ฮัลโหลล! มาชวนหนีเที่ยวกันอีกแล้วจ้า เมื่อเดือนที่แล้วเราแอบหนีงานไปเที่ยวไม่ใกล้ไม่ใกล้ ตามหัวใจไปเที่ยวบ้านแฟนอย่างJackson GOT7ที่ประเทศ

" ฮ่องกง "


มา แอร้ยยย // >< // หลายๆ คนน่าจะพอรู้ว่าไปฮ่องกงแล้วก็สามารถข้ามไปเที่ยวอีกประเทศที่อยู่ใกล้ๆ กันได้อย่าง" มาเก๊า "สายเที่ยวจริงจังอย่างเราเลยขอไปยาวๆ ตะลุยทั้งฮ่องกงและมาเก๊าเป็นเวลา 5 คืน!

แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์เที่ยวกับ

-Nก็คืองบน้อยแต่เที่ยวหนัก

รอบนี้เราก็ยังคงทำได้ดีในเรื่องของค่าใช้จ่ายเช่นเคย

ทั้ง ค่าตั๋วเครื่องบิน , ค่าที่พัก , ค่าเดินทาง แถมยังกินดุช้อปหนัก รวมทั้งหมดเราจ่ายแบงค์พันไปแค่ 20 ใบเท่านั้น! ( 20,000 กลมๆ จบแบบไม่เจ็บจี้ด )


บทความนี้เราเลยจะขอมาแบ่งปันทริคการจองตั๋วฯ และที่พักแบบประหยัดแต่ปลอดภัย รวมไปถึงแพลนเที่ยวฮ่องกงและมาเก๊าอย่างครอบคลุม ถ้าพร้อมแล้วก็ตามเราไปเที่ยวด้วยกันเล้ยย!!

รูปภาพ:

► ตั๋วฯ ถูกของทริปนี้ ได้แต่ใดมา ?

อย่างที่รีวิวไว้ทุกทริปว่าการไปเที่ยวบ่อยๆ ของเรา

เราอาศัยตั๋วโปรฯ เท่านั้นค่ะ

โดยทริปนี้เราบินตรงจาก

ดอนเมือง → ฮ่องกง

และกลับ

จาก มาเก๊า

→ ดอนเมือง

ในราคาไปกลับพร้อมน้ำหนักกระเป๋าที่4,700 บาทเท่านั้น

สำหรับครั้งนี้เราได้ตั๋วโปรฯ มาจากสายการบินโลว์คอสในแคมเปญใหญ่อย่าง

Big sale หรือโปร 0 บาท

นั้นเองค่ะ

บอกก่อนว่า 0 บาทเลยมีอยู่จริงไหม มีค่ะ แต่คุณต้องมีพ้อยท์ที่นำไปแลกตั๋วตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักแสนพ้อยท์เลยทีเดียว คนทั่วไปอย่างเราที่ไม่มีพ้อยท์ขนาดนั้นก็สามารถจองได้ในราคาที่ถูกค่ะ แต่ต้องขยับๆ หาวันดีๆ หน่อย อย่าง

ตั๋วฯ ไปฮ่องกงราคาถูกไปกลับราคาจะอยู่ประมาณ4000-5000 บาทค่ะแต่จริงๆ แล้วสายการบินอื่นๆ หรือแม้แต่ฟูลเซอร์วิสก็มีโปรฯ ฮ่องกงในราคาไม่เกิน 6000 มาให้เห็นบ่อยๆ ฉะนั้นอยากจะไปฮ่องกง อย่ารีบร้อน โปรฯ เยอะมากแม่!!

รูปภาพ:

► ฮ่องกงที่พักถูกๆ ดีๆ มีไหม ?

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่า

เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงที่สุด

สูงมากจริงๆ เราคอนเฟิร์ม!

