ฺสวัสดีค่าสาวๆ ทุกคน

ต้องบอกเลยนะคะว่าการที่เราจะลดความอ้วนนั้นต้องอาศัยความพยายามอย่างมากเลย เพราะว่าหากไม่พยายามก็ไม่ได้มาหรอกค่ะ

ดังนั้นเราเลยอยากจะแนะนำสาวๆ ว่าการที่จะลดน้ำหนัก ต้องอาศัยหลายวิธีเลยทีเดียว หากไม่ได้วิธีนั้นก็ลองวิธีนี้ ลองไปหลายๆ แบบ

จะต้องมีบ้างค่ะ ที่เราสามารถลดน้ำหนักได้ และวันนี้เราเลยอาสาพาไปส่องเทรนด์ลดน้ำหนัก ปี 2019 นี้ ว่ามีอะไรบ้าง ดูกันเลย

1. อาหารคลีน

รูปภาพ:https://cdn.cliqueinc.com/cache/posts/212433/3-clean-eating-recipes-that-pinterest-users-are-obsessed-with-212433-promo.700x0c.jpg

การกินคลีนหมายถึงการกินอาหารที่ลดกระบวนการมากมายในการผลิตให้น้อยที่สุดไม่ใส่เครื่องปรุง เน้นงดหวาน มัน เค็ม กินแต่โปรตีน คาร์โบไฮเดรตให้พอในแต่ละวันและไขมันดี โปรตีนได้จากอกไก่หรือปลา ไม่เน้นเนื้อแดง การทอดจะใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ส่วนคาร์โบไฮเดรตก็จะเป็นข้าวไม่ขัดสีอย่างโฮลวีท น้ำตาลหากว่าลดได้ก็จะดี แต่ใครอดไม่ไหวให้กินไม่เกินวันละ 16 กรัมก็พอแล้ว ส่วนเครื่องปรุง เน้นใช้น้ำปลาโลว์โซเดียมเป็นหลักนะคะ

2. สมูทตี้ดีท็อกซ์

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/c5/52/88/c55288002ed7bd2b1fd63f6027bdbeac--vegan-smoothies-avo-smoothie.jpgรูปภาพ:https://www.amarinbooks.com/wp-content/uploads/2018/06/25_Smoothie_1-510x510.pngรูปภาพ:https://www.amarinbooks.com/wp-content/uploads/2018/06/25_Smoothie_1-510x510.png

อีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทำง่าย น้ำหนักลดเร็วก็คือเทรนด์การกินสมูทตี้ปั่นนั่นเองค่ะ โดยนำสมูทตี้ปั่นนั้นจะเลือกใช้ผลไม้และผักนำมาปั่นรวมกัน ซึ่งอาจจะปั่นกินวันละสามครั้ง โดยแต่ละวันกินได้แค่สมูทตี้เท่านั้น

ห้ามกินอย่างอื่น ข้าวก็ห้ามกินด้วยนะคะ ทำสามวันหลายๆ คนบอกว่าน้ำหนักลดกันเลยเชียวค่ะ เหมาะสมกับคนที่ใจร้อน อยากน้ำหนักลดเร็วๆ

แต่น้ำหนักที่ลดไป เป็นน้ำหนักของน้ำในร่างกายนะคะ ไม่ใช่ไขมัน ต้องระวังตรงนี้ด้วยค่ะ

3. intermittent fasting ลดความอ้วน แบบ IF

รูปภาพ:https://cdn1.medicalnewstoday.com/content/images/articles/323/323863/person-writing-down-macronutrients-for-iifym-diet.jpgรูปภาพ:https://greenhealthycooking.com/wp-content/uploads/2017/12/Keto-Diet-Plan-Meal-Plan.jpg

อีกหนึ่งการลดความอ้วนที่ได้รับความนิยมมานานพอสมควรนั่นก็คือ IF เป็นการอดอาหารเป็นช่วงๆ เพื่อลดไขมันแต่ในบทความส่วนใหญ่เค้าจะอดกันช่วงเช้าจนถึงเที่ยงที่เป็นช่วงกินและนับเวลาจากตอนกินอาหารครั้งแรกไป 8 ชั่วโมง และกลับเข้าสู่ช่วงอดอีกครั้ง และรอให้ครบ 16 ชั่วโมงจึงจะทานอาหารได้อีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น

หากว่าสาวๆ เลือกทานตอน 8 โมง ก็ทานไปได้จนถึง 4 โมงเย็น ส่วนนอกเหนือจากนั้นห้ามทานอะไรนอกจากน้ำเปล่าหรือกาแฟดำเท่านั้น

ใครทำได้ก็สามารถลดไขมันในร่างกายไปได้นะคะ

4. คีโตเจนิก

คีโตเจนิก ไดเอตคือการกินที่แปลกมาก เพราะว่ายิ่งกินไขมันเท่าไร น้ำหนักก็ยิ่งลดลง

อาจจะบอกได้ว่าการกินคีโตเน้นกินไขมันสูง รองมาด้วยโปรตีน แต่ว่าลดการกินคาร์โบไฮเดรตให้เหลือในปริมาณที่น้อยมากๆ กล่าวง่ายๆ ก็คือลดการคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลให้น้อยมาก แต่ให้แทนที่สารอาหารที่ขาดด้วยไขมันทั้งจากพืชและสัตว์แทนนั่นเองค่ะ เลี่ยงอาหารแปรรูปจำพวกไส้กรอก หมูยอ ลูกชิ้นด้วยนะคะ นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงไขมันหรือน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเคมีสังเคราะห์อย่างน้ำมันพืชบางชนิด หรือมาการีนด้วยนั่นเอง

5. ลดความอ้วนแบบนับแคลอรี่

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/db/34/b0/db34b0932e1f3f5930032b523ec8c04d.jpg

หลักการง่ายๆ เลยนะคะสำหรับการนับแคลอรี่ ซึ่งก่อนอื่นเราจะต้องหาค่า BMR ก่อนนะคะ ว่า BMR ของเราเท่าไร โดยใช้น้ำหนักและส่วนสูงมากำหนดค่า BMR ของเรา โดยเราจะต้องกินให้น้อยกว่าค่า BMR โดยการนับแคลอรี่ เช่นหากสาวๆ ค่า BMR  1500  ก็กินได้แต่ละวันไม่เกิน 1500 แคลอรี่ หากว่าเราเผาผลาญแคลอรี่ให้มากกว่าที่รับมา

น้ำหนักจะลด ดังนั้นใครที่อยากลดให้ได้มากๆ ก็อาจจะเพิ่มการวิ่งหรือการออกกำลังกายไปด้วยก็ได้นะคะ

เอาล่ะค่ะ นี่ก็คือวิธีการลดความอ้วนทั้ง 5 แบบที่เป็นเทรนด์อันแสนจะน่าสนใจ เหมาะสมกับสาวๆ ที่อยากผอมสวย หุ่นดีมากกว่าเดิม

ซึ่งแต่ละคนอาจจะเหมาะสมกับวิธีการลดความอ้วนแตกต่างกันไป

ไม่ใช่ว่าเพื่อนเราลดแบบกินคลีนได้ผล แล้วเราจะได้ผลเหมือนกัน บางทีเราอาจจะลดได้ดีกับการลดแบบคีโตก็ได้เหมือนกันนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนค่ะ บายๆ