รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-5.fna.fbcdn.net/vp/d4808b2d6c95db8c33a939cf196ad73f/5DAE6126/t51.2885-15/sh0.08/e35/p640x640/50231710_2346563062278206_8103975112539310304_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-5.fna.fbcdn.net

□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะแอลกอฮอล์มันไม่มีประโยชน์ เปลี่ยนมาดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรเถอะสดชื่น แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยแล้วไม่ต้องกลัวอี๋นะจ๊ะเพราะแต่ละสูตรที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ พูดตรงนี้เลยว่า ดื่มได้จริงๆ รสชาติดี ไม่น่าเกลียดหยิบมาแนะนำทั้งหมด10 สูตรเครื่องดื่มสมุนไพรอะ! แล้วเดี๋ยวก็จะมีคนถามต่ออีกว่าจะดื่มไปทำไมคะพี่!!เพราะฉะนั้นนอกจากสูตรเครื่องดื่มที่เราหยิบมาฝากแล้วเรายังมาบอกถึงสรรพคุณของสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องดื่มนั่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรกันเยอะไปดูกันเลยดีกว่าว่าเครื่องสมุนไพรที่หยิบมาแชร์ในวันนี้ มีเครื่องดื่มแบบไหนบ้างเช็คลิสต์ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □

1. น้ำใบเตย

รูปภาพ:https://www.baanlaesuan.com/app/uploads/2017/05/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1.jpg

น้ำใบเตย 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรีนอกจากจะหอมหวานสดชื่นแล้ว รู้มั้ยว่าน้ำใบเตยยัช่วยบำรุงประสาท บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตได้อีกเห็นมั้ยว่าน้ำสมุนไพรมีประโยชน์เยอะแยะ งั้นเราไปดูส่วนผสมและวิธีทำน้ำใบเตยกันเลยดีกว่า รับรองว่าเครื่องดื่มแก้วนี้จะต้องถูกเพื่อนๆ หลายๆ คนอย่างแน่นอนค่ะ!ส่วนผสมใบเตยหอมเกลือ เล็กน้อยน้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบน้ำเปล่าวิธีทำ1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อยๆ จนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี ตักเอาใบเตยออก ปิดเตา3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่แก้วน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ

2. น้ำกระเจี๊ยบ

รูปภาพ:https://bit.ly/32gqDpJ

น้ำสีแดงๆ แบบนี้ ไม่ใช่น้ำแดงค่ะซิส แต่เป็นน้ำกระเจี๊ยบ อีกหนึ่งน้ำสมุนไพรที่หลายๆ คนชอบดื่มกัน รสชาติออกหวานนิดเปรี้ยวหน่อย ดื่มแล้วสดชื่น ยิ่งดื่มแบบเย็นๆ อือหือ! ยิ่งฟินค่ะน้ำกระเจี๊ยบ 1 แก้ว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่มาพร้อมสรรพคุณดีๆ ทั้งช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือด ซึ่งก็เหมาะกับผู้หญิงที่เลือดลมไม่ดีลดอาการไอและอาการเจ็บคอ แล้วรู้มั้ยว่าน้ำกระเจี๊ยบมีวิตามินซีสูง จึงสามารถแก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้อย่างดีเยี่ยมด้วยทั้งนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย พูดได้คำเดียวว่า Good!ส่วนผสมดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1 กำมือพุทราจีน 1 กำมือน้ำ 1-1.5 ลิตรน้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยเกลือป่น 1 ช้อนชาวิธีทำ1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก ( อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร )2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย ( ชิมรสตามต้องการ ) ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทเก็บใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม

3. น้ำใบบัวบก

รูปภาพ:https://s.isanook.com/he/0/ud/1/8525/gotu-kola-baibuabok.jpg

สีเขียวของน้ำใบบัวบกอาจจะไม่ค่อยถูกใจใครหลายๆ คนเท่าไหร่ แต่เค้าดื่มได้นะทุกคน รสชาติก็ไม่ได้แย่ด้วย แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ อีกต่างหากน้ำใบบัวบก 1 แก้ว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่สรรพคุณของเค้าคือช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลาเจนและอิลาสติกให้ผิวหนังเปล่งปลั่งอยากผิวสวยดื่มเลย! นอกจากนี้ยังช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น แก้อักเสบหรือช้ำใน เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ มีวิตามินและแคลเซียมในปริมาณสูงอีกด้วยส่วนผสมใบบัวบก 600 กรัมน้ำ 6 ถ้วยใบเตย มัดเป็นปม 2-3 ใบน้ำเชื่อม 1+1/2 ถ้วยวิธีทำ1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกจนหมด จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้นๆ เตรียมไว้2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำ ทำซ้ำจนหมด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำเตรียมไว้4. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทน้ำใบบัวบกใส่ลงไป พร้อมดื่ม

4. น้ำมะตูม

รูปภาพ:https://1.bp.blogspot.com/-wg7nMqwI4WQ/WKHd92kYqfI/AAAAAAAAAXo/6RUGikawNGoQDXhKg9d51iPa4U1LJHJwACLcB/s1600/%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%25A1.jpg

