ลองดูก่อน เผื่อเวิร์ก!? แชร์ 5 เทคนิคช่วยตัดสินใจว่าจะ 'ตัดผมสั้น' ดีมั้ย? #รอดไม่รอดจะได้รู้กัน
เคยเป็นกันบ้างมั้ยคะ อยากตัดผมสั้นแต่ก็กลัวว่าจะไม่รอด เลยยังค้างคาใจไม่รู้จะเอาไงต่อดี... งานนี้เลยต้องรีบตามมาส่อง 5 เทคนิคช่วยตัดสินใจว่าจะ 'ตัดผมสั้น' ดีมั้ย!? ที่เราเอามาแชร์กันได้เลย
เผยแพร่: 21 พ.ค. 2562 18:06 น.
Views: 18,283
รหัสบทความ: 66994
... หน้าร้อนแบบนี้ ตัดผมสั้นดีรึเปล่านะ!? ...
สาวคนไหนกำลังเกิดคำถามแบบนี้กับตัวเองอยู่บ้างคะ ยกมือขึ้นให้ดูหน่อยเร็ววว วว...แหมๆ เราเข้าใจดีเลยนะคะว่าสำหรับผู้หญิงเราแล้วน่ะ รักผมเท่าชีวิต ยอมพลีชีพเพื่อเส้นผมเลยนะพวกเธอก็กว่าจะไว้ผมมายาวขนาดนี้ได้น่ะ ต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการดูแลให้ผมสวยเป๊ะแบบนี้แล้วพอเทรนด์ผมสั้นรับซัมเมอร์มาฮอตฮิตเบอร์แรงในช่วงนี้ใจนึงก็อยากลองหั่นผมสั้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่อีกใจก็แอบเสียดายผมเพราะถ้าตัดสั้นแล้วมันไม่รอดเนี่ย งานนี้ก็มีนอยด์ (หนักมาก) ได้เหมือนกันนะจ๊ะ
เพราะฉะนั้นคุณสาวๆSistaCafeที่อยากจะลองหั่นผมสั้นเปลี่ยนลุคดูสักครั้งแต่ยังไม่ค่อยมั่นใจวันนี้เราก็มี5 เทคนิคช่วยตัดสินใจว่าจะ ‘ตัดผมสั้น’ ดีมั้ย?มาแชร์ให้ได้ลองไปใช้พิจารณากันดูก่อนตัดสินใจตัดผมจริงๆ กันมาค่ะ! ถ้าอยากรู้ว่าชั้นคนนี้ตัดผมสั้นแล้วจะรอดหรือตาย ก็ตามไปเช็คพร้อมกันได้เลยยย ยย
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━
▼ 1. ลองซื้อวิกผมสั้นทรงที่อยากตัดมาใส่ดูก่อน ▼
ซิสคะ! ใจเย็นๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจเดินเข้าร้านทำผมไปให้ช่างหั่นผมซะสั้นกุดไปก่อนล่ะ เพราะถ้ายังไม่ชัวร์ว่าตัวเองตัดผมสั้นแล้วจะรอดหรือไม่รอด เราก็ขอแนะนำให้ลงทุนซื้อวิกผมสั้นมาลองใส่ดูก่อนจะเซฟกว่านะเธอจ๋าซึ่งสมัยนี้เค้ามีวิกผมให้เลือกซื้อกันหลากหลายแบบ หลากหลายราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้นเองนะงานนี้ก็ลองเดินเลือกวิกผมสั้นที่ตรงกับทรงผมที่อยากลองตัดดู ไม่ว่าจะเป็นผมบ็อบ ผม LOB ผมสั้นแบบมีหน้าม้า สไลด์หน้า ซอยหลัง ฯลฯ ก็มีมาให้เลือกซื้อกันแบบจุใจ
ซึ่งการที่เราซื้อวิกผมสั้นมาลองใส่ดูก่อนนอกจากจะทำให้รู้ว่าถ้าเราหั่นผมสั้นแล้วจะรอดหรือไม่ได้แล้ว ยังช่วยให้เราสามารถหาทรงผมสั้นที่เข้ากับรูปหน้าและสไตล์ก่อนที่จะตัดสินใจตัดผมฉับๆ จริงได้อีกด้วยนะ
▼ 2. ใช้เทคนิคลองทำผมสั้นแบบไม่ต้องตัดจริง ▼
อ๊ะๆ ถ้าใครที่เป็นสายประหยัด ไม่อยากเสียเงินซื้อวิกผมมาลองใส่ดูก่อน (ถึงแม้จะแค่หลักร้อย ก็แอบเสียดายเงินเบาๆ)เราก็มีวิธีที่ง่ายแถมยังไม่ต้องเสียสตางค์สักบาทเดียวมาให้ได้ลองทำตามกันดูด้วยล่ะก็ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะตัดผมสั้นหรือไว้ผมยาวต่อไปดี ก็ให้ลองใช้เทคนิคการทำผมสั้นแบบไม่ต้องตัดจริงดูสิคะเราขอบอกเลยนะว่าวิธีนี้ก็จะช่วยทำให้ผมของคุณสาวๆ ดูสั้นลง เหมือนๆ กับการลองใส่วิกยังไงยังงั้นแต่ช่วยเซฟเงินได้เยอะเลยนะยูววว วว#สายประหยัดห้ามพลาด
โดยวิธีการทำผมสั้นแบบไม่ต้องตัดจริงด้วยตัวเอง ก็ทำตามได้ง่ายสุดๆ ไปเลยนะคะเพียงแค่ซิสม้วนปลายผมในทิศทางม้วนเข้าจากนั้นก็ค่อยๆ ใช้นิ้วม้วนผมขึ้นไปเป็นช่อๆในระดับความยาวผมที่ต้องการแล้วใช้กิ๊บดำเก็บผมให้อยู่เท่านี้ก็ช่วยทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วล่ะว่าควรจะตัดผมดีมั้ย
▼ 3. เปิดกล้องลองกับแอปฯ ดูซิว่าผมสั้นแล้วผ่านรึเปล่า? ▼
สาวคนไหนที่เป็นสายเทคโนโลยีตัวแม่ ชอบโหลดแอปฯ ใหม่ล่าสุดมาลองเล่นก่อนใคร งานนี้ก็คงจะต้องนำเทคโนโลยีล้ำๆ มาใช้กับเรื่องความสวยความงามบ้างแล้วล่ะก็สำหรับคุณสาวๆ ที่อยากจะลองตัดผมสั้น แต่กำลังชั่งใจเพราะกลัวตัดผมออกมาแล้วไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการ#เงิบแน่แบบนี้เดี๋ยวนี้เค้าก็มีแอปฯ จำลองทรงผมมาให้สาวซิสอย่างเราได้ใช้งานกันเต็มไปหมดเลยล่ะ
เจ้าแอปฯ เปลี่ยนทรงผมส่วนใหญ่ ก็เน้นการใช้งานที่ง่ายแล้วก็สะดวกมากเวอร์เลยนะแค่เปิดกล้องถ่ายรูปหน้าของตัวเองจากนั้นก็คลิกเปิดแอปฯ ที่เราโหลดเก็บเอาไว้ เสร็จแล้วก็เลือกทรงผมที่โดนใจจะเป็นทรงผมสั้นทรงไหน ผมบ๊อบ บ๊อบเท แสกข้าง แสกกลาง ก็มีมาให้เลือกกันจนตาลายเลยล่ะแถมบางแอปฯ เรายังสามารถลองเลือกเปลี่ยนสีผมดูได้อีกด้วยนะว่าผมสีไหนจะเข้ากับตัวเรามากที่สุดอื้อหือ บอกเลยว่าคราวนี้ก็เลือกทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าได้จริงๆ ไม่ต้องไปนั่งลุ้นหลังตัดผมเสร็จอีกต่อไปแล้ว
▼ 4. เช็คตัวเองด้วย ‘เทคนิค 2.25 นิ้ว’ ว่าเหมาะกับผมสั้นมั้ย? ▼
คราวนี้ตามมาส่องเทคนิคที่จะช่วยทำให้การตัดสินใจหั่นผมสั้นง่ายขึ้นข้อต่อไปกันเลยดีกว่าก่อนอื่นเราก็ขอแอบถามคุณสาวๆ หน่อยซิคะว่ามีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับ‘เทคนิค 2.25 นิ้ว’กันบ้างรึเปล่าเอ่ย?มามะๆ ไม่ต้องงงกันอยู่นานหรอกนะจ๊ะเจ้าเทคนิค 2.25 นิ้ว หรือ 5.5 เซนติเมตรเนี่ย ก็คือเทคนิคที่ถูกคิดค้นโดยคุณJohn Friedaนักออกแบบทรงผมจากเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษโดยเค้าก็จะใช้เทคนิคนี้ในการดีไซน์ว่าสาวคนไหนเหมาะที่จะตัดผมสั้นและสาวคนไหนเหมาะที่จะไว้ผมยาวมากกว่ากัน
แต่สาวซิสอย่างเราก็สามารถนำเทคนิคนี้มาใช้ด้วยตัวเองได้เหมือนกันนะ เพียงแค่ไปหาไม้บรรทัดมาหนึ่งอัน จากนั้นก็ถือไม้บรรทัดในแนวตั้ง แล้วเริ่มวันจากบริเวณติ่งหูไปจนถึงระยะปลายคางถ้าเกิดว่าระยะความยาวที่วัดได้น้อยกว่า2.25 นิ้ว หรือ 5.5 ซม. ก็แสดงว่าตัดผมสั้นแล้วรอดแต่ถ้าระยะความยาวที่วัดได้มากกว่านั้น ก็แสดงว่าการไว้ผมยาวจะรับกับใบหน้าและดูเหมาะกว่านั่นเองค่ะ
▼ 5. ปรึกษา ‘นักออกแบบทรงผม’ ที่ร้านทำผมเพื่อความชัวร์ ▼
เห้อออ ออ ลองซื้อวิกมาก็แล้ว ลองใช้แอปฯ ก็แล้ว ลองวัดความยาวใบหน้าก็แล้ว แต่ในใจก็ยังรู้สึกตะหงิดๆ ยังไม่ชัวร์ว่าถ้าเราตัดผมสั้นแล้วจะรอดจริงรึเปล่า…ขอบอกเลยนะคะว่าสาวคนไหนที่ลองทำทุกวิธีด้วยตัวเองไปจนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้แบบเต็ม 100% แบบนี้เราก็ขอแนะนำให้ไปปรึกษาช่างทำผมหรือนักออกแบบทรงผมที่ร้านเสริมสวยไปเลยจะดีกว่านะก็เพราะว่าพวกเค้าเหล่านี้เนี่ยมีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ จนเรียกได้ว่าเป็นกูรูเรื่องทรงผมเลยยังไงล่ะ
ที่สำคัญนอกจากเราจะได้คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญว่าตัดผมสั้นแล้วจะผ่านหรือไม่แล้วเนี่ยเผลอๆ นักออกแบบทรงผมเค้าก็อาจจะช่วยวิเคราะห์ทั้งรูปหน้าและสภาพเส้นผมของเรา ว่าควรจะตัดผมทรงไหนถึงจะเหมาะสมที่สุดรับรองเลยว่าถ้ากูรูคอนเฟิร์มเองขนาดนี้แล้ว คุณสาวๆ ต้องได้ทรงผมที่เป๊ะแน่นอน
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━
ใครที่กำลังลังเลใจอยู่ตอนนี้ ก็อย่าลืมนำทั้ง 5 ข้อที่เราลิสต์มาฝากกันไปลองทำตามกันดูนะคะ จะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจให้ชัวร์ ก่อนที่จะต้องมานั่งเสียใจทีหลังเพราะทรงผมไม่ถูกใจ แหมๆ ก็การเลี้ยงผมให้กลับมายาวได้อีกครั้งน่ะ มันไม่ง่ายเหมือนกันหั่นผมสั้นฉึบๆ ฉับๆ ตัดแค่ไม่กี่นาทีนี่เธอ เชื่อเจ้สิ!