ทำผิดเป็นกิจวัตร !

ไม่ใช่ใครที่ไหนสาวๆ นั่นแหละ ที่ต้องลองถามตัวเองดูซิว่าเราน่ะดูแลผิวตามความเข้าใจแบบเดิมๆ คิดว่าทำถูกแล้วก็เลยทำจนเป็นปกติ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วกำลังทำผิดจนเป็นกิจวัตรอยู่รึเปล่า !?เพราะจริงๆ วิธีดูแลผิวต่างๆ เหล่านี้แหละค่ะที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองและเป็นสิวง่ายแบบไม่รู้จบนะ

รูปภาพ:

ยืนงงในดงผื่นอยู่ตั้งนาน มิน่าล่ะอาการผิวบอบบางแพ้ง่าย (sensitive skin)ระคายเคืองและเป็นสิวได้ง่ายถึงไม่เคยยอมหายไปจากเราซักที แต่ถึงตอนนี้ หายดีแล้วนะ ผิวดีขึ้น แข็งแรงขึ้นจากการที่เปลี่ยนวิธีคิดและกิจวัตรนี่ล่ะค่ะ

เอาล่ะ อยากให้สาวๆ ที่มีอาการผิวแพ้ง่ายทั้งหลายหายดีเหมือนเราบ้าง ไม่ต้องรอปาฏิหาริย์แล้วนะ แต่ตามมาเปลี่ยนตัวเองซะใหม่ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีดูแลผิวกันดีกว่า มาค่ะขออาสาพาสาวๆSistaCafeไปสำรวจตัวเองพร้อมๆ กันเล้ย~

เปลี่ยนซะ! 3 พฤติกรรมทำร้ายผิวผิดๆ จนเป็นกิจวัตร

ฟังดีๆ นะคะซิสผู้หญิงไทยมากกว่า 50% เป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย บางทีเราอาจเป็น 1 ในนั้นก็ได้นะ !เพราะงั้นมาสำรวจกันก่อนว่าอาการผิวแพ้ง่ายนี่เป็นอาการเดียวกับผิวของเรารึเปล่า สาวๆ ที่ยังไม่แน่ใจลองเช็คดูว่าผิวหน้ารวมถึงผิวกายของเรามักจะมีอาการตอบสนองไวต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติ ทั้งอากาศร้อนมาก อากาศหนาวจัด หรืออย่างช่วงที่ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานก็มักจะส่งผลให้มีอาการคันและแสบตามผิวหนัง หรือบางทีก็มีผื่นขึ้นได้ง่ายหรือไม่

หรือมีลักษณะของผิวที่แห้ง สาก ผิวหยาบไม่มีน้ำมีนวลจนมักจะเกิดเป็นแผลถลอกตามผิวหนัง แถมแผลยังหายช้ากว่าปกติทั่วไป รวมถึงลักษณะผิวบอบบางที่มีเส้นเลือดเปราะ แตกง่าย เขียวช้ำได้ง่ายอีกด้วย ..ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ขอยินดีต้อนรับเข้าสู่สมาคม ชมรมคนผิวบอบบางแพ้ง่ายค่ะ จากนั้นก็มาสำรวจตัวเองกันต่อว่าแล้วพวกเรายังดูแลผิวแพ้ง่ายของตัวเองกันแบบผิดๆ อยู่รึเปล่า ถ้าใช่จะได้เปลี่ยนซะ!

สำรวจพฤติกรรมทำร้ายผิวผิดๆ

3 พฤติกรรมเหล่านี้ล่ะค่ะ ตัวการของอาการผิวแพ้ง่ายที่ไม่ยอมหายไปจากเราซะที เอมิขอย้ำเลยนะว่าเคยทำมาหมดแล้ว บอกเลยว่าเลิกได้ก็เลิกซะ!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

1. เพิกเฉยต่อมลภาวะ ฝุ่น ควันพิษรอบตัว ✘

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

Don’tเคยใช่มั้ย ขี้เกียจหยิบหน้ากากมาใส่ ไม่ได้สนใจป้องกันตัวเองจากฝุ่นควัน เพราะคิดว่าไม่ได้เห็นผลทันที รู้ตัวอีกที อาการผื่นคัน ระคายเคืองผิวหนังก็มาเยือนใบหน้าและร่างกายไปแล้ว โดยเฉพาะสาวๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านเมืองยิ่งมีโอกาสอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและสารปนเปื้อนที่แฝงมากับฝุ่นมากขึ้นไปอีก

อย่างก่อนหน้านี้ที่ฝุ่นละออง PM 2.5 มีค่าสูงเกินมาตรฐานอย่างน่ากลัวสาวผิวแพ้ง่ายก็ยิ่งได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดไปตามๆ กัน ได้มาดูแลรักษาผิวอีกทีก็ตอนเกิดผื่นแดง แสบคันไปทั่วตามเนื้อตัวและใบหน้าแล้วหรือแม้แต่ช่วงนี้ที่สถานการณ์ฝุ่นละอองลดระดับลงมามากแล้วก็ตามอาการผิวแพ้ง่ายจากฝุ่นควันในเมืองหลวงก็ยังคงมาทักทายอยู่เรื่อยๆ เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่

Doเพราะงั้นขอเลยค่ะอย่าเพิกเฉยต่ออากาศที่แปรปรวน ฝุ่นควันและมลภาวะทั้งหลายที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเลยนะคะซิสสำหรับเราพอใส่ใจในการดูแลรักษาผิวหน้าและผิวพรรณมากขึ้นป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัยในสไตล์ที่เราถนัด ก็ช่วยลดการสัมผัสกับฝุ่นควันพิษต่างๆ ที่จะได้รับโดยตรงในทุกๆ วันได้มากทีเดียวผิวที่บอบบางอยู่แล้วก็เลยไม่ระคายเคือง แสบคัน เป็นผื่นง่ายเกินไปด้วยล่ะค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

2. ประโคมใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบอบบางแพ้ง่ายหลายชนิด ✘

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

Don’tผิวแพ้ง่าย บางครั้งก็เพิ่งมาเป็นตอนเราพยายามทาครีมบำรุงผิวที่ดีที่สุดลงบนหน้าของเรานี่ล่ะค่ะ! หลายคนมีอาการผิวแพ้ง่ายเลยเลือกที่จะใช้ครีมทาผิวหรือครีมบำรุงผิวต่างๆ มาแก้อาการผิวหนังแสบ คัน มีผื่นแดงกันใช่มั้ยล่ะหารู้ไม่ว่าเป็นวิธีการเริ่มต้นดูแลรักษาผิวแพ้ง่ายที่ผิด เพราะหลายๆ ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ก็ไม่เหมาะสมกับผิวพรรณของตนเองเช่น เป็นคนผิวหน้าแห้งลอกขุยง่าย แต่กลับใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือทาหน้าที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกมากไป ทำให้หน้ายิ่งแพ้ง่ายกว่าปกติ

หรือบางกรณีก็ใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดมากเกินไป บ้างก็ใช้ยาทาหรือยากินบางชนิดที่ยาวนานเกินไป ยิ่งเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ก็ยิ่งทำให้ผิวหน้าบางลง ไวต่อแดดมากขึ้น รวมไปถึงทำทรีตเม้นท์หลายชนิดมากไป พอนวด ขัด มาส์ก ทำเลเซอร์หน้าต่างๆ พร้อมกันมันก็ยิ่งเกิดความระคายเคืองผิว เพิ่มอาการแพ้ง่ายไปอีกน่ะสิ

Doทางที่ถูกต้องคืออย่ามองข้ามสเต็ปสำคัญเราก็จะเริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้าค่ะ คือต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจด สิ่งสำคัญคือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าต้องอ่อนโยนต่อผิวไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งเกินไป ไม่ทิ้งสารตกค้างบนใบหน้าและเลือกวิธีล้างหน้าตามแนวขนด้วยนะคะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

3. คิดว่าอาการแพ้ง่ายหายไม่ได้ และเป็นมาแต่เกิด ✘

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

Don’tข้อสุดท้ายmindsetของสาวๆ นั่นแหละค่ะที่ต้องเปลี่ยน เรามักคิดว่าอาการผิวแพ้ง่ายเป็นแล้วหายไม่ได้ หรือคิดว่าเป็นมาตั้งแต่เกิดคงไม่มีวันหายขาด ซึ่งจริงๆ แล้วอาการผิวแพ้ง่ายสามารถป้องกันและรักษาได้ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติมาเติมความชุ่มชื้น เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะปลอดสารเจือปนและสารเคมีที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองและส่งผลเสียในระยะยาวได้

Doดังนั้น สิ่งที่ควรทำจึงควรกลับไปที่ข้อก่อนหน้า นั่นคือเริ่มต้นจากการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว *โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดที่ไม่มีฟองจะยิ่งดีที่สุด(*แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง พ.ญ. วิญญารัตน์ ตันศิริ)เพราะสารทำความสะอาดที่ให้ฟองมากๆ นั้นมีโอกาสทำให้เกิดผื่นแพ้ คัน ระคายเคืองได้มากกว่า

รูปภาพ:

เอมิเองลองใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของSmooth E Facial Cleansing Gelโดยเลือกใช้ 2 สูตรเลยค่ะหลอดแรกเป็นSmooth E Babyface Gelสูตรอ่อนโยนเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่ายและเป็นสิวง่ายและอีกสูตรคือSmooth E White Babyface Gelสูตร White Sensitive สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายที่ต้องการผิวกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นความพิเศษของเค้าคือเป็นเจลล้างหน้าสูตรไม่มีฟอง ไม่มีประจุไฟฟ้า (Non-Ionic Surfactant)จึงไม่ทิ้งสารตกค้างอันเป็นสาเหตุหลักของสิวและริ้วรอยโดยได้รับการรับรองจาก ECOCERT การันตีว่ามีส่วนผสมจากธรรมชาติ ว่ามีสูตร Hypo Allergic Formula ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน สี น้ำหอม แอลกอฮอลล์ใดๆ ก็ไม่มีค่ะ เรียกได้ว่ามีความอ่อนละมุนที่สุดต่อผิวหนัง

ทั้งยังมีOMC (Optimum Moisturizing Complex)มอยซ์เจอร์ไรซิ่งสูตรเฉพาะของสมูทอีที่ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่เหมาะสมกับผิวหน้าคนเอเชียที่สุดรวมถึงมีVitamin Eช่วยต่อต้านการจับตัวกันของอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของริ้วรอยด้วย

ความดีงามยังไม่หมดเพราะเค้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเวชสำอางที่ได้รับการรับรองว่าเป็นสูตรธรรมชาติ 100%ประกอบด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังและสารสกัดจากสาหร่ายทะเลที่ช่วยบำรุงและคืนความอิ่มเด้งสดใสให้เซลล์ผิว รวมถึงสารสกัดจากใบของต้นมะกอกที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมาเลี้ยงเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ดูธรรมชาติแบบมีเลือดฝาดสารสกัดเหล่านี้แหละที่ช่วยเสริมสร้างให้ผิวเนียนนุ่ม เกลี้ยงเกลา แลดูอ่อนเยาว์ได้ดียิ่งขึ้น

รูปภาพ:

วิธีใช้ก็ไม่ยาก หลังจากเช็ดเครื่องสำอางเรียบร้อยก็ทิ้งไว้ซักพักให้หน้าแห้ง( *Tips : แนะนำว่าใช้ตอนที่ผิวหน้าแห้งสนิทจะเห็นผลดีที่สุดค่ะ )จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนล้างหน้าโดยเริ่มจากบีบเจลล้างหน้าSmooth E Babyface Gelพอประมาณ แล้วนวดลงบนใบหน้าที่แห้งได้เลยเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าผาก คาง ขยับมาที่แก้มและจบที่บริเวณจมูก โดยนวดหน้าเบาๆ ไปด้วยในแต่ละบริเวณเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและความมัน จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดได้เลย..สาวๆ สังเกตมั้ยว่าเจลล้างหน้าไม่มีฟองเลยจริงๆ ล่ะ ^^หลังจากล้างหน้ารู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าสะอาดหมดจด แต่ก็ยังให้ความรู้สึกชุ่มชื่นคือหน้าไม่แห้งเกินไป และหลังจากที่ลองใช้อย่างต่อเนื่องก็รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าดีขึ้น สิวค่อยๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญอาการแพ้ ผิวมีผื่นแดง ระคายเคืองง่ายที่เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ค่อยๆ หายไป ผิวดูนวลเนียน อิ่มน้ำขึ้นด้วยล่ะ ปลื้มใจสุดๆ

รูปภาพ:

รูปภาพ:

ครบทั้ง 3 ข้อแล้วล่ะค่ะ นี่แหละ 3 พฤติกรรมที่อยากให้สาวๆ ลองถามใจตัวเองดูว่ายังคิดผิดทำผิดกับผิวตัวเองกันจนเป็นกิจวัตรอยู่รึเปล่า ? ถ้ารู้แล้วก็#เลิกซะ และเปลี่ยน mindset ซะใหม่ทำความเข้าใจใหม่ว่าผิวบอบบางแพ้ง่ายไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงผิวแพ้ง่ายจะต้องเจอไปตลอด แต่เป็นเพียงอาการหนึ่งของผิวที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้เพียงแค่มีแค่นี้ก็รอพบกับผิวใหม่ที่อิ่มน้ำ นวลเนียน แข็งแรง ไม่หวั่นแม้วันฝุ่นควันหนักมากได้เลย ขอให้สาวๆ ผิวบอบบางแพ้ง่ายเลือกดูแลผิวได้อย่างถูกวิธี และมีผิวที่แข็งแรงกันทุกคนนะคะ เอมิไปก่อนละ บ๊ายบายค่ะ ^^