สิ่งที่สาวๆ ชอบที่สุด ก็คือการได้เข้าร้านทำผมแล้วเปลี่ยนลุค

จากทรงผมที่ใจวาดฝันเอาไว้ และ

สิ่งที่สาวๆ กลัวมากที่สุด ก็คือการเข้าร้านทำผม แล้วทรงผมที่ได้มา กลับไม่ใช่อย่างที่ใจคิดเล้ย!

เคยมั้ยล่ะ ที่ตั้งใจจะทำผมสั้นประบ่าแบบแพทตี้ แต่ดันออกมาสั้นประหนึ่งหนูหิ่น

ไอเราก็ไม่ได้หน้าเก๋เหมือนนางแบบ ขนาดทำทรงอะไรก็คูลไปหมดซะด้วยสิ!

จนหลายๆ ครั้ง ขยาดเข้าก็

ชักอยากจะหาเงินมาเรียนทำผมมันเองซะเลย อยากได้ทรงไหนก็ทำเอง

รับรองออกมาตรงใจไม่ต้องกลัวผิดหวัง!


วลี"ช่างไม่เข้าใจคำว่าเล็มนิดเดียว"ไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบไร้สาเหตุ การใฝ่รู้อยากเรียนทำผมเองมันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องทำชีวิตให้ยุ่งยากขนาดน้าน....เพราะ

สาเหตุที่ทำให้เราไม่ได้ทรงผมอย่างที่เราต้องการ ไม่ใช่เพราะช่างไม่มีประสบการณ์

( บางกรณีอาจจะใช่ ถ้าเจอแจ็กพอต )แต่ประเด็นหลักเกิดจากการที่ภาพในหัวไม่เหมือนกัน เพราะสื่อสารกันไม่ดีต่างหาก

หากเรารู้

5 วิธี ที่จะสื่อสารให้ช่างเข้าใจ รับรองว่าได้ทรงผมที่ต้องการแน่นอน

รีบเลื่อนไปดูข้างล่างกันได้เล้ย


5 วิธี สื่อสารกับพี่ช่าง ให้ได้ทรงผมสวยตามใจต้องการ


1. คำนึงถึงการดูแลผมในชีวิตจริง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/5e/c6/25/5ec6251d2969b4237cf87e7b26f7c76e.jpg

แน่นอนว่า ไม่ว่าเราอยากจะได้ทรงอะไร ช่างผู้มีประสบการณ์ก็สามารถจัดให้เราได้แน่นอน แต่อย่าลืมว่าเรา

ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงด้วย ว่าปกติแล้วเรามีเวลาจัดแต่งทรงผม หรือดูแลทรงผมในแต่ละวันเท่าไรกันแน่

ถ้าสมมติว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ค่อยอยากเสียเวลาไปกับการดูแลผม ขอเหนาะๆ แค่ 10 นาทีต่อวันก็พอ

ฉะนั้นต้องสื่อสารให้ช่างรู้ด้วยว่าเราไม่ค่อยมีเวลา ช่างจะได้รู้ว่าคุณไม่มีเวลาดูแลทรงผมถึงครึ่งชั่วโมง อย่างที่คิดจะจัดให้

นอกจากนี้

ถ้าหากคุณไม่สามารถมาร้านเสริมสวยได้ทุกเดือน

หรือทุก 2 เดือน ก็ให้คิดดีๆ ก่อนว่า ทรงผมที่คุณกำลังจะทำนั้น

มันจะดูดีรึเปล่าถ้าหากคุณไม่ได้เข้าร้านเพื่อเล็ม หรือจัดแต่งทรงผมใหม่ในทุกๆ เดือน


2. เส้นผมเป็นยังไง บอกช่างไปเลย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/61/a1/8b/61a18b19435a70ad10ce2227d1d0eaab.jpg

เรื่องนี้ชัวร์อยู่แล้วว่า

เส้นผมแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเส้นผมแต่ละประเภทก็ต้องมีวิธีดูแล จัดการต่างกันอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะ

ผมหยิก ผมหยักศก หรือผมตรง ผมเส้นเล็กอะไรก็ว่าไป

คุณรู้จักเส้นผมของคุณดีที่สุด ว่ามันมีข้อดียังไง หรือมีปัญหาในการดูแลยังไงบ้าง

ฉะนั้นอธิบายให้ช่างรู้ด้วยก็ได้ว่า ปัญหาที่คุณเจอเกี่ยวกับเส้นผมเป็นยังไง

เส้นผมมันง่าย ขาดง่าย หรือเส้นผมข้างนี้ ไม่เหมือนข้างนู้น

ช่างจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรกับทรงผมของคุณ ก่อนที่จะลงมือตัดผมไงจ๊ะ


