หลังจากที่ Summer บ้านเรา อยู่ดีๆ ก็มาไวแบบไม่บอกกล่าวนอกจากจะต้องเปลี่ยนสกินแคร์ แบบแทบไม่ทันตั้งตัวเครื่องสำอาง ตองก็ต้องเปลี่ยนบางตัวด้วยเช่นกันค่ะ ตองเป็นคนที่ผิวผสมแบบเดาใจน้องผิวเค้ายากมากๆ ในช่วงอากาศหนาวนิดๆ หน้าแก้มจะแห้ง มีแค่ทีโซนที่มัน พอเข้าหน้าร้อนปุ๊ป หน้าแก้มเริ่มมัน และทีโซนก็มันมว๊ากกกกหลังจากที่ได้ไปร่วมงานเปิดตัวและสอยแป้งผสมรองพื้นที่เด่นในเรื่องของความบางเบามาใช้ก็ขอถือโอกาสรวมแป้งผสมรองพื้น 4 ตัวเคาร์เตอร์แบรนด์ที่เด่นในเรื่องของความบางเบา และความน่าสนใจของแต่ละตัวนั้น คือ เทคโนโลยีของตัวแป้ง ที่เค้าฟาดฟันกันสุดๆค่ะรีวิวนี้เป็นการทดลองใช้ด้วยผิวของตองเองสำหรับบางคนอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป หรืออาจจะชอบและมีผลลัพธ์ใกล้เคียงกับตองนะคะ แป้งผสมรองพื้น 4 ตัวที่เค้าจะมาเล่าให้ฟังวันนี้ คือ

รูปภาพ:

โดยที่เค้าจะใช้คู่กับตัว Base ของ

THREE Pristine Complexion Veil ทั้งหมดนะคะ

หลังจากที่ใช้ ก็ติดใจ ความสบายผิว และติดทนสุดๆ เนื้อเป็นสีพีชนะคะ สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ให้ฟินิชที่บางเบา และฉ่ำวาว เบสตัวนี้ เค้าเป็นเนื้อแป้งที่ห่อหุ้มด้วยออยล์ 9 ชนิด และมีโมเลกุลเดียวกับน้ำมันของผิวหน้า ทำให้เค้ายึดติดกับผิวได้ดี ตลอดทั้งวันเลย

ก่อนจะเริ่ม ขอพูดถึงผิวตองในช่วงที่ทดลองใช้ “ เข้าหน้าร้อน, พักผ่อนน้อยและใกล้รอบเดือน ” ทำให้ผิวตองตอนนี้เลยมันง่ายมากๆ น้ำมันที่หน้าออกไวสุดๆ รูขุมขนกว้างเพราะพักผ่อนน้อย รีวิววันนี้เค้าเลยจะเน้นในเรื่องของความสบายของผิว ผิวหน้าจะได้หายใจบ้างมั้ยตลอดทั้งวัน และความคุมมัน คือเรื่องรองลงมาน้า

มาเริ่มที่ไอเทมที่ตองชอบที่สุดละกันเนาะ

รูปภาพ:

THREE Makeup Base

THREE PRISTINE

Complexion Veil + Complexion Powder Foundation

เค้าเป็นตัวแป้งผสมรองพื้น ที่เพิ่งเปิดตัวไป พร้อมกับ Face of THREE จนทำให้เค้าหลงรักมากๆ ก็คือ คุณอ้อม สุนิสา นั่นเองค่ะ จริงๆ เค้าก็เป็นแฟนของแบรนด์นี้อยู่แล้ว เพราะชื่นชอบทั้งสกินแคร์ และเมคอัพของเค้าเลย แล้วยิ่งคุณอ้อม สุนิสา เป็น Face of THREE เรียกได้ว่า เหมาะมากๆ เพราะความเป็นธรรมชาติ Minimal ที่เป็นตัวตนที่ชัดเจนของคุณอ้อม และผิวที่เรียบเนียน กระจ่างใส และดูสุขภาพดี ทำให้ อยากใช้คู่นี้ด้วยตัวเองมากๆแอบบอกก่อนเลยว่า คนที่ชอบงานผิว และชอบความบางเบา ต้องเลิฟ

