่าเล็ก ๆ หรือมาจากประเทศที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเลย เธอจะมีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมายก็เพราะ 2 สิ่งนี้นำทางชีวิต- ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุก หากต้องหยิบยกใครมาล้อเล่น ( ดังเช่นดราม่านางงาม USA ล้อนางงามเวียดนาม ขณะไลฟ์สดกับเพื่อนนางงามคนอื่น ) เพราะต่อให้สนิทกันแค่ไหน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจิตใจของคนที่โดนล้อกำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องที่เรากำลังสนุก อีกคนนอกจากไม่ขำ อาจกำลังทุกข์อยู่ด้วยก็ได้- เพื่อน( สาว ) ที่ดีคือเพื่อนที่ยอมรับความแตกต่างของเพื่อน ๆ ทั้งหลายในสังคมโดยปราศจากอคติ และช่วยกันส่งเสริมข้อดีของกันและกัน ฉันสวยในแบบนึง เธอก็สวยในแบบนึง ชมกันไปกันมา ส่งเสริมกันไปกันมาอย่างจริงใจ แบบนี้น่ารักดีมาก

นี่แหละค่ะ ความดีงามของการประกวดนางงามระดับโลกที่มีมากกว่าความสวยงามและการแข่งขัน เปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้กว้างขึ้นกว่าที่เคยรู้และเห็นมาอีกเยอะเลยเนอะ ผู้หญิงยุค 2018 ( และ 2019 ) ควรจะเป็นแบบนี้แหละ โลกถึงจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ ^^