ข้อดีของการบอกให้เค้ารู้ว่าเรา ' รักนะ/ชอบอะ ' เธอจะได้มีความกล้า ไปสารภาพรัก! #แอบรักต่อไปไม่ไหวแล้ว

" ลังเลอะ จะบอกเขาดีไหมนะ? "

ก็รู้อยู่หรอกว่าการสารภาพรักกับใครสักคนมันเป็นเรื่องที่ยากมาก การที่เธอจะรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกเขาไปว่าชอบดีหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามากเลยนะ แต่ถ้าเอาแต่เก็บเงียบไว้ในใจตัวเองต่อไปเรื่อยๆ อย่างนี้... แล้วเมื่อไรเธอจะสามารถก้าวไปข้างหน้าต่อได้ล่ะ!

ไม่ได้นะ!

ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความลังเลต่อไปไม่ได้ เธอต้องลองมาส่อง

" ข้อดีของการบอกความรู้สึกกับเขา "

แล้วล่ะ เธอจะได้มีความกล้าที่จะพูดมากขึ้น

ว่าแล้วก็ไปส่องกันเลยดีกว่าเนอะ

+ 1. ไม่รู้สึกติดค้างอะไรในใจ +

ถามก่อนเลย...

เธอรู้สึกเหนื่อยมากไหมกับการที่ต้องทนเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ในใจ แล้วเอาแต่เฝ้ามองเขาอยู่เงียบๆ ไม่ก็แกล้งทำเป็นเพื่อนแสนดีอยู่แบบนี้อะ ขนาดเราพูดเอง ก็ยังรู้สึกเลยว่ามันเหนื่อยเหลือเกิน...

ไม่สู้บอกเขาไปเลยไม่ดีกว่าเหรอว่า " ชอบนะ "

แล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ในใจ

เธอก็จะได้ไม่มีความรู้สึกติดค้างต่อเขาเหลืออยู่อีก

ไม่ต้องเหนื่อยกับการแบกรับความรู้สึกแอบชอบไว้แล้วด้วย!

+ 2. เธอสามารถก้าวไปข้างหน้าต่อได้ +

เดินหน้าต่อ เพื่ออนาคตที่ดีของตัวเอง!

เธอเอาแต่ลังเลอยู่นั่นแหละ ระหว่างบอกกับไม่บอกเขา สุดท้ายเธอก็ยืนอยู่ที่เดิม ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าต่อได้เลย ทำแบบนี้ก็เหมือนเธอเป็นการปิดกันอนาคตของตัวเองไปในตัวด้วยนะ บอกไปเถอะค่ะ

บอกแล้วเธอก็จะได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์ในรูปแบบคู่รักกับเขาได้เสียที

+ 3. เธอจะได้มีสมาธิมากขึ้น! +

จิตใจของเธอจดจ่ออยู่แค่เขา!

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ ในหัวของเธอก็จะมีแต่เรื่องของเขาเพียงอย่างเดียว แล้วจิตใจก็จะเต็มไปด้วยความกังวลจนในท้ายที่สุด เธอก็ไม่สามารถรวบรวมความกล้าที่จะเข้าไปบอกกับเขาได้เลยว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร! ช่วงที่เธอยังไม่จดจ่ออยู่กับเรื่องของเขามากเกินไป ในใจยังมีความกลัวอยู่ไม่น้อย เธอก็รีบอาศัยช่วงจังหวะนี้ไปสารภาพกับเขาเลยค่ะ!

เพราะหลังพูดออกไปแล้ว เธอจะได้เอาความสนใจของตัวเองไปโฟกัสกับเรื่องอื่นได้เสียที

+ 4. ไม่รู้สึกเสียใจในภายหลัง +

เธอจะรู้สึกเสียใจไหม? ถ้าไม่ได้บอกออกไปจนทุกอย่างสายเกินไป

ในเมื่อเธอรู้สึกลังเลว่าถ้าบอกออกไปแล้ว สายสัมพันธ์ที่มีกับเขาในตอนนี้อาจจะพังทลายเอาได้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ถามตัวเองก่อนเลย เสียใจไหม ถ้ามารู้ในภายหลังว่าเขามีแฟนแล้ว แต่เธอไม่เคยบอกเขาเลยสักครั้งว่ารู้สึกยังไง หากถามแล้วผลออกมาว่าเป็น

" เยส "

เธอก็ไปบอกกับเขาเลยค่ะ แล้วไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไร เธอก็จะไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เขาออกไปแน่นอน!

+ 5. มีโอกาสได้เปลี่ยนสถานะกับเขา +

อย่าได้เขินอาย บอกไปเลย!

สมัยนี้ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายรอให้ผู้ชายมาสารภาพรักเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้วนะคะ หากเธอไร้ซึ่งความกล้า ผู้ชายที่เธอรู้สึกดีๆ ด้วยก็อาจจะโดนผู้หญิงคนอื่นตัดหน้าไปก่อนก็เป็นได้นะ ดังนั้นเธอ

รีบไปบอกกับเขาให้ไวเลย เธอจะได้มีโอกาสเปลี่ยนสถานะกับเขา

ไง!

+ 6. ไม่มีความรู้สึกเสียดาย +

เสียดาย... เสียดายอะ ที่ไม่กล้าบอกออกไป!

สมัยช่วงที่ยังดีๆ กันอยู่ เขาก็ค่อนข้างแสดงออกมากแล้วนะว่าชอบเราน่ะ แต่เธอกลับเอาแต่หลบหนีอยู่นั่นแหละ ปากก็หนัก ไม่ยอมสารภาพความรู้สึกออกไปตรงๆ เสียทีว่าชอบเขา

หากวันหน้าเขาหนีไปมีแฟนขึ้นมา เธอคงได้รู้สึกเสียดายตายเลย

แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เธอก็จงกล้าหาญเข้าไว้ และลุยเข้าไปเลยค่ะ!

+ 7. ไม่ต้องรู้สึกสับสนกับสถานะของตัวเองอีกต่อไป +

สถานะของพวกเราคืออะไรกันนะ?

ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดออกมาตรงๆ กันเสียทีว่ารู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่าย สถานะก็ดูไม่ชัดเจนอยู่นั่นแหละ มองไม่ออกเลยว่าเป็นแค่เพื่อน เพื่อนสนิท หรือมากกว่านั้นกันไปแล้ว? หากเธออยาก

หลุดพ้นจากความสับสนเรื่องสถานะของตัวเองที่ดูไม่แน่นอน

เสียที การพูดออกไปว่าชอบเขา มันก็ช่วยเธอในเรื่องนี้ได้นะคะ

++++++++++++++++++

ข้อดีของการบอกความรู้สึกว่า " รักนะ 3000 " ไม่ก็ " ชอบมากเลย "

อะไรก็ได้ที่เป็นคำพูดแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง

ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าจะมีเยอะมากขนาดนี้

แถมแต่ละเรื่องก็น่าจะช่วยมอบความกล้าให้กับเธอในการสารภาพความรู้สึกออกไปได้ไม่มากก็น้อยเลยน่า

รู้อย่างนี้แล้ว เธอก็อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นทุกข์พราะเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองอีกเลย ไปเตรียมตัวให้พร้อมออกศึก และคิดหาคำพูดดีๆ ที่ตรงกับใจเธอสุดไปบอกกับหนุ่มที่รู้สึกดีๆ ด้วยกันโลดเลยเถอะ!

เจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ บ๊ายบายจ้า