3. รู้ว่าอยากได้ทรงไหน ก็ต้องรู้ว่าไม่อยากได้ทรงไหนด้วย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/14/d9/d9/14d9d9100963d2b25387b9578ee1c34a.jpg

คนส่วนมากมักจะนึกถึงแต่ทรงผมที่เราต้องการ

และคิดว่าการหาภาพทรงผมอย่างที่เราอยากได้ ไปให้ช่างดูให้เยอะที่สุด ก็จะทำให้ช่างเห็นภาพอย่างที่เราต้องการได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ช่

างรู้ในสิ่งที่เราอยากได้ก็จริง แต่ก็ไม่รู้ว่าทรงผมแบบไหนที่เรากลัวจะออกมาเป็นแบบนั้น

เพราะบางทีมันก็อาจจะใกล้เคียงกับทรงที่เราอยากได้ แต่ไม่ใช่ซะทีเดียว

ดังนั้นเส้นบางๆ นี้อาจทำให้เราผิดหวังได้ง่ายมาก

เลยมีทริคสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง คือการ

นำรูปภาพ ทั้งแบบที่เราอยากได้ และไม่ได้อยากได้ ไปให้ช่างดูทั้ง 2 แบบ

ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าทำได้ แต่ทริคนี้มีประโยชน์มากๆ เลยนะ

ถือเป็นจิตวิทยา ให้ช่างหนีห่างจากทรงที่เราไม่อยากได้ ก็จะเข้าใกล้ทรงที่เราอยากได้มากขึ้นด้วยไงล่ะ


4. เรื่องสีนี่ยิ่งต้องคุย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ce/db/a6/cedba62f00a60f0cf72dd2de16e98f5f.jpg

เราอาจจะเห็นว่า เวลา

Ariana Grande ทำผมสีบลอนด์

แล้วออกมาดูสวยเก๋มากๆ หรือ

Emma Stone มีผมสีแดงสวย

ดูมีเสน๊ห์ มีเสน่ห์ หรือ

ดาราไอดอลเกาหลี ที่ทำผมสีจัดจ้าน แล้วยิ่งดูเกาหลี๊ เกาหลี ไอด๊อล ไอดอล

( พอเถ๊อะ พอเถอะ ) แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนี้คงต้องขอพูดตรงๆ ว่า ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะทำแล้วออกมาสวย น่าไลก์แค่ไหน

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราทำแล้วจะสวยจัดแบบที่คิดนะ

เรื่องสีผม

บางทีอาจต้องขอความช่วยเหลือจากช่างทำผมว่า สีผมของคุณเหมาะกับเฉดไหน

ที่จะทำให้การเปลี่ยนสีผมครั้งนี้ดูปัง และรับกับลุคของเรามากที่สุด

เชื่อสิว่าทุกร้านมีหนังสือแคตตาล็อกสีผมให้เราได้ดูมากมายพร้อมจะนำมาเสนอให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด !


5. คุยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโชว์ให้เห็นด้วย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ff/fa/5c/fffa5c5d37a2dd31a1dc01dca6bcb040.jpg

ถึงแม้ว่าบางครั้ง เราอาจจะแค่มุ่งตรงเข้าร้านเสริมสวย เพียงแค่ต้องการมาเก็บทรง หรือมาทำทรงธรรมดาๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถละเลยในสิ่งที่เราต้องบอกช่างได้นะ

ไม่ว่าจะทำอะไรกับผมก็แล้วแต่ ต้องมั่นใจว่าเราสื่อสารไปถูกต้อง

ถ้าหากอยากจะมาเล็มผม ก็ต้อง

ชูนิ้วให้เห็นไปเลย หรือวัดตรงไม้บรรทัดให้เห็นว่า คุณอยากเล็มผมออกเท่าไหร่ และบอกไปด้วยว่า ไม่อยากให้ตัดถึงไหน

ช่างจะได้เห็นภาพชัดๆ ว่า

อยากตัดเท่านี้นะ ไม่ใช่เท่านี้


ทีนี้เราก็ไม่ต้องมาลุ้นกันแล้วนะว่า จะมาเข้าร้านเพื่อเล็มผม แต่จะได้ทรงติ่งหูไปแทนรึเปล่าหว่า เพียงแค่เราสื่อสารให้ช่างเข้าใจ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วจ้า