น้ำมะตูมเป็นอีกหนึ่งน้ำนะ ที่น้องวัยใสสามารถดื่มกันได้ รสชาติไม่ได้แย่ อร่อยและสดชื่นมากๆ ด้วยน้ำมะตูม 1 แก้ว ให้พลัง 120 กิโลแคลอรี่น้ำมะตูมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นยาระบายขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ และแก้อาการร้อนในได้ดีส่วนผสมมะตูมแห้ง 8 กรัมน้ำ 300 กรัมน้ำตาลทราย 15 กรัมวิธีทำ1. นำมะตูมแห้งไปปิ้งไฟจนมีสีเหลืองจัด2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะตูมลงไป เครียวสักครู่3. เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ เสร็จแล้วยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง จัดเสิร์ฟใส่แก้วได้เลยค่ะ

5. น้ำอัญชัน

รูปภาพ:https://herbdailys.com/wp-content/uploads/2018/02/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99.png

อย่างที่รู้กันดีว่าสรรพคุณของดอกอัญชันนอกจากเอามาบำรุงผมให้ดกดำหรือคั้นน้ำมาทำขนมได้แล้วยังทำเป็นน้ำสมุนไพรได้อีกด้วย น้ำดอกอัญชันสามารถรักษาอาการอาหารเป็นพิษและช่วยล้างสารพิษ ขับของเสียออกจากร่างกายได้ทั้งยังลดอาการปวดเมื่อยช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังทำให้ร่างกายมีแรงขึ้นนอกจากนี้แล้วยังมีประโยชน์อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง ป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชาเรียกได้ว่าดีต่อร่างกายสุดๆ แบบนี้มองข้ามไม่ได้แล้ว!

ส่วนผสมดอกอัญชัน 100 กรัมน้ำสะอาด 2 ถ้วยน้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. นำดอกอัญชันล้างน้ำให้สะอาด แล้วไปต้มกับน้ำสะอาดจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อต้ม2. นำน้ำดอกอัญชันที่ได้ผสมน้ำเชื่อม และน้ำผึ้งผสมรวมกัน ชิมรสตามชอบ และเมื่อทำเสร็จควรรีบดื่มให้หมดเพื่อให้ได้สารอาหารที่มีคุณค่า

6. น้ำว่านหางจระเข้

รูปภาพ:https://www.organicfacts.net/wp-content/uploads/aloeverajuice.jpg

ไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงผิวของเราให้ดูชุ่มชื้นหรือช่วยรักษาพวกรอยไหม้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่านหางจระเข้ก็เป็นอีกหนึ่งน้ำสมุนไพรดีๆ ที่พลาดไม่ได้รู้มั้ยว่าน้ำว่านหางจระเข้มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลากหลายด้าน แล้วใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก น้ำว่านหางจระเข้แก้วนี้ก็ช่วยได้นะจ๊ะน้ำว่านหางจระเข้มีสรรพคุณเป็นยาระบายโดยสารอาหารในว่านหางจระเข้จะช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดและด้วยคุณสมบัติช่วยล้างพิษ กระตุ้นการขับถ่ายนี่เอง จึงทำให้ว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีเอ้า! ไปดื่มซิ รออะไรส่วนผสมว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยตวงน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงน้ำผึ้ง ½ ถ้วยตวงวิธีทำ1. นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างเพื่อเอาน้ำยางออกให้หมด ทำความสะอาดบริเวณลำต้นให้สะอาด2. เสร็จแล้วหั่นว่านหางจระเข้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำลงไป ปั่นให้ละเอียด3. นำว่านหางจระเข้ที่ปั่นแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกรองเศษของว่านออกเหลือแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้งลงในน้ำว่านหางจระเข้ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่แก้วได้เลย

7. น้ำเก็กฮวย

รูปภาพ:http://www.thaiheartfound.org/assets/filemanager/userfiles/12102017.jpg

เก๊กฮวย สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้มีไว้ทำเครื่องดื่มแก้กระหายอย่างเดียว ดอกเก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็นช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แถมยังแก้อาการร้อนในได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยส่วนผสมดอกเก๊กฮวยแห้งน้ำตาลทราย 3-5 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่า 1.5 ลิตรวิธีทำ1. นำเก๊กฮวยที่เตรียมไว้ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นเคียวไฟประมาณ 5 นาที2. เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามใจชอบ แล้วเคี่ยวต่อให้น้ำตาลละลายดี จากนั้นปิดไฟ เทใส่แก้วหรือนำไปแช่เย็นให้เย็นก่อนแล้วค่อยดื่มก็ได้

