หน้าฝนมาแล้วจ้ะแม่!! 7 เทคนิคเตรียมตัว 'ดูแลผิวในวันฝนตก' #สวยใสในฤดูฝน
season change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนมาเราจึงต้องดูแลผิวให้มากกว่าเดิม #สวยทุกฤดูกาล
เผยแพร่: 22 พ.ค. 2562 11:09 น.
Views: 5,635
ฮาโหลสาวๆนี่ก็ใกล้จะเข้าฤดูฝนกันอย่างเต็มตัวแล้ว แน่นอนว่าสาวๆ หลายคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ระวังเรื่องสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอแต่ถึงอย่างนั้น เราก็ต้องไม่ลืมดูแลผิวหน้าของเราด้วย เพราะในฝนมีทั้งฝุ่นละออง เชื้อโรคและสิ่งสกปรกมากมายแม้จะกางร่ม ใส่เสื้อกันฝนยังไงก็ปิดไม่มิด 100% หรอกค่ะซิสวันนี้เราก็เลยเอาเทคนิคเกี่ยวกับการดูแลใบหน้าในฤดูฝนมาฝากสาวๆ กันโดยรับรองว่าใช้ได้จริง มีประโยชน์สุดๆ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเทคนิคอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
#1 ล้างหน้าให้สะอาดเสมอ
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะโดยปกติแล้วแม้ว่าฝนจะไม่ได้ตก เวลากลับถึงบ้านเราก็แนะนำให้ล้างหน้าทันทีอยู่แล้ว
แต่นี่สาวๆ ไปโดนน้ำฝนที่เต็มไปด้วยฝุ่น สิ่งสกปรกต่างๆ และเชื้อโรคมากมาย ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้
ดังนั้นจะไม่ให้รีบล้างหน้าก็คงไม่ได้ คำแนะนำก็คือ
ให้พยายามเลือกผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน หรือหันไปหาผลิตภัณฑ์สูตรออร์แกนิก
ก็จะดีกว่า เพราะมันช่วยลดอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นนะคะ
#2 อย่าลืมลงโทนเนอร์
โดยปกติแล้ว สาวๆ บางคนอาจจะไม่ใช้โทนเนอร์ ไม่ว่าจะเพราะลืม ขี้เกียจ ไม่อยากเสียเงิน หรือไม่เห็นถึงความสำคัญก็ตาม แต่เมื่อเขาฤดูฝนเราแนะนำว่าให้เธอใช้มันอย่างจริงจัง สาเหตุเป็นเพราะ
การสัมผัสกับความชื้นและฝน สามารถทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก และเกิดการอุดตันของรูขุมขนได้
ดังนั้นเราจำเป็นต้องเอาสิ่งสกปรกออกไปให้หมด ที่สำคัญฝนยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ
เราจึงควรเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้ผิวเข้าสู่สภาพปกติ ด้วย
นะคะ แต่ถ้าไม่ชอบใช้ทุกวันก็แนะนำว่าใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งนะคะ
#3 ดื่มน้ำมากๆ
จริงๆ แล้วทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่า " น้ำ " คือสิ่งที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่งและอิ่มน้ำตลอดทั้งปี
แต่ในฤดูฝนอากาศจะค่อนข้างเย็น อาจทำให้สาวๆ หลายคนไม่ค่อยหิวน้ำสักเท่าไรนัก
แต่ก็ยังไงตามไม่ว่าจะหิวหรือไม่สาวๆ
ก็ควรดื่มน้ำบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
เพื่อร่างกายจะได้ทำงานได้ปกติ ที่สำคัญยังเป็นการขับสารพิษ ทำให้สาวๆ รู้สึกสดชื่นอีกด้วยนะคะ
#4 สครับผิวให้บ่อยขึ้นอีกนิด
วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยเลี่ยงการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดสิวในช่วงฤดูฝน ก็คือการสครับผิว โดยแนะนำว่า
สาวๆ ควรสครับผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครัั้ง เพื่อช่วยขจัดสิ่งอุดตันและขัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป
และอาจพอกหน้าหรือทาน้ำมันหอมระเหยหลังจากสครับผิวทันที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า รวมถึงลดความหบายกร้านของผิว
สาเหตุเป็นเพราะความชื้นจากฝน จะทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ง่ายกว่าฤดูอื่นๆ นั่นเอง
โดยสครับที่แนะนำก็คือ สครับข้าวโอ๊ตสำหรับผิวมัน เพราะจะช่วยลดความมันให้น้อยลง ส่วนสาวผิวแห้งก็แนะนำให้ใช้สครับอัลมอนด์และน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวนะคะ
#5 แต่งหน้าให้น้อยที่สุด
จริงๆ แล้ว " การแต่งหน้าในฤดูฝน " ควรเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอทำ เพราะเมื่อเมคอัพมาเจอกับฝน ก็จะทำให้เกิดการพังและสกปรกได้ง่ายกว่าฤดูอื่นๆ แต่การที่เราจะ " โนเมคอัพ " หน้าสดทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นแนะนำให้แต่งหน้าน้อยๆ เน้นทาลิปกลอสและตบแป้งบางเบาเพื่อป้องกันการอุดตันก็พอและถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเครื่องสำอางที่กันน้ำออกมามากมายแต่ในช่วงฤดูฝนมันจะมีความชื้นในอากาศเยอะ ซึ่งมีผลทำให้รูขุมขนกว้างได้ง่ายๆ กว่าเลยทำให้อาจเกิดสิวได้ง่ายกว่าเช่นเดียวกัน ดังนั้นคิดให้ดีก่อนแต่งหน้าเต็มนะคะ
#6 เช็คส่วนผสมของ ครีม หรือ สกินแคร์ ให้ดี
ก่อนที่จะใช้เซรั่ม หรือครีมบำรุงผิว เราแนะนำว่าให้สาวๆ อ่านและทำความเข้าใจส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อน เป็นการเช็คให้แน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยและมีสุขภาพผิวที่ดี
โดยแนะนำว่าให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาก ใบชา, ว่านหางจระเข้, น้ำผึ้ง, มะนาวหรือสะเดา
เพราะสารสกัดพวกนี้จะช่วยบำรุงทำให้ผิวของเราแข็งแรง และคนส่วนใหญ่มักจะไม่แพ้ ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงสาร breakouts, infuse ที่อาจจะทำให้เกิดสิวได้นะคะ
#7 ทาครีมกันแดด
แม้ว่าท้องฟ้าจะไม่มีแสงแดด ( ที่ตาเรามองเห็น ) ฝนตกอึมครึมทั้งวัน ก็
ห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด
เพราะจริงๆ แล้ว
รังสียูวีนั้นสามารถทะลุผ่านก้อนเมฆมาทำร้ายผิวของเราได้อยู่ดี
อย่าไปคิดว่ามันไม่มีนะคะ นี่ยังไม่นับรังสีจากหน้าจอคอม และโทรศัพท์ที่เราเล่นกันตลอดทั้งวัน เพราะมันจะทำให้เกิดฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัยนะคะ
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับ 7 ข้อ การดูแลผิวในช่วงฝนตกที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ ทั้งนี้เราหวังว่าสาวๆ ทุกคนจะเอาไปใช้ดูแลตัวเองกันนะคะ แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ถ้าไม่ทำให้ดีก็อาจจะทำร้ายผิวได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว เอาล่ะ แล้วครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามเรานะคะ วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย