อันยองค่าา สาวๆSistaCafeทุกคน (￣ω￣)เป็นไงเธอ แป๊บเดียวก็ครึ่งเดือนมกราคมแล้วน้า! ปีใหม่ 2019 ช่างผ่านไปเร็วซะจริงๆ //กระซิก ;___;มาสายดูแลตัวเองแบบสาวเกาหลีแล้ว เรื่องทงเรื่่องเทรนด์อะไรก็อย่าให้ขาด ต้องตามฝั่งเกาเขาให้ทัน! จะได้ลองโปรดักส์ใหม่ๆ ผิวสวยก่อนใครยังไงล่ะ (✧ω✧)ในบทความนี้ เราไปเจอบล็อกที่เจ้าของทำงานในเกาหลี และวนเวียนอยู่ในวงการผลิตไอเทมความงามเธอจึง ' คาดว่า ' 5 เทรนด์นี้จะค่อยๆ บูม และฮิตในปี 2019( เออก็น่าเชื่อถืออยู่นะ... )เธอบอกว่า ปีนี้จะเป็นการเผยนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ที่สาวไทยอย่างเราไม่เคยรู้เลยล่ะ เกริ่นมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า เลื่อนลงมาส่องกันเล้ย!!!
1. มาส์กหน้าแบบ 'แยกส่วนบน-ล่าง ได้'
เทรนด์มาส์กหน้า เอาจริงๆ ก็มีมานานหลายปีแล้วแหละ! ทั้งมาส์กชีทแบบแผ่น, มาส์กโคลน, สลีปปิ้งมาส์ก etc. เริ่มจากฮิตในหมู่สาวๆ ก่อน จนตอนนี้หนุ่มๆ ทั้งหลายก็นิยมใช้กันมีหลายสูตร หลากเนื้อสัมผัสให้เลือก เพราะช่วย ' ฮีลผิว ' ได้จริงในเวลาอันรวดเร็ว ผิวพังๆหมองๆ มา ใช้ผิวหนักหน่วงแค่ไหน ก็กลับมาสวยได้ชั่วข้ามคืน ^^บล็อกเกอร์สาวคนนี้คาดว่า ในปี 2019 เราจะเห็นการ ' มาส์กหน้า ' ในเกาหลีฮิตเว่อวังอลังการ เหมือนเดิม แต่จะมีออฟชั่นที่หลากหลายขึ้น นั่นคือเราสามารถ ' ปรับแต่ง ( customize ) ' แบบแยกส่วนได้!ตอนนี้แบรนด์ Mamonde ก็เริ่มนำร่อง ด้วยการผลิตมาส์กแบบแผ่นแยกส่วนบน-ส่วนล่าง ( ดังรูป ) เรียกว่า ' Mamonde Mix&Match Sheet Mask ' ค่า
มาส์กนี้สามารถใช้ ' แยกสูตร ' ได้ เช่น ส่วนหน้าผากผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น แต่ส่วนคางต้องการกระชับริ้วรอย เธอก็สามารถสูตรผิวชุ่มชื้น กับลดริ้วรอยอย่างละแผ่น แล้วแยกส่วนบน กับส่วนล่างมาใช้ด้วยกันได้นั่นเองค่ะ! >//<ประหยัดเงินไปได้เยอะเลย
อีกนวัตกรรมหนึ่งของชีทมาส์กคือ เราอาจจะได้เห็น ' มาส์กเกาะจับน้ำมัน ' คือหลังมาส์กหน้า สาวผิวมันจะเห็นว่ามีคราบน้ำมันเป็นจุดๆ เกาะอยู่บนแผ่นเลยล่ะ! เทรนด์นี้จะมาจริงมั้ย มาลุ้นไปพร้อมๆ กันนะคะ ^^
2. สกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสแบบ 'กำมะหยี่' ( Velvet Texture )
ตั้งแต่ปี 2018 ขึ้นชื่อว่า ' สกินแคร์เกาหลี ' ส่วนใหญ่ก็มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม เบาบาง ไม่ทำร้ายผิวหน้าอยู่แล้ว มีให้เลือกทั้งแบบโฟม ครีม เจล หรือผสมเม็ดบีตส์ etc. แต่ในเทรนด์ K-beauty ปีนี้ คาดว่าเนื้อสัมผัสแบบ ' กำมะหยี่ ( Velvet ) ' จะมาแรงค่ะซิส!( ที่จริงถ้าตามเทรนด์อยู่เรื่อยๆ เนื้อแบบนี้ก็เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปีละ ) กำมะหยี่ เป็นเนื้อที่นุ่มๆ แต่ไม่เหลวเกินไป เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สาวๆ หลายคนตกหลุมรัก มีแบรนด์ต่างๆ ทำออกมาขายมากมายบล็อกเกอร์สาวคาดว่า เนื้อสัมผัสกำมะหยี่ จะฮิตสุดๆ ใน ' คลีนเซอร์ ' กับ ' ชีทมาส์ก ' เป็นพิเศษ เพราะเวลาใช้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเนื้อทั่วไป ใช้แล้วรู้สึก ' แพง 'มีความสุขกว่าเนื้อที่อาจใช้แล้วสะอาด แต่ล้างแล้วผิวแห้งดังเอี๊ยดๆ นั่นเอง จะจริงหรือไม่ ต้องลองตามข่าวกันดูน้า!
3. ใช้กรด 'BHA / AHA' ลดสิว แบบไม่ทำร้ายผิว
เทรนด์นี้ก็มาแรงสำหรับสาวๆ ที่มีสิวกวนใจ ตั้งแต่ปี 2018 แล้วเช่นกัน! สาวไทยบางคนอาจเริ่มใช้กรด BHA/ AHA ลดสิวด้วยตัวเองบ้างแล้ว แต่ในเกาหลี หลายแบรนด์ยังไม่กล้าใช้สารเคมีแรงๆ ( รวมถึงกรดสองตัวนี้ด้วย ) ลงในโปรดักส์ เพราะกลัวว่าผิวลูกค้าจะระคายเคือง
แต่ในปีนี้ เราจะได้เห็นสกินแคร์เกาหลีที่ใส่ ' กรดลดสิว ' กันมากขึ้นค่ะ แอบกระซิบว่า แต่ละแบรนด์ราคาไม่แพง พวกเราก็เอื้อมถึงได้นะ!
นั่นเพราะคนเกาหลี ต้องการผลิตภัณฑ์รักษาสิว ' เพิ่มมากขึ้น ' และมีฮาวทู วิธีการใช้อย่างถูกต้อง ให้อ่านกันอย่างแพร่หลาย ไม่ต้องเอะอะเข้าคลินิกถามหมอ หรือใช้แบบงงๆ เด๋อๆ อีกต่อไป >,<
แบรนด์สกินแคร์สายฝ. สุดฮิตที่ผ่านมาอย่าง The Ordinary ที่เราต้องสั่งพรีออเดอร์กัน จะต้องชิดซ้าย! เพราะเจ้าแม่ความงามอย่างเกาหลีจะมาทวงบัลลังก์แล้วจ้าา ＼(≧▽≦)／คอยติดตามข่าวกันได้เลยปล. ตอนนี้เขาก็เริ่มผลิตพวกคลีนซิ่ง / โทนเนอร์ผสม BHA/AHA ออกมาแล้วนะ แต่หายาก คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักชื่อเท่าไหร่ เช่น COSRX, SOME BY MI เป็นต้น ถ้าสนใจก็ลองสั่งพรีออเดอร์ล่วงหน้ากันได้เลยค่า
4. สกินแคร์ที่เป็นสูตร 'ออร์แกนิก'
จุดเด่นของสกินแคร์เกาหลี จะขึ้นชื่อในระดับโลกอยู่แล้วในเรื่องของ ' ส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่ทำร้ายผิว ' ใช้แล้วไม่ค่อยระคายเคืองผิวเห่อ แพ้แรงๆ เท่าไหร่ เพราะแต่ละแบรนด์ก็เน้นแข่งขัน ใช้ส่วนผสมสกัดจากดอกไม้ชนิดนี้ ต้นไม้ สมุนไพรหายากทั้งหลาย เพื่อให้แบรนด์โดดเด่นในท้องตลาดนั่นเอง
ซึ่งในปี 2019 ก็เช่นกัน แต่จะเพิ่มเลเวลความธรรมชาติขึ้น เป็น ' ออร์แกนิก ' มากขึ้น เป็นวีแกน ไม่ใส่น้ำหอม ไม่ใส่สี และมี EWG-verified ( ได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของอเมริกา ) ค่ะ
แม้ว่าคำว่า ' สกินแคร์ออร์แกนิก ' หรือ ' Clean Beauty ' จะตีความได้ค่อนข้างกว้าง บางแบรนด์ก็คลีนไม่จริง ใช้คำนี้เพื่อการตลาดก็ตาม
บล็อกเกอร์สาวคนนี้เชื่อว่า ระดับมลภาวะที่สูงขึ้นในประเทศ และกระแสที่หันกลับมาสนใจสกินแคร์สำหรับ ' ผิวแพ้ง่าย ' จะทำให้หลายแบรนด์ใส่ใจกับส่วนผสม ให้เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นค่ะ
5. สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ 'โสม' (ginseng)
ฮิตกันมานานนม และคาดว่าจะฮิตต่อไปเรื่อยๆ กับส่วนผสมเลอค่า เป็นเอกลักษณ์สุดๆ ใครเห็นก็ต้องรู้ว่ามาจากเกาหลี ' โสม ' ( ginseng ) เป็นสมุนไพรที่อุดมด้วยประโยชน์มากมาย ทั้งด้านสุขภาพและความงามบำรุงเส้นผม จะกินก็ได้ ทาก็ดี แค่ใช้ก็สุขภาพโดยรวมดีขึ้น กระปรี้กระเปร่า ผิวกระจ่างใส ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยค่ะ
เมื่อนำมาผสมกับสกินแคร์ คุณสมบัติหลักๆ ที่ได้คือ เป็นอายครีมช่วยลดอาการตาบวม รอยคล้ำใต้ตา, เป็นเซรั่มทำให้ผิวกระชับ หรือผสมในครีมแบรนด์ไฮเอนด์ ( ที่สาวไทยรู้จักมากสุดน่าจะเป็น Sulwhasoo )
บล็อกเกอร์สาวคาดว่า ในปี 2019 จะมีสกินแคร์หลายแบรนด์ โฟกัสกับ ' โสม ' เพื่อหาคุณสมบัติเยียวยาผิวเพิ่มเติม ต่อไปเราอาจจะเห็นประโยชน์ของ ginseng ที่หลากหลายมากขึ้น
ต้องลองดูข่าวต่อๆ ไปค่ะ
----------------------------------
โห ตั้งหน้าตั้งตารอเลย! เท่าที่สังเกต แต่ละเทรนด์ก็ไม่ได้ผุดขึ้นมาลอยๆ จากอากาศนะ ส่วนใหญ่จะมีอยู่แล้ว แต่ต่อยอด ' ความเจ๋ง ' จากปี 2018 มากกว่า เช่น ชีทมาส์กพิเศษ, สกินแคร์ออร์แกนิก, สกัดคุณค่าจากโสมมากกว่าเดิม หรือแม้แต่เทรนด์ใช้กรด AHA/BHA ก็รับมาจากสายฝ. ดังนั้นข้อดีคือ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ต้องกลัวหน้าพัง แค่จะใช้ได้ผลดีแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเธอเองต้องพิสูจน์!
ถ้าเทรนด์ไหนยังไม่มาช่วงต้นปี อย่าเพิ่งหาว่าจ้อจี้! เพราะบางกระแสอาจต้องใช้เวลาคิดค้นนิดนึง เผลอๆ ไปบูมช่วงปลายปีก็เป็นได้ ใครชอบใช้ของใหม่ๆ ก็ติดตามข่าวไว้เสมอนะคะ จะได้ใช้ของดีก่อนใคร
หรือถ้าไม่เวิร์คกับเรา จะได้ตั้งหลักทันด้วย -,- ส่วนวันนี้เราขอลาไปก่อนเน้อ ถ้ามีข่าวอะไรน่าสนใจอีก จะรีบกลับมาบอกสาวๆ ซิสต้าแน่นอน ซียู~~
----------------------------------
![ลิงค์: Cr. These Are Going to Be the Biggest K-Beauty Trends in 2019, [ theklog.co ]](https://sistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com/web-assets/sample-img-170x170.webp)