ฉะนั้นในเรื่องของที่พักใครที่เป็นสายประหยัดแบบเราน่าจะต้องทำใจไปในระดับหนึ่งค่ะ ว่าห้องที่ได้นั้นเล็กม้ากก

ด้วยประเทศฮ่องกงเป็นแค่เกาะเล็กๆ ที่อยู่กันอย่างแออัด ทำให้โรงแรมราคาถูกทั่วไปที่ไม่ใช่โฮสเทลแม้จะยังพอมีแต่ก็ตามขนาดพื้นที่ ที่เหลือน้อยตามไปด้วยนั้นล่ะ

ถ้าไม่ซีเรียสมาก แค่นอนและอาบน้ำคืนละ 500 / คน ก็มีค่ะ ( เราก็นอนประมาณนี้ ) แต่ถ้าอยากได้ห้องดีๆ ราคาอัพขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ไปจอง

Air bnb

ห้องจะตกแต่งดีดูน่าอยู่กว่า

ส่วนย่านที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พักกันก็คือ


จิมซาจุ่ย และ มงก๊ก

เรียกว่าเป็นย่านแสงสี ช้อปปิ้ง ได้ยาวๆ

ว่าแล้วก็มาแจกส่วนลดให้เพื่อนๆ กันหน่อย เผื่อใครสนใจจะจองไปเที่ยวกัน จะโรงแรมหรือ Air bnb ก็เลือกตามลิ้งข้างล่างได้เลยจ้า

รูปภาพ:

► การเดินทางในฮ่องกงและมาเก๊า

เกาะฮ่องกงจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งฮ่องกงและฝั่งเกาลูน

การเดินทางในฮ่องกงที่สะดวกที่สุดก็คือการใช้

รถไฟฟ้าหรือ Subway

นั่นเองค่ะ แต่เขาก็ยังมี

บัส มี Tram หรือรถราง

ให้นั่งด้วย เอาเป็นว่าเดินทางด้วยอะไรก็สะดวกทั้งหมด อยู่ที่สถานที่ที่เราจะไปเป็นหลักค่ะ

เวลาจัดทริปเที่ยวแนะนำว่าให้เที่ยวเป็นฝั่งๆ ไปจะได้ไม่ต้องข้ามไปมาให้เสียเวลาเที่ยวมากนัก แต่ไม่ต้องห่วงไปนะคะ เพราะการข้ามระหว่างฝั่งฮ่องกงและฝั่งเกาลูน สามารถข้ามได้ทั้ง Bus และ Subway สะดวกรวดเร็วไม่ต่างกันจ้า

ส่วนในการข้ามจากฮ่องกงไปมาเก๊า วิธีที่สะดวกและยอดนิยมก็คือการข้ามด้วยเรือเฟอร์รี่

( เดี๋ยวเราจะอธิบายละเอียดๆ อีกทีใน พาร์ทมาเก๊านะ ) แต่ตอนนี้เขาเพิ่งเปิดบริการรถบัสข้ามฝั่งฮ่องกงและมาเก๊าแล้วเช่นกันค่ะ ใครชอบวิธีไหนกว่าก็ลองเลือกกันดูน่า

รูปภาพ:

•••【 สายแชะ! 】•••

ถ้าเธอไม่ใช่สายช้อปไปฮ่องกงก็ต้องเป็นสายแชะ!อย่างที่รู้ๆ กันว่าสไตล์บ้านเมืองของเกาะฮ่องกงค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์มาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถ่ายรูปมันสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น ตึกรามบ้านช่อง บรรยากาศแสงสียามกลางคืน หรือแม้แต่คาเฟ่ ร้านฮิปส์ๆ ก็มีอยู่เพียบ! รู้แบบนี้เราเลยจะขอปาพิกัดมุมถ่ายรูปปังๆ Photo spots ที่สายถ่ายรูปเก่งต้องตามไปตำจะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่า

► 1. Choi Hung Estate ( แฟลตสีลูกกวาด )

รูปภาพ:

ที่แรกที่ไม่ไปไม่ได้เลยก็คือ

Choi Hung Estateหรือแฟลตสีลูกกวาด , สีรุ้ง

ที่คนไทยน่าจะพอรู้จักกันดีอยู่ค่ะ ที่นี่จะเป็นที่พักอาศัยของชาวฮ่องกงปกตินี้แหล่ะจ้า แต่ด้วยสีสันของถึงที่มันช่างดูน่ารักพาสเทล รวมถึงภาพถ่ายจาก

Choi Hung Estate

เขาเคยได้รับรางวัลใหญ่ เลยเป็นจุดเปลี่ยนทำให้หลายคนรู้จักตึกสีรุ้งแห่งนี้ และกลายมาเป็น Photo spots ที่นักท่องเที่ยวแห่กันไปแชะรูปเยอะมากๆ แต่ยอมรับเลยค่ะว่ารูปที่ได้ดีงามจริงๆ เธ้อ!

