อันยองค่า ~ สาว ๆ

Sista

Cafe

เชื่อว่าความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน ก็คือ การมีหุ่นสวย หุ่นเพรียว

ทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาสนใจการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง

แต่ก็ดั๊นนนน ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี สาว ๆ บางคนก็เลือกวิธีอดอาหารบ้าง บางคนก็กินยาลดน้ำหนักบ้าง

บอกเลยว่าผลกระทบหลังจากที่เราทำแบบนั้นมันร้ายแรงมากแน่นอน

สาว ๆ จะต้องประสบกับปัญหา

โยโย่เอฟเฟกต์

ใครที่กำลังงงว่าโยโย่เอฟเฟกต์คืออะไร บอกเลย ก็คือการที่น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกโหยอาหารกว่าปกติ ออกกำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลด แถมกลับมากินปกติก็ไม่ได้ เพราะน้ำหนักพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ใครที่กำลังเจอปัญหานี้

ต้องรีบแก้ไขระบบเผาผลาญด่วน ๆ ! เพราะนี่เป็นสัญญาณเตือน ว่าระบบเผาผลาญของร่างกายพังแล้ว

นั่นเอง

มาค่ะสาว ๆ  ทุกอย่างต้องมีทางแก้ไข

วันนี้เราได้รวบรวม 7 วิธี แก้โยโย่เอฟเฟกต์ มาให้ได้อ่านกัน

ถ้าสาว ๆ ทำตาม ระบบเผาผลาญของเรา จะต้องกลับมาดีขึ้นอย่างแน่นอน ! มาค่ะ มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง ~

-  ✌✌  -


1. เลิกทานยาลดความอ้วน

รูปภาพ:https://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZPFCWgBfvLoVeV2yoaP3jzgM7J6luZ.jpg

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนเคยผิดพลาดด้วยการเลือกกินยาลดน้ำหนัก แทนการออกกำลังกาย

ใช่ค่ะทุกคน มันสามารถลดน้ำหนักของเราได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ผลเสียของมันหลังจากที่สาว ๆ เลือกกินไปแล้วก็มีมากมายเหมือนกันนะ

เวลาที่เราทานยาลดน้ำหนักเนี่ย มันจะทำให้เรารู้สึกเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง

ร่างกายรับสารอาหารไม่เพียงพอและส่งผลให้ร่างกายของเราขาดน้ำด้วย พอร่างกายของเราเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ร่างกายก็จะปรับเข้าสู่โหมดกักตุนพลังงานเอาไว้คราวนี้แหละพอเรากลับมากินอาหารปกติ น้ำหนักก็จะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

เพราะร่างกายจะไม่ยอมปล่อยเอาสิ่งที่สะสมไว้ออกมาใช้ง่าย ๆ อีก

เพราะฉะนั้นหากรู้ผลเสียของมันขนาดนี้แล้ว ควรหยุดทานยาลดน้ำหนักในทันทีก่อนที่จะสายเกินแก้นะจ๊ะ

~


2. เลิกอดมื้อ กินมื้อ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/90/83/26/9083267e0f75e4c28d559d7b4d58fb3f.jpg

สาว ๆ หลายคนก็เลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการอดมื้อกินมื้อ เพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย

ที่นอกจากจะทำให้เรามีน้ำหนักที่น้อยในระยะเวลาอันรวดเร็วแล้ว ยังทำให้เราไม่ต้องไปเสียเงินซื้อยาลดความอ้วนอีกด้วย

แต่สาว ๆ รู้ไหมคะว่าการอดมื้อกินมื้อทำให้เราได้รับสารอาหารและพลังงานเข้าสู่ร่างกายไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายของเราดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อไปใช้ กล้ามเนื้อของสาว ๆ ก็จะสูญเสียไป พร้อมกับระบบเผาผลาญในร่างกายของเรา ก็เสียหายอย่างรุนแรง

พอสาว ๆ กลับมากินอาหารแบบปกติจึงทำน้ำหนักของเราดีดขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั่นเอง

หากรู้แบบนี้แล้วช้อยส์ในการลดน้ำหนักด้วยวิธีการอดอาหาร สาว ๆ ก็ควรตัดมันออกไปจากความคิดได้เลย ~


3. ปรับนิสัยการรับประทานอาหาร

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ef/93/a6/ef93a66389ab6e64c02a4eb6bfdf843a.jpg

แน่นอนว่าโยโย่เอฟเฟกต์นั้น คือการที่เรามีร่างกายที่ระบบเผาผลาญพังไปแล้วนั่นเองอย่างแรกที่สาว ๆ ควรปรับเลยก็คือการกินอาหารให้ได้พลังงานที่เพียงพอกับร่างกายที่ต้องการ

ซึ่งการทานอาหารนั้นทางเราขอแนะนำให้สาว ๆ เลือกแบ่งออกกินเป็น 5 มื้อย่อย ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้ทำงานบ่อยขึ้น และให้สาว ๆ เลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

อย่างเช่น ทานอาหารคลีน หรืออาหารจำพวกโปรตีนนั่นเอง เพราะโปรตีนถือเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายมาก และมันจะช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานขึ้น สาว ๆ ก็จะได้ไม่ต้องกินจุบกินจิบนั่นเอง อิอิ


4. ออกกำลังกายให้สมดุลกับร่างกาย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/3a/4b/37/3a4b37dc323edfaf396539ca92bf5fff.jpg

สาว ๆ คงรู้ดีว่าทางเลือกที่ถูกต้องในการลดน้ำหนัก นอกจากเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ถูกต้องของการลดน้ำหนักนั่นเอง

ในการออกกำลังกาย สาว ๆ ควรเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายของเราด้วยนะ อย่าออกหนักหักโหมจนเกินไป

โดยการออกกำลังกายนั้น ขอแนะนำให้สาว ๆ


เน้นไปที่การเวทเทรนนิ่ง

เพื่อสร้างกล้ามเนื้อของเราที่สูญเสียไป หลังจากนั้นก็ให้ไปคาร์ดิโอเบา ๆ เพื่อช่วยลดไขมันส่วนเกิน สิ่งที่อย่าลืมเลยก็คือ การกำหนดความหนักเบาและเวลาในออกกำลังให้เหมาะสม มีวันพักบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนซ่อมแซม อย่างน้อย 1 - 2 วันต่อสัปดาห์


5. พักผ่อนให้เพียงพอ

รูปภาพ:https://66.media.tumblr.com/d893862eb25ddece3ee56baa1c2d3081/tumblr_o3230ix4zl1tn6jt3o1_500.jpg

สาว ๆ ที่อยากจะแก้ระบบเผาผลาญรู้ไว้เลยนะคะว่า การพักผ่อนให้เพียงพอ มีส่วนสำคัญมากต่อการหยุดปัญหาโยโย่เอฟเฟกต์นี้

เพราะการนอนให้ได้คุณภาพ ( 6 - 8 ชั่วโมงต่อวัน ) จะทำให้ร่างกายของเราและบบต่าง ๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้กลับมาทำงานมากขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

แต่หากเรานอนน้อย พักผ่อนไม่ค่อยตรงเวลา ก็จะส่งผลเรื่องการเผาผลาญที่ลดลง และส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น !

บอกไว้เลยสาว ๆ คนไหนที่ยังคิดว่าการพักผ่อนให้ได้คุณภาพ ไม่ใช่เรื่องสำคัญต้องปรับความคิดนี้ใหม่ด่วน ๆ เลยค่า ~


6. เลิกเครียด เลิกกังวล

รูปภาพ:http://www.thaihealth.or.th/data/content/2016/03/30848/cms/thaihealth_c_efimqstwy345.jpg

แน่นอนว่าในช่วงที่ร่างกายของเราเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ เราก็มักจะเครียดกับน้ำหนักที่พุ่งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สาว ๆ คะ อยากบอกว่าให้ทำใจให้สบาย ๆ และใจเย็น ๆ กับมัน ทุกอย่างมีทางออก มีทางแก้ไข

แค่สาว ๆ รู้วิธีลดการน้ำหนักที่ถูกต้องนั่นเอง

รู้ไหมคะว่า ความเครียดจะส่งผลให้ร่างกายของเราต้องการพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานที่มาจากอาหารจำพวกประเภทน้ำตาลนั้นเอง

แน่นอนว่าเรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า อาหารจำพวกนี้เป็นแหล่งของไขมันเลย เพราะฉะนั้น ความเครียดของเรามีผลต่อร่างกายมากนะ สาว ๆ ต้องทำใจให้สบาย ๆ และยอมรับมันให้ได้น้า


7. มีวินัยต่อตัวเอง

รูปภาพ:https://66.media.tumblr.com/d893862eb25ddece3ee56baa1c2d3081/tumblr_o3230ix4zl1tn6jt3o1_500.jpg

แน่นอนว่าช่วงแรกที่เรากลับมาแก้ระบบเผาผลาญให้กลับมาเป็นปกติ สาว ๆ อาจจะต้องอดทนต่อน้ำหนักที่ดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บางคนก็อาจจะท้อจนทำให้หันกลับไปลดน้ำหนักด้วยวิธีผิด ๆ อีก

อย่าค่ะสาว ๆ เตือนสติตัวเองเอาไว้ เราต้องมีวินัยและอดทนต่อการแก้ไขระบบเผาผลาญในครั้งนี้ ช่วงแรกอาจจะต้องอดทนหน่อย เพราะร่างกายของเรายังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน

ให้เรานึกเข้าไว้ว่าวิธีนี้มันจะส่งผลต่อเราในระยะยาว จะไม่ทำให้เราต้องกลับมาทุกข์ใจกับการที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็วอีก !


-  ✌✌✌  -เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 7 วิธีแก้โยโย่เอฟเฟกต์

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนอาจจะกำลังเครียด แต่บอกเลยว่าถ้าทุกคนทำได้ ระบบเผาผลาญของเราจะต้องกลับมาเป็นปกติแน่นอน สาว ๆ อาจจะต้องใจเย็น ๆ ให้เวลากับร่างกายได้ปรับตัวสักหน่อย พอร่างกายและระบบเผาผลาญของเรากลับมาเป็นปกติแล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็

อย่าลืมเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยวิธีถูกต้อง เหมาะสมกับตัวเองกันด้วยนะคะ

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับสาว ๆ ทุกคนที่อยากหันมาดูแลสุขภาพด้วยวิธีถูกต้องกันน้า ~