รูปภาพ:

THREE

PRISTINE Complexion Powder Foundation SPF26 PA+++

ตองใช้เบอร์ 203 นะคะ

แพคเกจ :ตลับสีเทาเข้มแมท ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีช่องใส่แปรง ( จะเลือกซื้อเป็นฟองน้ำก็ได้นะคะ) และมีกระจกในตัวค่ะ เป็นฝาล็อค และตัวตลับมาน้ำหนักเบา เค้าชอบมากๆ จะได้พกง่ายๆ ด้านล่างตลับ สามารถกดเพื่อเปลี่ยนรีฟิลได้ง่ายๆ ค่ะ

เนื้อสัมผัส :ความพิเศษของแป้งผสมรองพื้นตัวนี้ คือ ได้ตัวแป้ง 2 สี จบในตัวสุดๆ ด้านบนที่เป็นสีสว่างคือ Slender Glow ( ไฮไลท์ ) ด้านล่าง คือ Slender Matte แป้งผสมรองพื้น ที่ช่วยดูดซับความมันได้ด้วย

Slender Matte :เนื้อแป้งมีเลเยอร์ที่บาง เมื่อลงบนผิวจะรู้สึกเบามากๆ สี 203 ต้องบอกว่า ใกล้กับสีผิวตองมาก พอปาดลงข้อมือ ในรูปดูแทบไม่ออกเลย เค้าให้สัมผัสที่เบา และบางมากๆ แต่ถ้าดูด้วยตา จะเห็นตัวแป้งเค้าเบลอผิวและทำให้ผิวบริเวณนั้น Matte ขึ้นทันที

Slender Glow :เป็นเนื้อแป้งไฮไลท์ สีสว่างกว่านิดหน่อย มีชิมเมอร์ที่ละเอียดมากๆ ถ้าลงบนผิว จะเห็นชิมเมอร์ละเอียดๆ ที่เล่นแสงได้เป็นอย่างดี แต่จะไม่ทำให้หน้าดูวาว เพราะฉะนั้นสำหรับตอง ถือว่าเหมาะมากกกกกก

รูปภาพ:

ตองจะซูมให้ชัดๆ เพื่อเปรียบเทียบรูขุมขนนะคะ

(ซ้าย) ลงแค่เบส (ขวา) ลงเบสและแป้ง

ความรู้สึกขณะที่ใช้ :ตัวแปรงเล็กลงได้ง่าย ปาดเนื้อแป้งขึ้นมาง่าย ไม่เยอะไม่น้อยเกินไป แป้งไม่ฟุ้งแม้ ใช้แปรงปัด

ความปกปิด :ปิดรอยสิวไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนผิวดีๆ ข้ามจุดนี้ไปได้เลย

ฟินิช :เค้าเบลอผิวได้ดีมากๆ ผิวดูดีขึ้นกว่าเดิมทันทีที่ลงแป้ง ให้ความรู้สึกที่เบาสบายผิวมากๆ ผิวเนียน ลื่น ตองชอบเลย สบายผิวมากๆ

เมื่อลง Slender Glow บริเวณโหนกแก้ม

รูปภาพ:

จะเห็นได้ว่าเค้าเป็นไฮไลท์ ที่มีความธรรมชาติมากๆ แต่ทำให้ผิวดูสวยขึ้น

รูปภาพ:

โดยรวม :ผิวดูสวยขึ้น กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และเค้าเบลอผิวได้เป็นอย่างดี ลงไม่ต้องเยอะ และทัชอัพระหว่างวันได้เลย มีกันแดดแต่ไม่ดรอประหว่างวันทั้ง Slender Matte และ Slender Glow

เนื้อแป้งเค้ามีเทคโนโลยีพิเศษ ที่ทำให้เกิดActive Skin

ใน Slender Matte แป้งนั้น จะมีแป้ง 3 เลเยอร์ และมีอณูแป้งอยู่ถึง 4 ชนิด ที่ชั้นแป้งทั้ง 3 ชั้น จะช่วยในการสะท้อนแสงที่กระทบลงบนผิว ทำให้ผิวดูเบลอ และเรียบเนียนมากขึ้น ร่วมทั้งช่วยดูดซับความมัน ระหว่างวันได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นตัว Slender Glow ที่ช่วยเพิ่มประกายให้ผิวดูมีมิติ ไม่แบนนั้น เค้าก็มีแป้งถึง 3 ชนิดเช่นกันค่ะ มีผงมุก ที่ช่วยให้มีกระกาย, Silky Powder และ ชั้นสีฟ้าที่เป็นแป้งที่มีอณูละเอียดมากกว่าที่เคยมีมา ช่วยสะท้อนแสงอีกที

ใครที่ชอบแป้งที่บางเบา สบายผิวหน้า ไม่ดรอป และติดทนนานตลอดทั้งวัน THREE ตอบโจทย์มากๆ เลยค่ะ

มาต่อที่ตัวต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพูดถึงทีละตัวก่อน แล้วท้ายสุด ตองจะเทียบผิวระหว่างวันที่ตองลงแป้ง ครึ่งหน้าเทียบกันให้ดูน้า

ตัวที่ 2 ที่ตองชอบนะคะ

รูปภาพ:

Laura Mercier Foundation Powder

สำหรับตัวนี้ จริงๆ ก็ได้ยินมาว่ามีคนที่ชอบตัวนี้กันเยอะพอสมควร เป็นตัวที่ราคาน่ารักที่สุดใน 4 ตัวนะคะ เป็นแป้งผสมรองพื้น เนื้อเนียน ที่มาพร้อมพัฟฟองน้ำ / พัฟกำมะหยี่ ซึ่งจะพกใส่ตลับได้แค่อันใดอันหนึ่งนะคะสำหรับแป้งตัวนี้เป็นแป้งผสานเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยในเรื่องการควบคุมความมัน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน สดใสยาวนานตลอดทั้งวัน ปราศจากความมันเงา และปกปิดจุดบกพร่องของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาตินะคะ

เค้ายังมีสารบำรุงผิว ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและมี Polymethyl Methacrylate ที่ทำหน้าที่กระจายแสงปกปิดจุดบกพร่องด้วยค่ะ สำหรับรุ่นนี้ เค้าเน้นเรื่องปกปิดด้วย สามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก

แพคเกจ :ตลับสีม่วงมุก ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ฝาล็อค มีกระจกในตัว มีชั้นแยกเก็บฟองน้ำด้านล่าง

เนื้อสัมผัส :เนื้อแป้งเค้าฟุ้งง่ายค่ะ แม้ใช้ฟองน้ำปาด เนื้อแป้งหนาเลย โทนเหลือง เนื้อเนียน ปาดลื่น

รูปภาพ:

ความรู้สึกขณะที่ใช้ :เนื้อแป้งหนา ปาดได้ง่าย ปกปิดดีค่ะ แต่เวลาลงผิวแล้วไม่รู้สึกหนักหน้าค่ะ

ความปกปิด :ปกปิดได้ดีเลย รอยดำ รอยแดงเล็กๆ กลบได้หมด แต่รอยใหญ่ๆ ก็ยังเห็นอยู่บ้างค่ะ

ฟินิช :ผิวดูเรียบเนียน ดูเหมือนถูกเบลอผิว สีผิวดูสม่ำเสมอ เพราะกลบรอยดำบนผิวได้ดี ให้ผิวที่ไม่มีความมันเลย ปกปิดได้ดี แต่ไม่หนักหน้า

โดยรวม :ราคาน่ารัก ปกปิดได้ดี โดนใจคนมีรอยสิว แต่เนื้อแป้งจะหนาไปหน่อย ถ้าวัดจาก ตัวแป้งเนื้อบางเบา แต่ถือว่าไม่ทำให้ผิวอึดอัด หรือรู้สึกว่าโบกแป้งมา ติดทนนาน ไม่ดรอประหว่างวันค่ะ

มาต่อที่ตัวที่ 3 กันเลยน้า

รูปภาพ:

Diorsnow

compact luminous perfection brightening foundation

SPF20 PA+++

สำหรับแป้งผสมรองพื้นตัวนี้เค้าเคยเห็นเพื่อนที่ลองใช้ บอกมาว่า เค้าช่วยให้ผิวดูมีความกระจ่างใสขึ้นสำหรับแป้งตัวนี้จะให้ผิวเนียนละเอียด ปกปิดริ้วรอยและจุดด่างดำ และควบคุมความมัน

แพคเกจ :ตลับสีขาวมุก ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝาแม่เหล็ก ชอบบบตรงนี้ มีกระจกในตัว มีช่องใส่ฟองน้ำ และที่ซองกำมะหยี่สีเทาเอาไว้เก็บตลับด้วย | ฟองน้ำของตัวนี้เค้าพิเศษตรงที่ มีด้านที่เป็นฟองน้ำและมีด้านที่เป็นกำมะหยี่ค่ะ ซึ่งเค้าจะให้งานแป้งที่แตกต่างกันแบบในรูปเลย เค้าแนะนำเอาไว้ว่า ให้ลงด้วยฟองน้ำก่อน แล้วจะใช้กำมะหยี่ในการเติมระหว่างวันก็ได้ค่ะ

เนื้อสัมผัส :เนื้อสีใกล้เคียงกับสีผิวตองเลย เนื้อเนียน ให้เลเยอร์ปานกลาง เนื้อมีความลื่น ปาดลงผิวได้ง่ายค่ะ

รูปภาพ:

ความรู้สึกขณะที่ใช้ :เนื้อแป้งเนียน ปาดลงผิวได้ง่าย พลางรูขุมขนให้ดูเบลอทันทีที่ปาดลง เนื้อเลเยอร์ปานกลาง บิ้วได้

การปกปิด :ปกปิดได้ปานกลาง แต่ไม่ปกปิดรอยสิวของตอง ( รอยเราชัดเองโทษใครไม่ได้ )

ฟินิช :ผิวดูโกลว์ กระจ่างใสขึ้นทันที ตามสีผิวเรา แต่กระจ่างใสขึ้น 1 สเต็ป และช่วยให้ผิวที่ดูเรียบเนียนมากขึ้น เบาสบายผิว

โดยรวม :ให้ฟินิชที่ผิวกระจ่างใสขึ้น ผิวดูเนียน เพราะเค้าช่วยเบลอผิว ให้ผิวที่ดูเนียนและลื่น รู้สึกเบาสบายผิวดีค่ะ เต่เค้าดรอประหว่างวันนิดหน่อย

เค้าเป็นนวัตกรรม 3C’s ( Correction, Control & Comfort ) ที่จะช่วยในการลดเลือน อำพรางรอยบงพร่องของผิว ควบคุมความมัน และมีเม็ดสี Water Light ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ละเอียด เบาสบายผิวค่ะ

-

มาต่อที่ตัวสุดท้ายกันเลยคร่า

รูปภาพ:

Chanel le blanc whitening compact foundation

SPF 25 PA+++

แป้งผสมรองพื้น เพื่อผิวขาวกระจ่างใส เปล่งประกาย ติดทนนาน ผสานคุณค่า Thermal Comportสำหรับตัวนี้ตองคิดว่า เทคโนโลยีเค้าน่าสนใจ เลยจัดมารวมในลิสนี้ด้วยเลย

แพคเกจ :ตลับสีขาว ทรงสี่เหลี่ยม ฝาล็อค ไม่มีชั้นแยกเก็บพัฟ มีกระจกในตัว และมีซองคล้ายๆ ยางกำมะหยี่สีดำเอาไว้เก็บตลับ พัฟมาเป็น 2 ด้าน ด้านฟองน้ำ และด้านกำมะหยี่ค่ะ

เนื้อสัมผัส :อย่างแรกเลยคือ กลิ่นหอมลอยออกมาตั้งแต่ยังไม่เปิดตลับบบบบ หอมมมม ~ เนื้อแป้งเนียน มีเลเยอร์ปานกลาง

การปกปิด :ปกปิดได้ปานกลาง แต่ยังกลบรอยสิวตองไม่ได้ T T

รูปภาพ:

ความรู้สึกขณะที่ใช้ :มีพัฟที่ใหญ่ ประหยัดเวลาการลงได้เยอะเลย เนื้อแป้งเนียน ปาดลงผิว และเกลี่ยได้ทั่วหน้าได้ง่าย เลเยอร์ความหนากลางๆ ผิวดูเบลอขึ้น กระจ่างใส เงาๆ ทันที

ฟินิช :ให้ผิวที่ดูกระจ่างใสขึ้น ผิวดู ปกปิดปานกลาง สีผิวดูสม่ำเสมอ

และผิวดูไม่หนา เบาสบายผิวค่ะ

โดยรวม :ชอบที่หอมตั้งแต่ยังไม่เปิดตลับ เค้าให้งานผิวที่ดูเป็นผิวอยู่ ปกปิดปานกลาง แต่ให้ผิวที่ดูเบลอ เนียนๆ ส่วนนี้เค้าชอบนะ แค่ความกระจ่างใส เค้าเป็นประกาย เลยเหมือนมาเน้นดูขุมขนตองไปนิดนึง

ถ้าเป็นคนที่มีรูขุมขนเล็ก หรือผิวเรียบเนียนกว่าตอง ตองว่าตัวนี้จะช่วยให้ผิวดูเป็นประกายที่สวยเลย เพราะเค้ามีเทคโนโลยี Smart Thermal Complex ที่ช่วยปรับให้ผิวสว่างขึ้นทันที เพราะเป็นการหักเหของแสง

ด้วยเม็ดสี เซรามิค Active Enlightening Ceramic และยังเป็นเกราะป้องกันผิว จากอากาศที่เปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันได้ ไม่ให้เกิดการระคายเคือง หรือหมองคล้ำนั่นเองค่ะ

-

หลังจากที่พูดถึงแต่ละตัวไปแล้ว เค้าลองลงแป้งทั้ง 4 ตัว วันละ 2 ตัว ลงครึ่งหน้าโดยที่เบสงานผิวด้วย THREE Pristine complexion Veil และก็ลงด้วยแป้งต่อเลย

สภาพแวดล้อมวันที่ทดลองดูผิวนะคะ

“ ทำงานทั้งวัน ในห้องที่มีลมโกรก แต่ไม่ได้ติดแอร์ ตั้งแต่ช่วงสายถึงเย็น ” และสภาพผิวในวันที่ทดลอง

“ เข้าหน้าร้อน, พักผ่อนน้อยและใกล้รอบเดือน ”

ทำให้ผิวตองมันง่าย น้ำมันที่หน้าออกไวสุดๆ รูขุมขนกว้างเพราะพักผ่อนน้อย

รูปภาพ:

: ความปกปิด :ปกปิดน้อยที่สุด > ปกปิดมากที่สุด

THREE > Diorsnow > Chanel > Laura Mercier

: ความเบาสบายผิว :เบาสบายผิวน้อยที่สุด > เบาสบายผิวมากที่สุด

Laura Mercier > Chanel > Diorsnow > THREE

: ความคุมมัน & ความเรียบเนียน :

ส่วนนี้ขอพูดเยอะอีกนิด เพราะหลังจากที่นั่งสังเกตตัวเองตลอดทั้งวัน

ตองลองวัดที่ เห็นด้วยตา และ ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ ( NOTE9 )

THREE

PRISTINE Complexion Powder Foundation SPF26 PA+++

ดูด้วยตา ผิวดูเบลอสวยมากๆ เหมือนตั้งแต่ตอนเช้า แต่พอใช้กล้องถ่ายรูป กลับดูมันกว่า D

Diorsnow

compact luminous perfection brightening foundation

ดูด้วยตาแล้ว เห็นรูขุมขนชัดกว่าตอนแรกที่ลงแป้ง ผิวดรอฟระหว่างวันนิดหน่อย แต่พอถ่ายรูปดูมันน้อยกว่า T

Chanel

le blanc whitening compact foundation

หลังจากลงตอนเช้า ผิวดูเป็นผิว รองจาก T และกระจ่างใส สวย แต่ระหว่างวันผิวมันไวที่สุด ความมันบนหน้าเห็นชัด เลยเน้นให้เห็นรูขุมขน ดรอปลงจากตอนแรกค่ะ ( คนที่ผิวไม่มันอาจจะเหมาะกว่าค่ะ )

Laura Mercier

Foundation Powder

ให้ฟินิชผิวที่เนียนมาก เพราะด้วยแป้งที่เนียนและมีเลเยอร์ หนาสุดใน 4 ตัว แต่ที่ชอบคือ ไม่ดรอประหว่างวัน มีความมันออกมา พอซับแล้วผิวมันใกล้เคียงกับ C แต่บนผิวกลับไม่มีความวาวให้เห็นส่วนนี้คือว้าว เลยเลิฟเป็นอันดับ 2 เลยค่ะ

-

ครบทั้ง 4 ตัวแป้งรองพื้นเนื้อบางเบาที่เหมาะกับซัมเมอร์ ทั้ง 4 ตัวให้งานผิวที่ดูเป็นผิวอยู่ค่ะ และดูผิวสวยแต่ตองว่าต้องแล้วแต่คนด้วย ที่เป็นคนหน้ามัน หรือหน้าแห้งอาจจะเหมาะต่างกัน แต่โดยรวม ผิวเบาสบายตลอดทั้งวัน เหงื่อออก หรืออากาศร้อน ก็ไม่รู้สึกเหนอะ หนะหรือเยิ้มเลย ถือว่าคุมมันได้ดี เพราะตองเป็นคนที่หน้ามัน แต่ที่บอกว่าดีเพราะ อดีตเคยเจอความรู้สึกหน้าเยื้มจนแป้งจะไหล แต่ 4 ตัวนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยค่ะตองให้ผ่านๆๆๆ ทั้ง 4 ตัวเลยแต่ถ้าถามว่าตองชอบตัวไหนมากที่สุด จริงๆ บอกไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วแหละ ฮ่าๆๆ

รูปภาพ:

ก็คือแป้งผสมรองพื้น ตัวนี้ของ THREE นั่นเองค่ะ เพราะเค้าให้ความเบาสบายของผิวมากๆ และคุมมันได้ดี ถึงแม้เค้าจะมีเนื้อที่บางมากๆ ก็ตาม เค้าเบลอผิวได้ดีมากๆ ตลอดทั้งวัน คือ ต้องลองเอง เพราะตองชอบตรงที่เห็น ผลลัพธ์ ได้ด้วยตามากกว่า ตองเลยเลิฟสุดๆ ถ้าสวยในกล้อง ปกติก็ปรับแอฟนิดหน่อยอยู่ละ ๕๕

เติมแป้งเพิ่มระหว่างวันก็ได้งานผิวแบบเดิมที่ลงตอนเช้า แถมยังมีไฮไลท์ในตัว เอาเป็นว่าเลิฟสุดๆ ใช้กับรองพื้นก็ดีงามมากๆ เพราะเบาสบายผิวว เอาเป็นว่า ช่วงนี้ก็ทั้งตบตอนเช้า แล้วพกใส่กระเป๋าระหว่างวันแน่นอน แล้วเจอกันใหม่ รีวิว หน้านะคะ

xoxo