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Choi Hung Station Exit C4


พอขึ้นมาถึงถนนใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเดินเข้าทางเข้าแฟลต Choi Hung เลยค่ะ เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเจออาคารจอดรถ ให้เดินขึ้นบันไดไปที่ดาดฟ้าก็จะเจอจุดถ่ายรูป

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

ไม่มีเวลาเปิดปิด แต่แนะนำให้ไปช่วงเช้าค่ะ เพราะว่าคนจะไม่เยอะ ถ้าไปสายจะหามุมถ่ายรูปยากมาก

► 2. Sai Wan Swimming Shed

รูปภาพ:

อีก Photo spots ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทยก็คือสะพานริมทะเลอย่าง

Sai Wan Swimming Shed

ถ้าใครที่เป็นสายติ่งอย่างเราก็จะรู้จักที่นี่จากใน

MV : You are ของ GOT7

และใช่ค่ะเราตามรอยเพื่อไปติ่ง! ฮ่าๆ แต่จริงๆ สายฮิปส์เตอร์เขาก็ตามไปแชะกันอยู่เพียบน่า ได้ฟีลๆ ฮิปส์ๆ เหงาๆ ดีงามมาก

แต่เตือนไว้ก่อนว่าอย่าไปเกิน 10.00 น. คิวจะยาวเหยียดด! ยาวมากๆ จริงๆ ค่ะ เพราะมีจุดถ่ายรูปแค่จุดนั้นจุดเดียว ไปสายจะเห็นคิวยาวเป็นหางว่าว หมดใจจะรอถ่ายเลยล่ะขอบอก

รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Kennedy Town Station Exit B

นอกจากนั่งซับเวย์แล้วไปที่นี่เพื่อนๆ ก็สามารถลองเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งรถรางหรือ Tram ได้ด้วยนะ ลง Kennedy Town Station เหมือนกันเลย ถึงแล้วก็เดินตามไปอีกหน่อย จะเจอประตูเล็กๆ ให้เดินลงเขาลงไปอีกนิด ตาม Google map ไปได้สบายๆ

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

ไม่มีเวลาเปิดปิด แต่แนะนำให้ไปก่อน 10.00 น.

► 3. The Mills

รูปภาพ:

และที่เที่ยวเปิดใหม่ล่าสุดของฮ่องกงตอนนี้ก็คือ

The Millsเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์และ Art space เท่ๆ

ที่เกิดจากการนำตึกเก่ามารีโนเวตใหม่

จะมีทั้ง ร้านอาหาร , ร้านขายของงานดีไซน์ , เวิร์คช็อป , นิทรรศการทางศิลปะ รวมไปถึงมีดาดฟ้าให้นั่งชมวิวชิลล์ๆ

อีกด้วยค่ะ ไปเดินเสพงานศิลป์เพลินๆ แวะถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ มุมถ่ายรูปคูลๆ เยอะมากไม่ควรพลาดเลยนะ

อ่อ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงไปในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ นะคะ เพราะว่าคนฮ่องกงก็จะไปเที่ยวกันเยอะมาก ต้องไปแย่งกันถ่ายรูปมันเศร้าใจ แวะไปแล้วก็อย่าลืมซื้อไอศกรีมโคนช็อกโกแลตที่ 7-11 ด้านหน้ากินด้วยนะ อร่อยมากๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Tsuen Wan StationExit A3หรือTsuen Wan West


Station exit A2

ออกจากซับเวย์แล้วต้องเดินไปสักระยะหนึ่งเลยค่ะ ราวๆ 1 กิโลเมตร ใครไม่อยากเดินก็ลองโบก Taxi ไปก็ได้

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

10.00 - 22.00 น. ( แนะนำให้เลี่ยงไปในวันหยุด )

► 4. Hong Kong Cultural Centre

รูปภาพ:

มาถึง Photo Spots อีกที่ที่เราตามมาติ่งก็คือ

Hong Kong Cultural Centre

นอกจากจะเป็นจุดที่ผู้ชายของเรามาถ่าย MV

แล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ริมอ่าววิกตอเรียฮ่องกง เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่เดินต่อไปได้อีกหลายๆ ที่จุดเช็คอิน ไม่ว่าจะเป็น

หอนาฬิกาจิมซาจุ่ย , Avenue of Starsและยังเป็นจุดที่ชม โชว์แสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่A Symphony of Lightsได้ชัดที่สุดอีกด้วยค่ะ

นอกจากนั้น Hong Kong Cultural Centre ยังโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรม และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรวมงานศิลปต่าง ๆ เป็นสถานที่จัดงานแสดงศิลปวัฒนธรรม ที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก แถมยังถ่ายรูปออกมาแล้วเก๋สุดๆ ไปเลย

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

East Tsim Sha Tsui Station Exit L56

ถ้าเพื่อนๆ ต้องการดูโชว์Symphony of Lights จะมีทุกวันเวลา 20.00 น.ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการโชว์ หากอยากได้ที่ดีๆ แนะนำให้ไปนั่งจองที่ริมอ่าววิกตอเรียกันไว้ก่อนนะจ๊ะ

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

09.00 - 23.00 น.

► 5. Montane Mansion Building ( แฟลต Transformers )

รูปภาพ:

เห็นภาพแล้วพอคุ้นกันไหมคะเพื่อนๆ ใช่แล้วค่ะ

แฟลตนี้คือแฟลตที่ใช้ถ่ายทำหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Transformers

ชื่อว่า

Montane Mansion Building

จริงๆ แล้วที่นี่ก็คือแฟลตปกติเก่าๆ เป็นที่พักอาศัยของคนฮ่องกงธรรมดาๆ นี้แหล่ะ แต่ความเรียลๆ และสถาปัตยกรรมแบบนี้คือเสน่ห์ของฮ่องกงจริงๆ นะ

แนะนำว่ามาแล้วก็ให้ลองนั่งรถรางหรือ Tram ชมเมืองดู เราลองนั่งยาวไปย่านหลักอย่าง central จะบอกว่าผ่านจุดเจ๋งๆ เพียบ ภาพบนท้องถนน ตึกรามบ้านช่อง แนะนำให้นั่งชั้นบนนะชมวิวเพลินเวอร์ๆ

รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Quarry Bay Station Exit A,Tram ลง Mount Parker Road

Station

นั่ง Tram ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 2.6 HKD ตลอดสาย ถ้าไม่มีบัตร octopus ต้องเตรียมเงินหยอดตู้ให้พร้อม ไม่มีทอนนะคะ และจำไว้ว่าขึ้นข้างหลัง ลงข้างหน้าเท่านั้น และจ่ายเงินตอนลงไม่ใช่ขึ้นทางไหนจ่ายเมื่อไรก็ได้แบบบ้านเราน่า

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

ไม่มีเวลาเปิดปิด

► 6. ย่าน Central

รูปภาพ:

Centralเรียกว่าเป็นย่านดาวน์ทาวน์ของเกาะฮ่องกง

ย่านนี้สามารถเดินเล่นได้ยาวๆ เชื่อมกัน 2-3 สถานีซับเวย์เลยทีเดียว

ตลอดทางก็มีร้านค้าสวยๆ คาเฟ่ฮิปส์ๆ ให้เดินถ่ายรูปเพลินๆ รวมไปถึงยังมี Art space และพิพิธภัณฑ์อยู่ในย่านนี้เลย

จุดไฮไลท์ถ่ายรูปต่างๆ ที่เห็นใครมาฮ่องกงชอบมาถ่ายกันก็อัดกันอยู่ในถนนสายที่เรียกว่าHoliwood roadในย่านนี้แหล่ะค่า

แนะนำว่าควรจะแบ่งเวลาเที่ยวแถว Central อย่างน้อยๆ ครึ่งวันไปเลยค่ะ เดินกันยาวๆ ร้านเด็ดร้านดวงก็มีให้เข้าเพียบ ไม่ต้องกลัวหิว ว่าแล้วก็ไปสำรวจถนนย่าน Central พร้อมๆ กันเลย

▌Holiwood road ถนนสายฮิปส์เตอร์ ▌

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

▌PMQ - Arts space ▌

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

▌Tai Kwun - Centre for Heritage and Arts ▌

รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Central Station Exit D2 , Sheung Wan

Station Exit E2

อย่างที่บอกไปค่ะว่าย่านนี้เดินยาวได้ 2 สถานีเลย ใครสะดวกมาจากทางไหนก็ลองเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเจอจุดเช็คอินที่เราบอกแล้วค่า

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

10.00 - 22.00 น.

► 7. ย่าน Sham Shui Po และ Prince Edward

รูปภาพ:

ถ้าพวกเธอเป็นสายถ่ายรูปชอบชมวิถีชีวิตแบบเราแนะนำให้มาเดินเล่นในย่าน

Sham Shui Po และ Prince Edward

ระแวกนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่อยู่ติดกันค่ะ เดินได้เรื่อยๆ

ความดีงามของย่านนี้ก็คือเราจะเห็นตึรามบ้านช่องสีพาสเทลน่ารักๆ เต็มไปหมด

เหมือนกับว่าทางการฮ่องกงออกกฎว่าต้องทาตึกเป็นสีเฉดนี้ แต่มันดีอ่ะถ่ายรูปเพลินไปเลย

นอกจากนั้น Sham Shui Po ยังมีสตรีทอาร์ตHK Urban Canvasของศิลปินฮ่องกงหลายจุดแต่ต้องมาเช้าๆ นะ เพราะมันจะอยู่ตามประตูร้านค้าที่ยังไม่เปิด แล้วก็ยังมีจุดชมวิว Garden hillให้ขึ้นไปชมวิวย่านนี้ได้ในระดับที่เดินขึ้นไม่เหนื่อยมากด้วยนะ

▌HK Urban Canvas ▌

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

▌ ย่าน Prince Edward ▌

รูปภาพ:รูปภาพ:

การเดินทาง :

รถไฟฟ้า

Sham Shui Po และ Prince Edward Station


ลงสถานีไหนก็ได้ค่ะ เดินถึงกันได้ แนะนำว่าต้องไปแต่เช้าเลยนะคะไม่ควรเกิน 9.00 น. เพราะ HK Urban Canvas จะอยู่ตามประตูร้านค้า ถ้าร้านเปิดก็ไม่เห็นน้า

ค่าใช้จ่าย :

ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิด :

ไม่มีเวลาเปิดปิด

_______________________________________________________________

ใครไถมาถึงตรงนี้อยากบอกว่ารักมาก

ขอจบ EP.1 ไว้ที่ตรงนี้หวังว่าจะถูกใจสายแชะ ถ่ายรูปเก่งกันบ้างนะคะ

สำหรับ EP. หน้า สายบุญ , สายช้อป , สายชิม และเที่ยวมาเก๊า ขอให้รอเราก่อน!

จะรีบมาต่อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฮือออ

เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวฮ่องกงยังไงก็ฝากติดตามบทความนี้ด้วยนะ ก่อนจะจากอยากขายของ หลังจากเขียนกับ

Sista

Cafe

มานาน

ตอนนี้มีเพจเป็นทางการของตัวเองแล้ว

( แต่ยังเขียนอยู่ที่นี่ต่อไปนะจ๊ะ ) ขอฝาก

"หนี.หนี้.เที่ยว"

ของเราไว้ในอ้อมใจด้วย

ใครที่ชอบเที่ยวแบบงบประหยัด เที่ยวเองแบบชิลล์ๆ หรือเป็นหนี้แต่อยากเที่ยวแบบเราก็ตามไปกดไลค์ให้กำลังใจกันได้นะจ๊ะ