▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲อย่ามาว่าหน้าเรานะ ใครว่าเราหน้าบาน ตีปากแตกเลยนะ!เค้าไม่ได้เรียกว่าหน้าบานจ้ะ แต่เค้าเรียกว่าโหนกแก้มกล้นดูปากหนูอีกทีนะคะ โหนกแก้มล้นจ้ะพี่จ๋า ก็ว่าจะลดอยู่ นี่มีวิธีลดโหนกแก้มแบบปังๆ มาฝาก รับรองว่าได้ผลชัวร์!หน้าไม่ได้บาน แค่โหนกแก้มล้น มาดูฮาวทู 7 วิธี ลดโหนกแก้มกัน!วิธีง่ายๆ ที่สาวๆ สามารถใช้เงินในการแก้ปัญหาได้ค่ะ!แต่ถ้าไม่มีเงินมากพอ ก็ไม่เป็นไร เรามีวิธีง่ายๆ มาฝากเช่นเดียวกันรับรองว่าจากหน้าบานๆ จะเรียวเล็กดูสวยขึ้นมาทันทีมีทั้งแบบศัลและไม่ศัล อาจจะไม่ถึงขนาดเอามีดมาผ่าหรือทุบโหนกให้ยุบ ( มันเจ็บอะเนอะ )เอาเป็นว่าลองไปดูกันค่ะ จะมีวิธีลดโหนกแบบไหนบ้าง เราไปดูกันเลย
▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲
1. ลดไขมันแก้มด้วยท่าดูดแก้ม!
วิธีแรกเปิดมาที่โยคะใบหน้ากันเลยดีกว่าเนอะวิธีนี้จะช่วยลดไขมันแก้มได้ค่ะอาจจะไม่ได้ช่วยให้โหนกแก้มของเราหายอย่างถาวร แต่ก็ถือว่าซอฟต์ๆ เบาๆ พอช่วยได้บ้างแหละเนอะท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อแก้มของคุณสวยได้รูปขึ้นวิธีง่ายๆ ทำตามได้ดังนี้เลย:เริ่มจากดูดแก้มของคุณเข้ามา ดูดให้ได้มากที่สุดและทำปากจู๋ทำค้างไว้ 30 วินาที จากนั้นปล่อยปากและหายใจออก ทำวนไปซ้ำๆ ประมาณ 10 ครั้งแต่ถ้าใครที่เพิ่งเริ่มทำใหม่ๆ ให้เริ่มจาก ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 5 ครั้งเพียงเท่านี้ก็เตรียมต้อนรับหน้าเรียวสวยได้เลยจ้า
2. ฉีดไหมสลายไขมันลดโหนกแก้ม
ถัดมาที่วิธีที่สองเลยค่ะซิส คราวนี้เรามาใช้เงินในการแก้ปัญหากันบ้างดีกว่า วิธีนี้เป็นการฉีดไหมสลายไขมันลดโหนกแก้มนั่นเอง คือถ้าผ่าตัดหรือทุบโหนกแก้ม มันอาจจะแรงไปนิดนึง เราเลยแนะนำเป็นวิธีจำพวกฉีดๆ แบบนี้แทนจะดีกว่าเนอะ อย่างวิธีนี้เป็นการฉีดไหมละลายชนิดพิเศษเข้าไปที่ชั้นไขมันในโหนกแก้มโดยเส้นไหมจะปล่อยตัวยาที่มีฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์ไขมัน โดยเข้าไปลดขนาดของเซลล์ไขมันเฉพาะจุดและกระชับผิวหนังรอบๆ ทำให้โหนกแก้มหดตัวลงแล้วไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยนะจ๊ะ เพราะวิธีนี้มีความปลอดภัยสูง อย่างที่บอกคือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล เหมาะกับคนที่มีไขมันโหนกแก้มหนาๆข้อดีของวิธีนี้คือเจ็บน้อย เห็นผลเร็วและไม่มีแผลข้อเสียก็มีเหมือนกัน คือถ้าสาวๆ ไม่ควบคุมน้ำหนัก โหนกแก้มก็อาจจะกลับมาใหญ่เหมือนเดิมได้ อาจจะต้องไปฉีดซ้ำนะจ๊ะ
3. ฉีดโบลดโหนกแก้ม
ฉีดที่สองที่อยากจะแนะนำคือฉีดโบลดโหนกแก้มวิธีนี้ก็คล้ายๆ กับการฉีดสลายไขมันบริเวณโหนกแก้มนั่นแหละ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่มีโหนกแก้มใหญ่แบบมีกล้ามเนื้อค่อนข้างมากการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อและโหนกแก้มมีขนาดเล็กลงข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บ แถมยังเห็นผลเร็วด้วยข้อเสียของวิธีนี้อาจจะช่วยลดขนาดโหนกแก้มได้ไม่มากเท่าที่ควรและมีผลข้างเคียงอื่นๆ เหมือนกับการฉีดโบท็อกซ์ทั่วไปฉะนั้นควรปรึกษาคุณหมอให้ดีๆ ผลลัพธ์จะอยู่ได้แค่ชั่วคราว และต้องกลับไปฉีดซ้ำทุก 3 - 6 เดือนค่ะ
4. ร้อยไหมปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
ข้ามเรื่องของการฉีดไปก่อน มาดูที่วิธีนี้กันดีกว่าค่ะ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และมีผลข้างเคียงน้อยการร้อยไหมเป็นวิธีการศัลยกรรมแบบหนึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถปรับรูปหน้าของสาวๆ ให้กลับมาเรียวสวยได้ซึ่งไหมที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น“ ไหมละลาย ”วิธีนี้จะเป็นการยกกระชับ เก็บเหนียง ปรับรูปหน้าทำให้เรียวเป็น V-Shapeอย่างที่รู้ๆ กัน วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ฮิตมากๆช่วยยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเต่งตึง ทั้งยังช่วยทำให้โหนกแก้มที่เคยชัดดูกลมกลืนกับบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ดีอีกด้วยเวิร์คมากแม่! ใครที่สนใจวิธีนี้มากกว่าวิธีฉีดแบบอื่นๆ ลองไปปรึษาคุณหมอดู นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อยากจะแนะนำสาวๆ ทำแล้วไม่เฟลแน่นอนจ้า
5. ใช้นิ้วนวดหน้า
เวลาเราลงสกินแคร์ เราอย่าทำแค่ทาๆ แล้วก็จบๆ ไปซิค่ะลองนวดหน้าง่ายๆ โดยใช้นิ้วมือของเรานี่แหละวิธีนี้จะช่วยทำให้หน้าเรียวสวยได้นะโดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง นวดแก้มทั้งสองข้าง โดยเริ่มจากข้างจมูกริมดั้ง ย้อนรูขุมขนขึ้นไปจนถึงเหนือขมับทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่องประมาณ 60 - 70 ครั้ง หรือประมาณ 1 นาที จำไว้ว่าเวลาที่สาวๆ กดจุดบนใบหน้า อย่าลืมเอาฝ่ามือด้านในกวาดเนื้อตรงคางขึ้นไปด้วยนะ หน้าของเราจะได้ดูเรียวๆไง คล้ายกับใช้เครื่องนวดหน้านั่นแหละ หลังทำครั้งแรกจะรู้สึกได้ว่าหน้าตึงๆ หน่อย ไม่ต้องตกใจ พอทำไปสักประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงวิธีนี้นอกจากจะช่วยลดแก้มได้แล้ว ยังช่วยให้ริมฝีปากบนดูหนาขึ้น ทำให้ปากดูสมส่วน แถมจมูกก็ดูชัดขึ้นด้วยง่ายๆ แบบนี้ ทำตามกันได้เลย
6. ฉีดฟิลเลอร์ลดโหนกแก้ม
ฉีดอย่างสุดท้ายที่เราหยิบมาแชร์ในวันนี้ก็คือการฉีดฟิลเลอร์ลดโหนกแก้มนั่นเองเป็นการฉีดสารเติมเต็มหรือไขมันในบริเวณขมับและใต้โหนกแก้มซึ่งเหมาะกับคนที่ใบหน้ามีโครงสร้างกระดูกชัดเจน ทำให้เห็นโหนกแก้มสูงพอเติมฟิลเลอร์ (Filler) หรือไขมันเข้าไปในบริเวณขมับและแก้มตอบแล้วจะทำให้ใบหน้าดูอิ่ม ได้รูปขึ้น โหนกแก้มที่เคยเห็นชัดก็จะดูดีขึ้นด้วยเป็นวิธีที่เจ็บน้อย แถมผลลัพธ์ที่ได้ยังดีต่อใจอีกแต่เค้าก็แอบมีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่เหมาะกับคนที่โหนกแก้มใหญ่จากกระดูกหรือมีไขมันสะสมมากอาจจะต้องใช้วิธีอื่นเพื่อลดขนาดของโหนกแก้มก่อน แล้วถึงจะมาใช้วิธีนี้ควบคู่ไปด้วยได้
7. เจ็บน้อยและไม่มีแผล ด้วยวิธียกกระชับโหนกแก้ม
และวิธีสุดท้ายที่เราหยิบมาฝากเพื่อนสาวในวันนี้ เป็นวิธีที่สาวๆ หลายๆ คนเลือกใช้ นั่นคือการยกกระชับผิวบริเวณรอบโหนกแก้มนั่นเองค่ะ วิธีนี้จะเป็นการใช้คลื่นชนิดพิเศษยิงเข้าไปในชั้นผิวของเราเพื่อให้เกิดการบาดเจ็บขนาดเล็กในร่างกายและเกิดการตอบสนองโดยสร้างคอลลาเจนชั้นใหม่ให้แก่ผิวส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับเต่งตึงขึ้นเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่โหนกแก้มใหญ่แบบที่ไม่ได้เกิดจากกระดูกและไขมันสะสม จริงๆ แล้วมีหลายคลื่นมากๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นคลื่นวิทยุ ( Radiofrequency, RF ), คลื่นวิทยุความถี่สูง Thermage, คลื่นอัลตร้าซาวน์ ( Ultherapy ), คลื่นโฟกัสอัลตร้าซาวน์ HIFUลองปรึกษาคุณหมอดูเนอะผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของคลื่นและปริมาณชอตที่ยิงเข้าไปข้อดีของการใช้เป็นวิธีนี้ จะเจ็บน้อย ไม่มีแผลผ่าตัด แถมยังเห็นผลรวดเร็วผลพลอยได้คือผิวเต่งตึงขึ้นและดูเด็กลงด้วยค่ะแต่ก็แอบมีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ วิธีไม่เหมาะกับคนที่โหนกแก้มใหญ่จากกระดูหรือไขมันสะสม เพราะอาจจะยิ่งเน้นให้โหนกแก้มดูใหญ่มากขึ้นหลังทำ ฉะนั้นลองเลือกเป็นวิธีอื่นดูนะ
▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ใครที่มีงบหน่อย อยากโหนกหายแบบทันใจ ลองวิธีทางการแพทย์ดู ซึ่งทุกวิธีมันก็มีความเสี่ยง แม้จะไม่ได้ทุบหรือผ่าตัดอะนะ ฉะนั้นคุยกับคุณหมอให้ดีๆ นะจ๊ะ แต่ถ้างบน้อย ลองเลือกเป็นวิธีโยคะหรือนวดหน้าแทนก็ได้ อาจจะใช้เวลาหน่อยกว่าจะเห็นผล ก็ไม่เป็นไรเนอะ ลองเลือกวิธีที่เพื่อนๆ คิดว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด มีให้เลือกตั้ง 7 วิธี สะดวกวิธีไหน จัดไปโลด!!สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย
