สาวบางคนก็เหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆ นั่นคือ " กลัวและรู้สึกผิดที่จะกินอาหาร " ( ภาษาอังกฤษเรียกว่า food guilt )
อาการคือไม่กล้ากินอาหารแคลอรี่สูง หรือถ้าเผลอกัดกินไปสักคำ จะรู้สึกผิดอย่างมาก รู้สึกผิดยิ่งกว่าฆ่าคนตายซะอีก!
อาการนี้มักจะเกิดกับคนที่เพิ่งลดความอ้วนได้น้ำหนักตามเป้าหมาย หรือคนทีไม่เคยอ้วน เพราะควบคุมน้ำหนักมาตลอดชีวิต กลัวเริ่มกินแล้วจะตบะแตก!
อย่าเศร้าเสียใจไป โลกนี้ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น! เรามีวิธีทำให้เธอกินได้เหมือนมนุษย์ปกติอีกครั้ง เพียงแค่ทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้
รับรองว่าเธอจะไม่หวาดกลัวน้ำตาลเคลือบบนโดนัท ไส้ครีมเยิ้มๆ ในเค้ก หรือลูกกวาดรสหวานอีกต่อไป ไปดูกันเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง!
1. หาสาเหตุให้เจอ ว่าทำไมเธอกลัวที่จะกิน
ลองสังเกตสิ คนที่ไม่มีความทุกข์ ความเครียดในชีวิตอย่างเด็กทารก หรือเด็กวิ่งเล่นทั่วไป พวกเขาก็กินโน่นกินนี่กันตามปกติ ไม่ต้องละอาย เครียด กินแล้วอยากล้วงคอเสียเมื่อไหร่ อยากกินอะไรก็กิน!
ต้องมีสาเหตุที่วัยรุ่นอย่างเธอกลัวการกิน จริงไหม อาจเป็นญาติพี่น้องที่ชอบย้ำว่าเธออ้วน หรือเสพสื่อออนไลน์ นิตยสารที่หน้าปกเป็นนางแบบสาวผอมเพรียวเหมือนถูกจับไปขังที่เอธิโอเปีย =_= ต้องมีสักสาเหตุหนึ่งสิน่า
พยายามหาสาเหตุให้ได้ เมื่อเธอรู้ต้นตอแล้ว จะแก้โรคนี้ได้ง่ายขึ้น!
2. อย่าไปฟังคำห้าม คำเตือนว่า " ห้ามกิน " ของคนอื่นมากเกินไป
มีสาวๆ หลายคนที่เป็นโรค " กลัวการกิน " เพราะเจอแรงกดดันจากภายนอก ไม่ใช่ใคร คำพูดคำเตือนที่บอกว่าหวังดีของพ่อแม่หรือเพื่อนสนิทนี่แหละ!
ยกตัวอย่างเช่น เธอชอบกินไส้กรอกสุดๆ แต่พ่อหรือแม่ก็เอาแต่บอกว่า ถ้ากินไส้กรอกจะอ้วน จะอ้วน จะอ้วน!!!
ย้ำไปมาจนสมองจดจำว่าไส้กรอกคือ " อาหารอันตราย " โดยอัตโนมัติ ในที่สุดก็กลัวที่จะเอาเข้าปากไปโดยปริยาย!
พยายามทำหูทวนลมบ้างก็ได้ ตราบใดที่เธอรู้ขีดจำกัดของตัวเองว่าควรกินกี่ชิ้น ก็ไม่อ้วนขึ้นหรอก วางใจเถอะ!
3. กินอาหารให้ครบหมู่
อาหารเป็นเชื้อเพลิงอย่างหนึ่ง และถ้ามันไม่ขึ้นรา แบคทีเรียขึ้น มันก็ไม่ใช่อาหาร " ขยะ " เสียทีเดียวหรอก!
เธอไม่ควรกินช็อกโกแลตแท่งเป็นอาหารเย็นก็จริง แต่ถ้าเธอเอาแต่เคี้ยวผัก เคี้ยวแครอทโดยไม่แตะอย่างอื่นเลย เธอก็จะขาดสารอาหารเช่นกัน!
หลักสำคัญคือการกินอาหารอย่างเหมาะสมครบห้าหมู่ ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล
กินช็อกโกแลตได้บ้าง ยังไงน้ำตาลทำให้ร่างกายมีแรงนะจ๊ะเธอ!
4. " รวม " อาหารให้อยู่ในมื้อเดียวกัน ไม่ใช่ " จำกัด " ปริมาณอาหาร
เวลาสาวๆ ต้องกินอาหารที่น้อยสุดๆ เหมือนแมวดม สมองจะสั่งการให้รู้สึกเครียด เส้นเลือดขึ้นตุบๆ ทันที กินแต่ข้าวกล้องกับผักจืดๆ น่าเบื่อเป็นที่สุด แต่ก็ไม่กล้ากินขนม!
ก
ารทำแบบนี้จะเกิดความวิตกจริต กดดันที่ต้องมานั่งสะกดจิตตัวเองว่าเธอกิน" อาหารคลีน "อยู่
แทนที่จะนับแคลอรี่อย่างบ้าคลั่ง หรืองดแป้งจนเดินแล้วเซจะล้มล่ะก็ ลองรวมอาหารให้ครบ 5 หมู่อยู่ในจานเดียว แต่จำกัดปริมาณสิ
เธอจะรู้สึกว่ายังกินน้อยอยู่ แต่ที่จริงได้สารอาหารครบถ้วนไปเต็มๆ!
5. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ " อาหาร "
จะบอกว่า" ให้อภัยอาหาร "ก็คงจะไม่ผิดนัก!
พยายามศึกษาความรู้ของอาหารชนิดต่างๆ ให้ลึกซึ้ง เธอจะรู้ว่าไม่มีอาหารชนิดไหนที่เป็นอันตรายอย่างแท้จริง ถ้าเธอเลือกชนิดของอาหารที่กินและออกกำลังกายควบคู่อย่างเหมาะสม
หยุดหมายหัวว่าอาหารมันๆ ทำให้เธออ้วน ที่เธอตัวพองเป็นโดเรมอน เพราะเธอกินแล้วนั่งทั้งวันต่างหากเล่า!
ถ้าเธอปล่อยวาง และยอมกินอาหารทุกชนิดบนโลกนี้ได้แล้วล่ะก็ โลกจะสดใสขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ!
เอา
เวลากังวลเรื่องพวกนี้ไปทำอย่างอื่นสิ เช่น ไปช้อปปิ้ง เลี้ยงหมา เล่นเกม หมกมุ่นกับอาหารมากไปก็ไม่ดีหรอกนะเออ!
6. หาสาเหตุว่าทำไมเธอถึง " กินแหลก "
การลงโทษตัวเองหลังจาก " กินแหลกไร้สติ " ด้วยการทำร้ายตัวเอง หรืออดอาหารทั้งวันในวันถัดไป ไม่เกิดผลดีอะไรขึ้นมาหรอกนะ!
ตรงกันข้าม เธอจะติดอยู่ในวังวนอุบาทว์ ทำร้ายตัวเอง-กิน-รู้สึกผิด-ทำร้ายตัวเอง-กิน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจบสิ้น!
ลองหาสาเหตุซิว่า แรงกดดันแบบไหนที่มักทำให้เธอตบะแตก
เช่น เครียดจากที่โรงเรียน/ที่ทำงาน มีปัญหาด้านการเงิน ค่าขนมไม่พอใช้ ผิดใจกับเพื่อนสนิท ทะเลาะกับพ่อแม่ หรือมีปัญหากับแฟน
บางครั้งเราใช้การ " กิน " เพื่อปกปิดความหม่นหมองภายในใจ ทำให้ลืมความเครียดไปชั่วขณะ
แต่ในที่สุดก็ไม่ยั่งยืนหรอก แป๊บเดียวกลับมา
อ้วนกว่าเดิม
อีก โบกมือลาขาด!
7. เรียนรู้ที่จะ " รักตัวเอง "
ความรู้สึกผิดในการกินอาหาร มักเกิดขึ้นจากพ่อแม่ที่มีนิสัยจอมบงการ จุกจิกจู้จี้ อยากให้ลูกหุ่นดีแข่งกับข้างบ้าน หรือมีความเชื่อทางสังคมว่าผอมแล้วสวย
ในที่สุดค่านิยมนี้จะถูกปลูกฝังในใจเธออย่างช้าๆ ซึ่งไม่ใช่ผลดีกับสุขภาพของเธอในภายภาคหน้าเลยนะ
เรียนรู้ที่จะรักตัวเองบ้าง!
ถ้าเธอเผลอกินคุกกี้เกินโควต้าไปหนึ่งชิ้น ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรหรอก
ลืมความรู้สึกด้านลบไปบ้าง
การกินอาหารรสอร่อยไม่ใช่เรื่องผิดซะหน่อย เธอไม่ใช่นก เธอเป็นคน จะให้กินแต่เมล็ดธัญพืชก็ไม่ไหวนะ
===========================
บางครั้งสาวๆ ก็ยึดติดกับตัวเลขบนตาชั่งและรูปร่างผอมเพรียวของนางแบบบนปกนิตยสารมากเกินไป!ผู้หญิงไม่ได้เกิดมารูปร่างเดียวกันทุกคน บางคนมีรูปร่างใหญ่ส่วนบนบ้าง ใหญ่ส่วนล่างบ้าง แล้วแต่กรรมพันธุ์ บางคนลดให้ตายก็ไม่ผอม!ใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างสุขภาพดี ด้วยการคุมอาหาร ออกกำลังกายดีกว่า กินน้อยก็ใช่ว่าจะผอมเหมือนนางแบบรันเวย์ เผลอๆ จะถูกหามส่งโรงพยาบาลซะก่อนน่ะสิ!
อย่าใช้ชีวิตให้ตึงหรือหย่อนเกินไป กินอาหารได้ทุกอย่าง แต่เลือกชนิดอาหารและจำกัดปริมาณให้พอเหมาะพอควร เท่านี้ก็หุ่นดีในแบบของตัวเองแล้วขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ ><
===========================
Cr. 8 Tips for Banishing Food Guilt
http://www.activebeat.com/diet-nutrition/8-tips-for-banishing-food-guilt/
บทความที่เกี่ยวข้อง
10 สาเหตุชวนให้อยากกิน รู้ตัวอีกทีก็อ้วนซะแล้ว! (つд・)
https://sistacafe.com/summaries/2172
8 วิธีลดน้ำหนักได้แน่นอน แค่จัดระเบียบตู้เย็นแบบนี้!!
https://sistacafe.com/summaries/2169
10 คำพูดที่คนลดน้ำหนัก "ไม่อยากได้ยิน!!!" (ノ)ω(ヾ)
https://sistacafe.com/summaries/2171