8. น้ำตะไคร้ใบเตย

รูปภาพ:http://www.softservefruitco.com/wp-content/uploads/2016/11/Juice12.jpg

คือถ้าเป็นน้ำตะไคร้อย่างเดียว เราว่าน้องๆ หลายๆ คนอาจจะดื่มไม่ไหว ฉะนั้นเพิ่มความหอมของใบเตยเข้ามาหน่อย น่าจะช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้นเนอะพอจับทั้งสองอย่างมารวมกันแล้ว แน่นอนว่าประโยชน์ที่เราจะได้รับก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างใบเตยมีสารที่สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยบำรุงหัวใจได้ส่วนตะไคร้มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมจุกเสียดในช่องท้องแน่นอนว่าเมื่อทั้งสองมามิกซ์รวมกันแล้ว มันจะต้องดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลยละส่วนผสมน้ำ 1 ลิตรใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก 5 ใบตะไคร้ทุบ 3 ต้นน้ำตาลทราย 100 กรัมน้ำมะนาว ปริมาณตามชอบน้ำแข็งวิธีทำ1. ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย และตะไคร้ ต้มจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสี ยกลงกรองเอากากออก2. เทน้ำตะไคร้ใบเตยกลับใส่หม้อต้มอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น3. ตักน้ำตะไคร้ใบเตยลงในแก้ว ตามด้วยน้ำมะนาวตามชอบ ใส่น้ำแข็ง พร้อมดื่ม

9. น้ำมะเฟือง

รูปภาพ:https://s.isanook.com/he/0/rp/r/w700/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL2hlLzAvdWQvMS81NDkzL3RodW1iX3N0YXJmcnVpdF8xLmpwZw==.jpg

เคยดื่มกันมั้ย รู้มั้ยว่ามะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะรับประทานสดๆ เป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อสุขภาพได้อีกด้วยเพราะในมะเฟืองนั้นมีวิตามินซีสูง ดื่มแล้วสดชื่นทั้งยังเป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง ขับปัสสาวะรวมทั้งป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วยค่ะส่วนผสมมะเฟืองสุก หั่นเป็นชิ้น 5 – 6 ผลน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวงเกลือ 1 ช้อนชาน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงวิธีทำ1. ใส่เนื้อมะเฟือง และน้ำต้มสุกลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ ตักน้ำมะเฟืองใส่แก้ว ใส่น้ำเชื่อมและเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็ง พร้อมดื่ม

10. น้ำขิง

รูปภาพ:https://s.isanook.com/he/0/ud/1/9265/ginger-lime-lemon.jpg

น้ำสมุนไพรแก้วสุดท้ายที่หยิบมาแชร์ในวันนี้ น้ำขิง รู้มั้ยว่าน้ำขิงมีประโยชน์ต่อสาวๆ อย่างเรามากๆ เลยนะ ทั้งแก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ในช่วงวันนั้นของเดือนนอกจากนี้สรรพคุณที่ดีต่อใจอีกอย่างคือน้ำขิงช่วยลดน้ำหนักได้มันเริ่ด!น้ำขิงอุ่น ๆ 1 แก้ว ดื่มก่อนมื้ออาหารสัก 1.30 ชั่วโมงรสเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย ช่วยลดความอยากอาหารและช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกดี๊ดีอะ!ส่วนผสมขิงแก่ 1 กิโลกรัมน้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวงน้ำสะอาด 3 ลิตรวิธีทำ1. นำขิงแก่มาปอกเปลือกออก จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด 1-2 น้ำ แล้วทุบให้แตก เสร็จแล้วใส่น้ำสะอาดลงในหม้อขนาดพอเหมาะ พร้อมใส่ขิงที่ทุบแล้วลงไป จากนั้นนำหม้อขึ้นตั้งไฟเพื่อเคี่ยวน้ำขิงออกมา2. เมื่อน้ำเดือดให้เบาไฟลงและเคี่ยวอีกสักพักหรือประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำขิงละลายออกมาจนเป็นน้ำสีเหลืองอ่อนๆ3. ยกหม้อขึ้นจากเตาเมื่อเคี้ยวน้ำขิงจนได้ที่แล้ว ตักน้ำใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ โดยให้เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนละลาย ก็พร้อมดื่มได้ทันที4. สำหรับใครที่อยากดื่มน้ำแข็งแบบเย็นๆ ให้รู้สึกชื่นใจ แค่เติมน้ำแข็งลงไปสักหน่อย ก็จะได้น้ำขิงที่อร่อย สดชื่นทุกครั้งที่ดื่มแล้วล่ะ

รูปภาพ:https://s.isanook.com/he/0/ud/1/9265/ginger-lime-lemon.jpg

□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □เป็นยังไงบ้าง นี่คือเครื่องดื่มสมุนไพรนะ ไม่ใช่แค่ดื่มได้จริงๆ แต่เห็นมั้ยว่า แต่ละเครื่องดื่มที่เราหยิบมาแชร์เพื่อนๆ ในวันนี้ ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น ใครที่ยังไม่เคยดื่ม อยากให้ลองเปิดใจ นอกจากราคาจะถูกแล้ว ยังทำตามสูตรได้ง่ายๆ ด้วย มันดีจริงๆ ค่ะ อยากให้ลองดื่มกันดูไม่เสียหายถ้าได้ลองดื่มสักแก้ว ลองไปทำตามสูตรที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ดู สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย